EP.1

936 คำ
"รถกูเอากลับไปเลย" ผมทำเพียงแค่พยักหน้าและมองตามหลังไอ้สิบที่รีบก้าวเดินขึ้นหอพักของน้องมายด์แฟนของมัน ดูมันดิหอบของมาง้อเมียแบบโคตรจะพะรุพะรัง ผมยกยิ้มก่อนจะถอยรถออกจากตัวหอ จริงๆผมคิดว่าผมก็ดูดีแล้วนะ ผมดูทางและคนดีแล้วจริงๆผมจึงเหยียบคันเร่งแต่ก็ต้องเบิกตากว้างพร้อมร้องลั่นเมื่อเห็นคนกำลังวิ่งเข้ามาตัดหน้ารถ! "เชี้ย!" "กรี๊ด!!" เอี๊ยด!! ทั้งผมและเธอต่างร้องเสียงหลงพร้อมกับร่างบางที่ล้มลงไปกองกับพื้นตรงหน้ารถ ผมเบิกตากว้างนึกถึงภาพเมื่อกี้ที่จู่ๆก็มีผู้หญิงวิ่งปิดหูเหมือนหนีอะไรสักอย่างมาและวิ่งตัดหน้ารถจนล้มลงไป ดีที่ผมเบรกทันและผมโคตรจะมั่นใจว่ามันไม่ได้โดนเธอ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ต้องลงไปดู "เป็นอะไรไหม?" ซอยทางเข้าหอน้องมายด์มันค่อนข้างจะมืดเพราะเป็นซอยเล็กและเปลี่ยวนั้นคงทำให้เธอไม่ทันระวัง แต่คนบ้าที่ไหนจะมาวิ่งปิดหูตามถนนวะ? "เธอ เป็นไรไหม?" ผมเอ่ยถามอีกครั้งเพราะเธอยังคงนั่งนิ่งคล้ายคนกำลังขวัญเสียนั้นทำให้ผมต้องนั่งยองๆลงกับพื้นพร้อมเอื้อมมือไปจับไหล่เธอเบาๆ "เฮ้ ไหวไหมครับ?" พรึ่บ! สัมผัสจากเรียวแขนที่ตวัดขึ้นโอบรัดต้นคอทำให้ผมชะงักด้วยความตกใจ เธอไม่ตอบแต่กลับขยับตัวขึ้นมากอดคอผมไว้แน่นพร้อมซบใบหน้าลงบนซอกคอผมแถมยังเอาแต่พร่ำว่า น่ากลัว...น่ากลัวมาก.. "คุณเป็นอะไร?" ผมอดจะถามไม่ได้ก่อนจะมองนัยน์ตาโศกที่เหลือบขึ้นมาสบตากับผมก่อนเธอจะเหลียวมองทางด้านหลังที่เต็มไปด้วยป่ารกทึบ "จะตอบผมได้ยัง?" ผมถามอีกครั้งนั้นทำเธอสะดุ้งพร้อมถอยออกจากตัว "หนีใครมา รึโดนใครตาม?" "มะ ไม่ๆ" เธอรีบปฏิเสธพร้อมขยับลุกยืนแต่นั้นกลับทำให้เธอเซจนผมต้องขยับลุกไปจับแขนเธอไว้เพราะหัวเข่าเธอแตกจนเลือดไหลเป็นทางยาว คือมันคงแสบน่าดูอ่ะ "เมื่อกี้โดนชนไหม?" ผมถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจส่วนเธอก็ส่ายหน้าและขยับออกห่างผมจนผมต้องปล่อยมือจากแขนเธอ "ไม่โดนค่ะ ฉันไม่เป็นไร" "แต่หัวเข่าคุณแตก" เธอก้มมองที่เข่าข้างขวาพร้อมกับเบ้ปากเหมือนเพิ่งรู้สึกว่ามันเจ็บ "ไปทำแผลที่คลินิกเถอะ" "ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันทำเอง" "อย่างน้อยก็ไปเพื่อความสบายใจของผมเถอะผมไม่อยากมีอะไรติดค้างในใจ" ผมขัดเสียงเรียบพร้อมกับเดินไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับพร้อมพยักหน้าให้เธอที่กำลังยืนลังเลมาขึ้นรถ "ไม่ต้องกลัวผมไม่คิดจะทำไรคุณหรอก" ดูเธอโคตรจะระแวงผมเลยเอาจริง ไม่สิ...