"พ่อคะ ถ้าครบหนึ่งปีแล้วพ่อจะเอาเงินไปไถ่ตัวพี่มีนามั้ยคะ"
"จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงล่ะลูก ตอนนี้พ่อกำลังขายหุ้นและทรัพย์สินที่เรามีถ้าขายได้เงินมากพอแล้วเราจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศกัน ปล่อยให้พี่เค้าอยู่ใช้หนี้ไป"
"ใช่ ดูสิพี่เค้าย้ายไปตั้งนานแล้วไม่เห็นส่งข่าวมาเลยสงสัยจะชอบ น่าจะมีความสุขดี แม่ว่าเราไม่ต้องไปสนใจพี่เค้าหรอก"
สามพ่อแม่ลูกคุยกันด้วยรอยยิ้มและท่าทางมีความสุข โดยไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของมีนาลูกสาวคนโตเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังวางแผนจะหนีไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขพร้อมกับหอบสมบัติไปด้วยไม่คิดแม้แต่จะหาเงินมาใช้หนี้ด้วยซ้ำ
"นายครับ ผมได้ข่าวว่าคุณทรงพลกำลังเทขายหุ้นของตัวเองออกและประกาศขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีทุกอย่างเลยครับ"มาร์คผู้ช่วยคนสนิทเข้ามารายงานอีริค
"ดีไปกว้านซื้อมาให้หมด"
"แต่นายครับ ผมคิดว่าที่เขาประกาศขายทุกอย่างไม่น่าจะเพราะต้องการเอาเงินมาใช้หนี้นายแต่ดูเหมือนเขาตั้งใจจะหนีหนี้มากกว่านะครับ กลัวว่านายจะเสียเงินสองต่อนะครับ"
"ผมรู้แค่อยากลองใจคน ทำตามที่บอกก็พอ"
"แล้วเรื่องคุณมีนา เอ่อ นายจะเอายังไงครับ"
"ไม่เอายังไงก็อยู่แบบนี้ ถ้าเธอยังทำงานให้เราได้อยู่ก็ให้ทำไป"
"ครับนาย"
แม้จะไม่ค่อยเข้าใจความคิดของผู้เป็นนายทั้งที่รู้ว่าถึงจะเก็บเธอไว้ก็ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรกับครอบครัวนี้แต่เขาก็ไม่คิดจะกระตือรือร้นที่จะทำอะไรเพิ่มเติมซึ่งผิดกับนิสัยของเขา เพราะถ้ารู้ว่าโดนเอาเปรียบเขาไม่มีทางนิ่งนอนใจแบบนี้แน่ แต่มาร์คก็ไม่ได้พูดอะไรต่อได้แต่ทำตามคำสั่งของเจ้านายตน
เมื่อมาร์คเดินออกจากห้องไปอีริคได้แต่คิดถึงคนบางคนว่าเธอจะรู้หรือเปล่าว่าครอบครัวที่ตัวเองรักและเป็นห่วงนักหนา ถึงขนาดยอมเสียสละชีวิตของตัวเองทั้งชีวิตเพื่อใช้หนี้แทนพ่อ แต่พวกเขากลับหาทางเอาตัวรอดแต่ตัวเองโดยไม่สนใจเธอเลย
"เย็นนี้เลิกงานแล้วมาหาผมที่ห้องทำงาน รอกลับบ้านพร้อมผม"เสียงข้อความในโทรศัพท์ของมีนาดังขึ้น เธออ่านและเห็นว่าเป็นข้อความจากอีริคก็ถอนหายใจยาวก่อนก้มลงทำงานต่อเพราะไม่รู้ว่าวันนี้ต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรอีก
เมื่อถึงเวลาเลิกงานมีนารอจนทุกคนกลับบ้านแล้วจึงขึ้นลิฟท์ไปห้องทำงานเขาที่อยู่ชั้นบนสุด
...ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
"เชิญ"เมื่อได้ยินเสียงเจ้าของห้องเชิญเข้าห้องเธอจึงเปิดประตูเข้าไปยืนรอเขาเงียบๆในห้อง จนอีริคต้องเป็นฝ่ายบอกเธอให้ไปนั่งรอที่โซฟา
ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังเดียวกันเกือบสองเดือนแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยได้พูดคุยอะไรกันมากนักความเงียบสำหรับทั้งคู่จึงดูเป็นเรื่องปกติ มีนานั่งรอเขาเงียบๆไม่พูดไม่จาจนอีริคทนไม่ไหวหาเรื่องคุยกับเธอก่อน
"ผมหิวน้ำไปเอาน้ำมาให้ผมหน่อยสองแก้ว เอาคุกกี้มาด้วย"
"ค่ะ"
มีนาหายออกไปครู่เดียวก็กลับมาพร้อมน้ำเปล่าและขนม อีริคหยิบแค่น้ำเปล่าไปแก้วเดียวส่วนที่เหลือก็ผลักคืนให้เธอ
"ผมกินแค่นี้ ที่เหลือคุณเอาไปกินเดี๋ยวหิว"
"ค่ะ"มีนารับคำและเดินเอาขนมไปนั่งกินบนโซฟา เธอนึกขอบคุณเขาในใจเพราะตอนนี้เธอเองก็หิวมากแต่ไม่กล้าบอกเขา เมื่อเห็นสาวน้อยตรงหน้านั่งทานขนมอย่างเอร็ดอร่อยอีริคก็แอบอมยิ้มก่อนจะก้มลงนั่งทำงานต่อ
"เราจะไปไหนคะ"มีนาที่นั่งอยู่เบาะนั่งข้างคนขับถามอีริคเมื่อเห็นว่าทางที่รถกำลังวิ่งไปไม่ใช่ทางกลับบ้าน
"ไปซื้อของเข้าบ้าน"
เมื่อถึงห้างสรรพสินค้าอีริคพามีนาเดินตรงไปที่โซนขายอาหารเขาบอกให้เธอเลือกของที่จำเป็นต้องใช้ทั้งเครื่องปรุงและอาหาร ส่วนเขาก็เข็นรถตามหลังเธอปล่อยให้เธอเลือกของตามใจ
"พอแล้วหรอ"อีริคถามเมื่อเห็นมีนากำลังเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน
"พอแล้วค่ะ"
"เดี๋ยว คุณกินโยเกิร์ตอะไรไปซื้อมาไว้สิจะได้ไม่ต้องไปหาซื้อทีละนิด นมด้วย ซื้อไปเผื่อผมด้วย"อีริคเห็นมีนาชอบนั่งกินโยเกิร์ตตอนทำงานกลางคืนจึงอยากให้เธอซื้อเก็บไปไว้กินจะได้ไม่ต้องเปลืองเงินไปซื้อเอง
"คุณอยากกินหรอคะ ถ้าคุณอยากกินมินจะไปหยิบมาให้แต่ส่วนของมินเดี๋ยวมินซื้อเองค่ะ มินเกรงใจแค่อาศัยอยู่บ้านคุณมินก็เกรงใจมากแล้วค่ะ"
"ผมบอกให้ไปหยิบมาก็ไปหยิบ ไม่ต้องออกความคิดเห็น"
"ค่ะ ขอโทษค่ะที่เสียมารยาทค่ะ"มีนาขอโทษเขาและเดินไปหยิบของตามที่อีริคบอก เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วเอริคจึงบอกให้มีนาไปเลือกซื้อของใช้ส่วนตัวให้เขา
"ไปซื้อของใช้ให้ผมด้วย"
"แต่มินไม่รู้ว่าคุณใช้อะไรนะคะ"
"แน่ใจนะว่าไม่รู้คุณเข้าออกห้องนอนผมเป็นประจำไม่ใช่หรอเรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่รู้ เว้นแต่ว่าจะไม่ใส่ใจ ว่าไงจำได้รึยัง"
"ค่ะ"มีนารีบเดินไปหยิบของใช้ส่วนตัวให้เขาและแวะซื้อของตัวเองด้วย
"นี่ของคุณค่ะ ตรวจดูอีกรอบก่อนก็ได้นะคะว่าครบมั้ย ถ้ายังไม่ครบมินจะไปหยิบมาให้อีกค่ะ"
"แล้วในตะกร้านั่นอะไร"อีริคถามเมื่อเห็นของที่เธอแยกไว้อีกตะกร้า"
"อันนี้ของมินเดี๋ยวมินจ่ายเองค่ะ"
"เอามาจ่ายด้วยกันทำไมต้องแยก ของแค่ไม่กี่บาทไม่ทำให้ขนหน้าแข้งผมร่วงหรอก"
"มินทราบค่ะ แค่ไม่อยากรบกวน"เธอตอบเขาตามที่คิด
"คิดเงินครับ"อีริคไม่พูดคุยกับเธอต่อให้เสียเวลาเขาหยิบตะกร้าในมือเธอไปวางที่เคาน์เตอร์จ่ายเงินรวมกับของใช้ของตัวเอง
"แม่นั่นใช่พี่มินรึป่าวคะ ช่วยเมย์ดูหน่อยที่ยืนอยู่กับผู้ชายหล่อๆตรงนั้นค่ะ"เมษาที่กำลังเดินช้อปปิ้งกับแม่อยู่เห็นผู้หญิงที่กำลังยืนจ่ายเงินอยู่หน้าตาคล้ายพี่สาวตน
"ใช่จริงๆด้วย แล้วนั่นมากับใครน่ะ ลูกเมย์ถ่ายรูปไว้สิลูกแม่จะไปถามพ่อของลูกว่ารู้จักผู้ชายคนนี้มั้ย"
เมื่อกลับถึงบ้านสองแม่ลูกรีบเข้าไปถามทรงพลทันทีว่าผู้ชายในรูปนี้คือใคร
"คุณอีริคเจ้าหนี้ของเราไง"
"ทำไมพ่อถึงไม่บอกว่าเขาหล่อขนาดนี้คะ ถ้ารู้แบบนี้เมย์ไม่ปล่อยให้พี่มินไปหรอก ดูสิพี่มินดูไม่ได้ลำบากอะไรเลยแถมยังได้อยู่ใกล้ชิดกับหนุ่มหล่ออีก ว่าแต่เขามีภรรยาหรือยังคะ"
"อืม น่าจะยังนะ เรื่องส่วนตัวของคุณอีริคน้อยคนมากที่จะรู้เพราะเขาค่อนข้างเก็บตัว ไม่แม้แต่ให้สัมภาษณ์กับสื่อไหนเลย"
"พ่อรู้จักที่อยู่บ้านเขามั้ยคะ เมย์อยากไปเยี่ยมพี่มินหน่อยค่ะ"
"ไม่รู้หรอกลูก แต่พ่อว่าอย่าไปเลยเดี๋ยวจะวุ่นวายเอา"
"ไม่วุ่นวายหรอกค่ะคุณ ลูกสาวเราสวยขนาดนี้เผื่อเราได้ลูกเขยเป็นคุณอีริคเราอาจจะสบายไปทั้งชาติก็ได้นะคะ"ดารณีพูดเสริมลูกสาว เมื่อทรงพลได้ฟังลูกและภรรยาพูดก็ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์