“ถ้าฉันหยุดเธอจะยิ่งเจ็บ สัญญาฉันจะไม่รุนแรง เธอจะเจ็บแค่แป๊บเดียว ต่อไปเธอจะมีความสุข เชื่อสิว่าเธอจะชอบมัน”
“คุณสัญญานะคะ”
พิชญุตม์พูดเหมือนเข้ามานั่งอยู่ในใจเธอ ทว่าครั้งนี้คำพูดของเขากลับถูกต้อง ความเจ็บแปลบและความจุกเสียดอยู่กับเธอแค่ชั่วคราวก่อนที่มันจะอันตรธานหายไปแปรเปลี่ยนเป็นความหวาบหวิวและความเสียวซ่านเข้ามาแทนที่
เธอเหมือนคนที่กำลังจะดิ่งลงไปในหุบเหวลึก ทว่ามีก้อนเมฆขาวลอยมารับเอาไว้พาขึ้นไปยังสวนดอกไม้หลากสี ชื่นชมกับความสวยงาม ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติกที่มีสายรุ้งสีสดพาดยาว มีผีเสื้อแสนสวยบินวน
มันเนิบนาบ ซ่าบซ่าน และดื่มด่ำ
เป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยพานพบ
แม้จะบอกตัวเองว่าห้ามอิน ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอชอบสัมผัสของเขา ชอบเสียงหายใจและเสียงครางต่ำของเขา รู้สึกดีทุกครั้งที่พิชญุตม์ขยับโยกตัวตนเข้าออกในกายสาว ยิ่งเขาขยับโยกตัวเองด้วยความรุนแรง ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกหวาบหวิวและเสียวซ่านมากขึ้น
มันเป็นความรู้สึกที่เธออธิบายไม่ได้
รู้แค่ว่าเธอไม่อยากให้เขาหยุด...
“รู้สึกดีใช่มั้ย? บอกแล้วไงว่าเธอจะชอบมัน”
รอยยิ้มมุมปากของเขาทำให้มนนัทธ์ธรหน้าแดงจนอยากจะเบี่ยงหน้าหนี ทว่าสิ่งที่ทำคือการกอดลำคอหนาเอาไว้แน่น มองสบตาเขาอย่างเร่าร้อน ก่อนจะขยับแย้มริมฝีปากออกจากกันเพื่อรับจูบจากเขา
ปากจูบปากแลกลิ้นกันดูดดื่ม
สองแขนก็กอดรัดเขาเอาไว้แน่น
ร่างกายส่วนล่างก็สอดประสานกันอย่างลงตัว
ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองธรรมชาติโดยมีเขาเป็นผู้นำทางและเธอเป็นผู้ร่วมเดินทางที่พร้อมฟังคำสั่งนายพรานหัวหน้าทีม
“อ่า...โคตรเสียว ข้างล่างเธอตอดรัดฉันแน่นแทบขาด”
“อ๊ะ อือ คะ คุณพิช”
“จะเสร็จแล้วเหรอ? หือ ว่าไงมนนัทธ์ธรเธอเสียวมากใช่ไหม รู้สึกดีที่ฉันขยับตัวแรงๆแบบนี้ใช่ไหม”
“อ๊ะ...”
“หือ ว่าไง เสียวใช่ไหม เธอรู้สึกดีใช่ไหม”
มนนัทธ์ธรไม่ตอบ มองเขาตาปรือ ใบหน้าแดงก่ำส่ายวน ทั้งเขินทั้งอายกับคำพูดหยาบโลนของเขา คำพูดที่เธอรู้ดีว่าไม่มีทางปฏิเสธเขาได้ เพราะทุกการสัมผัสและการเคลื่อนไหวตัวตนอันแข็งร้อนของเขาทำให้เธอรู้สึกอย่างที่เขาพูดมา
การขยับตัวตนโยกลึกของเขาทำให้เธอ...เสียวซ่าน
การผ่อนหนักผ่อนเบาตัวตนของเขาทำให้เธอ...สยิว
การหมุนวนตัวตนของเขาทำให้เธอ...หวาบหวิว
และการซอยถี่ตัวตนอันแข็งร้อนของเขาทำให้เธอไม่เป็นตัวเอง ทำได้แค่กอดเขาเอาไว้แน่นและขยับร่างกายตามสิ่งที่เขาสอนและชักนำ
ไม่รู้ว่าพิชญุตม์ขยับโยกสะโพกสอดประสานกับกายสาวเธอนานแค่ไหน รู้แค่ว่ากว่าเธอจะได้นอนโดยปราศจากร่างสูงทาบทับก็ผ่านพ้นวันใหม่มาหลายชั่วโมง
เสียงหายใจสม่ำเสมอทำให้มนนัทธ์ธรขยับตัวช้าๆ ก้าวลงจากเตียงเพื่อเข้าห้องน้ำ ก่อนจะกลับออกมาล้มตัวลงนอนในที่ของตัวเอง
ถ้าเป็นคู่แต่งงานอื่น ก็คงจะนอนกอดกันกลมดิกหลังผ่านช่วงเวลาเร่าร้อนในคืนเข้าหอ ทว่าไม่ใช่คู่ของเธอที่วงแขนแกร่งผละออกห่างจากร่างบางของเธอทันทีที่ทุกอย่างผ่านพ้น
ต่างคนต่างนอนในฝั่งของตัวเอง
ไม่ต่างอะไรจากคนแปลกหน้าที่บังเอิญได้นอนร่วมเตียงกัน ราวกับว่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเพียงความฝัน...
เจ็ดนาฬิกาสี่สิบห้านาทีคือเวลาที่พิชญุตม์เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน เมื่อเดินมาถึงห้องอาหารก็เจอกับมารดากำลังนั่งทานข้าวต้มอยู่ที่หัวโต๊ะ มีร่างท้วมทว่ากระฉับกระเฉงเกินวัยหกสิบของป้าเจี๊ยบหัวหน้าแม่บ้านคนสนิทคอยดูแลอยู่ข้างๆ และสาวใช้อีกหนึ่งคนที่ยืนสแตนบายอยู่ไม่ไกล กวาดสายตามองจนทั่วแต่ทว่าก็ยังไม่เห็นคนที่นอนร่วมเตียงมาตลอดทั้งคืน ตอนตื่นนอนมีเพียงร่องรอยบุ๋มบนที่นอนกว้างกับชุดลำลองสำหรับใส่อยู่บ้านที่ถูกจัดเตรียมไว้เท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน
งานแต่งเมื่อวานคือเรื่องจริง
รวมทั้งเรื่องที่เกิดบนเตียงกว้างเมื่อคืนก็เรื่องจริงเช่นกัน
พิชญุตม์ไม่ได้ใส่ชุดลำลองที่มนนัทธ์ธรจัดเตรียมไว้ให้ แต่หยิบเอาชุดทำงานที่แขวนเรียงรายอยู่ในตู้ออกมาใส่แทน
ถ้าเป็นคนอื่นก็คงหยุดงานเพื่ออยู่บ้านกับภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกัน หรือไม่ก็พาอีกฝ่ายไปฮันนีมูนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ให้ชุ่มปอด
แต่ทว่าไม่ใช่เขา...
เพราะเขาไม่ใช่คนอยากแต่ง จึงไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องหยุดงานเพื่ออยู่ทำกิจกรรมร่วมกับเมียที่เขาไม่อยากได้
ต่างคนต่างอยู่คือสิ่งที่ถูกต้อง
แต่ทว่าถ้าเธอทนอยู่ไม่ได้ก็แค่เซ็นต์ใบหย่า เก็บกระเป๋า แล้วเดินออกจากบ้านเขาไปพร้อมกับเงินสิบล้าน แน่นอนว่าเขาจะมีความสุขกับมันมาก เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุดในตอนนี้
“คุณพิชจะรับข้าวต้มปลาด้วยไหมคะ?”
คำถามของป้าเจี๊ยบทำให้พิชญุตม์ที่นั่งประจำที่ตัวเองเรียบร้อยหันไปมอง ก่อนพยักหน้าเป็นคำตอบ
“ก็ดีครับ อ้อ...เดี๋ยวครับป้าเจี๊ยบ”
“คุณพิชจะรับอะไรเพิ่มคะ?”
“ผมขอไข่ลวกเพิ่มสักสองฟอง”
“ได้ค่ะ”
คุณหญิงพิมพรชะงักมือที่กำลังตักข้าวต้มขึ้นทานเมื่อได้ยินคำตอบ ดวงตาที่เห็นโลกมานานกว่ามองเขม็งไปยังร่างสูงของลูกชายคนเดียวที่ไม่ลงรอยกันมาหลายปีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ในชุดทำงานเรียบร้อย
ถ้าเธอบอกให้ไปซ้ายพิชญุตม์ก็จะไปขวาทันที และถ้าเธอบอกให้เดินไปข้างหน้า ลูกชายคนเดียวของเธอก็พร้อมที่จะหันหลังกลับอย่างไม่ลังเลเช่นกัน ต้องทำตัวเป็นปรปักษ์กับเธอทุกเรื่อง
ไม่มีหรอกที่จะทำให้เธอพอใจ
“แกจะไปทำงานเหรอ?”
“ครับ” คนถูกถามตอบสั้นๆ ตักข้าวต้มขึ้นทาน
ปกติตอนเช้าเขาจะไม่ทานอะไรนอกจากกาแฟดำ แต่เพราะเมื่อวานเขาแทบไม่ได้ทานอะไร บวกกับเมื่อคืนที่ใช้พลังงานไปเยอะกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปตีสองตีสาม กาแฟดำแก้วเดียวคงอยู่ไม่ถึงมื้อเที่ยง
“เพิ่งจะแต่งงานเมื่อวาน วันนี้ไปทำงานแล้วคนอื่นเขาจะมองยังไง”