เธอดูระแวงทุกอย่าง ทุกฝีก้าวแม้แต่ตอนจะขึ้นรถเธอก็ขยับโน้มตัวลงไปส่องดูภายในรถก่อน เอาจริงคือกูน่ากลัวขนาดนั้น? "โอเคนะ?" "รถคันนี้ไม่เคยเอาไปให้พระเจิมเลยหรอคะ" ผมขมวดคิ้วพลางส่ายหน้าปฏิเสธ รถไอ้สิบอ่ะผมไม่รู้หรอกว่ามันเอาไปเจิมไหมแต่..น้ำหน้าอย่างมันคงไม่ "ไม่อ่ะ" "เอ่อ งั้นฉันกลับไปทำแผลที่ห้องเองดีกว่าค่ะ" ผมขมวดคิ้วมองผู้หญิงตรงหน้าที่โคตรจะดื้อเพราะเธอดันไม่ยอมขึ้นรถเพียงเพราะรถไอ้สิบยังไม่เคยเจิม เธอยิ้มให้ผมและถอยหนี "อย่าน้อยผมควรรับผิดชอบสิ" "เอาเป็นว่าฉันทำแผลเองได้และคุณไม่ต้องคิดว่าเราติดค้างอะไรกัน อีกอย่างมันก็ผิดเองที่ฉันวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือ” "ดื้อด้าน" และแน่นอนว่าผมตั้งใจติเพื่อให้เธอได้ยินส่วนเธอก็ทำแค่ยิ้มแห้งก่อนจะก้มหัวให้ผมและหันหลังเดินหนีออกไปไปทางหอเดียวกับหอน้องมายด์ ผมยืนมองเธอจนแน่ใจว่าเธอจะไม่ไปวิ่งใส่รถคันไหนอีกก่อนจะเดินอ้อมมาที่ประตูฝั่งคนขับ แกร๊ง.. ผมชะงักและหันมองไปทางพุ่มไม้ทันทีที่ได้ยินเสียงแปลกๆที่ดังออกมา มันเหมือนลมพัดแล้วหญ้ามันลู่ตามลมแต่...เมื่อกี้มันไม่มีลมมันไม่รู้สึกเย็นด้วยซ้ำ ผมขมวดคิ้วและเดินไปทางหน้ารถเพื่อมองหาสิ่งต้นเสียงแต่กลับไม่เจออะไรผิดสังเกตนอกจากกระเป๋าใบเล็กที่ตกอยู่ปลายเท้า "เกษสุดา" ผมอ่านชื่อจริงจากบัตรประจำตัวนักศึกษาของเธอคนเมื่อกี้เบาๆพร้อมกับไล่มองชั้นปีและคณะ เธออยู่ปีสามปีเดียวกับผมแต่คนล่ะคณะ กระเป๋าเธอไม่ต่างจากของผู้หญิงทั่วไปนอกจากแผ่นสีทองตรงกลางมียันต์แปลกๆที่สอดใส่อยู่ในช่องที่คนทั่วไปเอาไว้ใส่รูป "วันหลังไม่เอาพระใส่ด้วยเลยวะ อย่างขลัง" ผมพับกระเป๋าตามเดิมพร้อมยัดมันใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองก่อนเดินขึ้นรถ..ยังไงก็คงจะได้เจอกันอีกแหละ .....ถ้าเธอยังต้องการของขลังในกระเป๋าเงินตัวเองน่ะนะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม