ตอนที่ 4 ผมขอไข่ลวกเพิ่มสักสองฟอง

1161 คำ
“ถ้าฉันหยุดเธอจะยิ่งเจ็บ สัญญาฉันจะไม่รุนแรง เธอจะเจ็บแค่แป๊บเดียว ต่อไปเธอจะมีความสุข เชื่อสิว่าเธอจะชอบมัน” “คุณสัญญานะคะ” พิชญุตม์พูดเหมือนเข้ามานั่งอยู่ในใจเธอ ทว่าครั้งนี้คำพูดของเขากลับถูกต้อง ความเจ็บแปลบและความจุกเสียดอยู่กับเธอแค่ชั่วคราวก่อนที่มันจะอันตรธานหายไปแปรเปลี่ยนเป็นความหวาบหวิวและความเสียวซ่านเข้ามาแทนที่ เธอเหมือนคนที่กำลังจะดิ่งลงไปในหุบเหวลึก ทว่ามีก้อนเมฆขาวลอยมารับเอาไว้พาขึ้นไปยังสวนดอกไม้หลากสี ชื่นชมกับความสวยงาม ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติกที่มีสายรุ้งสีสดพาดยาว มีผีเสื้อแสนสวยบินวน มันเนิบนาบ ซ่าบซ่าน และดื่มด่ำ เป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยพานพบ แม้จะบอกตัวเองว่าห้ามอิน ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอชอบสัมผัสของเขา ชอบเสียงหายใจและเสียงครางต่ำของเขา รู้สึกดีทุกครั้งที่พิชญุตม์ขยับโยกตัวตนเข้าออกในกายสาว ยิ่งเขาขยับโยกตัวเองด้วยความรุนแรง ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกหวาบหวิวและเสียวซ่านมากขึ้น มันเป็นความรู้สึกที่เธออธิบายไม่ได้ รู้แค่ว่าเธอไม่อยากให้เขาหยุด... “รู้สึกดีใช่มั้ย? บอกแล้วไงว่าเธอจะชอบมัน” รอยยิ้มมุมปากของเขาทำให้มนนัทธ์ธรหน้าแดงจนอยากจะเบี่ยงหน้าหนี ทว่าสิ่งที่ทำคือการกอดลำคอหนาเอาไว้แน่น มองสบตาเขาอย่างเร่าร้อน ก่อนจะขยับแย้มริมฝีปากออกจากกันเพื่อรับจูบจากเขา ปากจูบปากแลกลิ้นกันดูดดื่ม สองแขนก็กอดรัดเขาเอาไว้แน่น ร่างกายส่วนล่างก็สอดประสานกันอย่างลงตัว ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองธรรมชาติโดยมีเขาเป็นผู้นำทางและเธอเป็นผู้ร่วมเดินทางที่พร้อมฟังคำสั่งนายพรานหัวหน้าทีม “อ่า...โคตรเสียว ข้างล่างเธอตอดรัดฉันแน่นแทบขาด” “อ๊ะ อือ คะ คุณพิช” “จะเสร็จแล้วเหรอ? หือ ว่าไงมนนัทธ์ธรเธอเสียวมากใช่ไหม รู้สึกดีที่ฉันขยับตัวแรงๆแบบนี้ใช่ไหม” “อ๊ะ...” “หือ ว่าไง เสียวใช่ไหม เธอรู้สึกดีใช่ไหม” มนนัทธ์ธรไม่ตอบ มองเขาตาปรือ ใบหน้าแดงก่ำส่ายวน ทั้งเขินทั้งอายกับคำพูดหยาบโลนของเขา คำพูดที่เธอรู้ดีว่าไม่มีทางปฏิเสธเขาได้ เพราะทุกการสัมผัสและการเคลื่อนไหวตัวตนอันแข็งร้อนของเขาทำให้เธอรู้สึกอย่างที่เขาพูดมา การขยับตัวตนโยกลึกของเขาทำให้เธอ...เสียวซ่าน การผ่อนหนักผ่อนเบาตัวตนของเขาทำให้เธอ...สยิว การหมุนวนตัวตนของเขาทำให้เธอ...หวาบหวิว และการซอยถี่ตัวตนอันแข็งร้อนของเขาทำให้เธอไม่เป็นตัวเอง ทำได้แค่กอดเขาเอาไว้แน่นและขยับร่างกายตามสิ่งที่เขาสอนและชักนำ ไม่รู้ว่าพิชญุตม์ขยับโยกสะโพกสอดประสานกับกายสาวเธอนานแค่ไหน รู้แค่ว่ากว่าเธอจะได้นอนโดยปราศจากร่างสูงทาบทับก็ผ่านพ้นวันใหม่มาหลายชั่วโมง เสียงหายใจสม่ำเสมอทำให้มนนัทธ์ธรขยับตัวช้าๆ ก้าวลงจากเตียงเพื่อเข้าห้องน้ำ ก่อนจะกลับออกมาล้มตัวลงนอนในที่ของตัวเอง ถ้าเป็นคู่แต่งงานอื่น ก็คงจะนอนกอดกันกลมดิกหลังผ่านช่วงเวลาเร่าร้อนในคืนเข้าหอ ทว่าไม่ใช่คู่ของเธอที่วงแขนแกร่งผละออกห่างจากร่างบางของเธอทันทีที่ทุกอย่างผ่านพ้น ต่างคนต่างนอนในฝั่งของตัวเอง ไม่ต่างอะไรจากคนแปลกหน้าที่บังเอิญได้นอนร่วมเตียงกัน ราวกับว่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเพียงความฝัน... เจ็ดนาฬิกาสี่สิบห้านาทีคือเวลาที่พิชญุตม์เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน เมื่อเดินมาถึงห้องอาหารก็เจอกับมารดากำลังนั่งทานข้าวต้มอยู่ที่หัวโต๊ะ มีร่างท้วมทว่ากระฉับกระเฉงเกินวัยหกสิบของป้าเจี๊ยบหัวหน้าแม่บ้านคนสนิทคอยดูแลอยู่ข้างๆ และสาวใช้อีกหนึ่งคนที่ยืนสแตนบายอยู่ไม่ไกล กวาดสายตามองจนทั่วแต่ทว่าก็ยังไม่เห็นคนที่นอนร่วมเตียงมาตลอดทั้งคืน ตอนตื่นนอนมีเพียงร่องรอยบุ๋มบนที่นอนกว้างกับชุดลำลองสำหรับใส่อยู่บ้านที่ถูกจัดเตรียมไว้เท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน งานแต่งเมื่อวานคือเรื่องจริง รวมทั้งเรื่องที่เกิดบนเตียงกว้างเมื่อคืนก็เรื่องจริงเช่นกัน พิชญุตม์ไม่ได้ใส่ชุดลำลองที่มนนัทธ์ธรจัดเตรียมไว้ให้ แต่หยิบเอาชุดทำงานที่แขวนเรียงรายอยู่ในตู้ออกมาใส่แทน ถ้าเป็นคนอื่นก็คงหยุดงานเพื่ออยู่บ้านกับภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกัน หรือไม่ก็พาอีกฝ่ายไปฮันนีมูนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ให้ชุ่มปอด แต่ทว่าไม่ใช่เขา... เพราะเขาไม่ใช่คนอยากแต่ง จึงไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องหยุดงานเพื่ออยู่ทำกิจกรรมร่วมกับเมียที่เขาไม่อยากได้ ต่างคนต่างอยู่คือสิ่งที่ถูกต้อง แต่ทว่าถ้าเธอทนอยู่ไม่ได้ก็แค่เซ็นต์ใบหย่า เก็บกระเป๋า แล้วเดินออกจากบ้านเขาไปพร้อมกับเงินสิบล้าน แน่นอนว่าเขาจะมีความสุขกับมันมาก เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุดในตอนนี้ “คุณพิชจะรับข้าวต้มปลาด้วยไหมคะ?” คำถามของป้าเจี๊ยบทำให้พิชญุตม์ที่นั่งประจำที่ตัวเองเรียบร้อยหันไปมอง ก่อนพยักหน้าเป็นคำตอบ “ก็ดีครับ อ้อ...เดี๋ยวครับป้าเจี๊ยบ” “คุณพิชจะรับอะไรเพิ่มคะ?” “ผมขอไข่ลวกเพิ่มสักสองฟอง” “ได้ค่ะ” คุณหญิงพิมพรชะงักมือที่กำลังตักข้าวต้มขึ้นทานเมื่อได้ยินคำตอบ ดวงตาที่เห็นโลกมานานกว่ามองเขม็งไปยังร่างสูงของลูกชายคนเดียวที่ไม่ลงรอยกันมาหลายปีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ในชุดทำงานเรียบร้อย ถ้าเธอบอกให้ไปซ้ายพิชญุตม์ก็จะไปขวาทันที และถ้าเธอบอกให้เดินไปข้างหน้า ลูกชายคนเดียวของเธอก็พร้อมที่จะหันหลังกลับอย่างไม่ลังเลเช่นกัน ต้องทำตัวเป็นปรปักษ์กับเธอทุกเรื่อง ไม่มีหรอกที่จะทำให้เธอพอใจ “แกจะไปทำงานเหรอ?” “ครับ” คนถูกถามตอบสั้นๆ ตักข้าวต้มขึ้นทาน ปกติตอนเช้าเขาจะไม่ทานอะไรนอกจากกาแฟดำ แต่เพราะเมื่อวานเขาแทบไม่ได้ทานอะไร บวกกับเมื่อคืนที่ใช้พลังงานไปเยอะกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปตีสองตีสาม กาแฟดำแก้วเดียวคงอยู่ไม่ถึงมื้อเที่ยง “เพิ่งจะแต่งงานเมื่อวาน วันนี้ไปทำงานแล้วคนอื่นเขาจะมองยังไง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม