คนตัวเล็กนั่งทานเค้กไปได้สักพัก เสียงกระดิ่งหน้าประตูก็ดังขึ้นจนเธอต้องเหลือบตาขึ้นไปมอง และเหมือนสายตาของเราจะสบกันเล็กน้อย ก่อนที่คนตัวสูงจะเดินไปยังหน้าเคาน์เตอร์เหมือนเช่นทุกวัน
เมนูที่พี่ภีมชอบดื่มคืออเมริกาฮันนี่เลม่อน เพราะเธอลอบสังเกตเขาอยู่ตลอด จะเรียกว่าสังเกตก็คงไม่ถูก ต้องพูดว่าบังเอิญเห็นบ่อยๆ ดีกว่า
แต่วันนี้พี่ภีมยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์นานกว่าปกตินิดหน่อย เธอเองก็ไม่กล้ามองว่าพวกเขาคุยอะไรกัน โต๊ะที่เธอเลือกก็อยู่ใกล้มากจนฟังไม่ออกว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ได้แต่ก้มหน้ากินเค้กไปเงียบๆ แค่นั้น
ตอนนี้เย็นมากแล้ว ภายในร้านคนไม่เยอะเท่าไหร่เพราะส่วนใหญ่จะนั่งนอกร้านกัน แต่ถึงอย่างนั้นภายในร้านก็เหลือโต๊ะว่างเพียงไม่กี่โต๊ะเท่านั้น
เธอตักเค้กเข้าปากอีกคำ และจู่ๆ เรียวไหล่ก็โดนสะกิดจากใครบางคนจนต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง และก็พบว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่คุ้นหน้าเลย
"ขอโทษนะครับ พอดีหาโต๊ะว่างวิวดีๆ ไม่ได้เลย ผมขอนั่งด้วยได้ไหมครับ :) "
อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงทะเล้นๆ พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า เธอเหลือบมองโต๊ะข้างๆ ที่ว่างก็ได้แต่ขมวดคิ้ว เขาบอกว่าหาโต๊ะวิวดีๆ ไม่ได้ แต่โต๊ะของเธอมันมองไม่เห็นวิวข้างนอกด้วยซ้ำ
"เอ่อ ได้ค่ะ" แต่เขาคงอยากหาที่ถ่ายรูปล่ะมั้ง เพราะโต๊ะของเธอติดผนังที่เพ้นท์ลายสวยๆ
แต่เมื่ออีกฝ่ายนั่งก็เริ่มยืดแขนยืดขา จนปลายเท้าของเขาเตะโดนรองเท้าของเธอ และนั่นก็ทำให้เธอรีบชักเท้ากลับ ส่วนอีกฝ่ายได้แต่มองหน้าเธอพร้อมกับส่งยิ้มแปลกๆ ให้
"อากาศวันนี้ดีจังเลยนะครับ วิวตรงหน้าก็สวย..."
เขาคุยกับเธอเหรอ? ตอนนี้เธอไม่อยากคุยกับเขาแล้วสิ ในหัวมันเอาแต่คิดว่าคงต้องเปลี่ยนโต๊ะ ซึ่งเธอคิดว่าจะย้ายไปนั่งโต๊ะข้างๆ แต่ไม่ทันได้ย้ายไปไหน โต๊ะตัวที่เธอเล็งก็มีคนนั่งเสียอย่างนั้น กลิ่นแอปเปิลลอยมาแตะจมูกเธออีกแล้ว
ไม่ต้องหันหน้าไปมองก็คงรู้ว่าใครที่นั่งลงบนโต๊ะว่างใกล้ๆ กัน
เสียงวางแก้วดังขึ้นที่โต๊ะนั้น ซึ่งปกติเขาจะวางแก้วไม่ให้มีเสียงด้วยซ้ำ แต่วันนี้เสียงวางแก้วของเขาดังมากกว่าปกติจนเธอเผลอหันไปมอง
พี่ภีมในวันนี้ดูแปลกไป หน้าเขานิ่งจนเธอเริ่มขนลุกซู่ไปหมด กลิ่นอายของความตึงเครียดของเขามันแผ่กระจายไปทั่ว
เขาไม่พอใจอะไรหรือเปล่า...
"คุณลูกค้า รับอะไรดีคะ" พี่นินเป็นคนเดินมารับออร์เดอร์ของผู้ชายที่นั่งโต๊ะเดียวกับเธอ
สายตาของคนเป็นพี่มองหน้าเธออย่างมีคำถาม พร้อมกับรีบส่งสายตาให้เธอมองคนที่อยู่โต๊ะติดกันซึ่งก็คือพี่ภีมที่ทำหน้านิ่งจนพาลทำให้บรรยากาศภายในร้านดูอึมครึมอย่างกับหน้าฝน
เธอรู้ว่าเขากำลังไม่พอใจ เพราะปลายนิ้วเขากำลังเคาะลงบนโต๊ะอย่างเป็นจังหวะบ่งบอกว่าเขากำลังคิดหรือกำลังประมวลผลอะไรบางอย่าง แผนหลังกว้างนั่งพิงกับพนักเก้าอี้ และแก้วอเมริกาโน่ที่ยังไม่ยกดื่ม...
"ผมขอแบบที่ผู้หญิงตรงหน้ากินครับ เห็นเธอกินแล้วมันดูน่าอร่อย เค้กก็น่าทานส่วนคนตรงหน้าก็สวย..."
สิ้นสุดคำพูดของอีกฝ่าย ปลายนิ้วที่เคาะลงบนโต๊ะของพี่ภีมก็หยุดลงเช่นเดียวกัน ระดับความมาคุภายในร้านเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20% ส่วนพี่นินได้แต่ขยับปากกับเธอด้วยคำว่า
'คุณภีมไม่ชอบให้น้องอัยย์นั่งกับผู้ชายคนอื่น หาโต๊ะใหม่เร็ว'
แล้วโต๊ะอื่นมันเต็มนี่สิจะให้เธอหาโต๊ะใหม่ยังไง ตอนนี้ลูกค้าก็เต็มร้านแล้วด้วยมีเพียงโต๊ะข้างนอกที่เริ่มว่างแล้ว
"ได้ค่ะคุณลูกค้า รอสักครู่นะคะ" พี่นินยิ้มเจื่อนๆ ให้อีกฝ่าย ก่อนจะส่งสายตาอาลัยอาวรณ์ให้กับเธอเป็นการส่งท้าย
"พี่นิน ทางนี้หน่อยครับ..."
แต่ไม่ทันได้นำเมนูไปที่เคาน์เตอร์ เสียงเรียกของผู้ชายหน้านิ่งโต๊ะข้างๆ อย่างพี่ภีมกลับยกมือเรียกพี่นินไปที่โต๊ะเสียก่อน
"ค่ะคุณภีม..." หลังจากนั้นพี่นินก็เดินไปยังโต๊ะของพี่ภีม และปล่อยให้เธอนั่งเม้มปากอยู่บนโต๊ะกับคนแปลกหน้าที่เอาแต่ส่งยิ้มให้จนเธอขนลุกซู่ไปหมด เค้กอร่อยมากแต่เธอดันทานไม่ลงแล้วสิ
ทรงนี้คงจีบเธอแน่ แต่คงต้องบอกว่าเธอชอบคนอื่นไปแล้วนี่สิ ไม่สะดวกจะสานต่อกับใคร มีคนเดียวที่อยากสานต่อคือพี่ภีม
สายตาเธอมองหาโต๊ะว่าง แต่คนตรงหน้ากลับเอ่ยพูดขึ้น
"ผมชื่อพลนะครับ ไม่ทราบว่าน้อง..."
และในขณะเดียวกันนั้น พี่นินที่เดินมาจากโต๊ะคุณภีมก็รีบเดินกลับมายังโต๊ะเธอ พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักอย่างกับมีใครบังคับให้พูดยังไงอย่างนั้น
"เอ่อ.. คุณลูกค้าคะ พะ พอดีว่าโต๊ะนี้มีคนจองต่อแล้วน่ะค่ะ เดี๋ยวทางเราจะจัดที่ให้คุณลูกค้าใหม่นะคะ ขอโทษที่เสียมารยาทด้วยนะคะ"
หือ? มีคนจองต่อแล้วงั้นเหรอ...
"อ่าครับ" คุณพลได้แต่พยักหน้ารับ อย่างงงๆ ส่วนเธอก็รีบลุกขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะคิดว่าเดี๋ยวคนที่จองโต๊ะอาจจะมาถึงในไม่ช้านี้
"เชิญทางนี้ได้เลยค่ะคุณลูกค้า" พี่นินเดินนำคุณพลไปยังโต๊ะใหม่ โดยที่สายตาคุณพลยังจ้องมองมายังเธอไม่ห่าง
"น้องครับ ไปนั่งด้วยกันไหม" แต่ก็ยังไม่วายที่จะเอ่ยชวนเธออีกครั้ง
เธอรู้ว่าใครอีกคนที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้กันกำลังฟังเธอกับคุณพลคุยกันอย่างเงียบๆ ก่อนที่เธอจะส่ายหน้าให้
"ไม่ดีกว่าค่ะ พอดีอยากนั่งกับแฟนมากกว่า"
"...!!" คุณพลหน้าถอดสี แต่ก็ยอมถอยออกไปในที่สุด
และตัวเธอเองที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองไปนั่งตรงไหน ก็ได้แต่เดินไปยังโต๊ะคนหน้านิ่งที่ตอนนี้คลายอารมณ์มาคุไปจนหมดสิ้นแล้ว ก่อนจะเอ่ยบอกเขา...
"พี่ภีมคะ ขออัยย์นั่งด้วยนะคะ"
ใบหน้าหล่อเงยขึ้นมองเธอเล็กน้อย ก่อนจะกระตุกยิ้มบางเบาบนริมฝีปากนั้น
"อ่า ครับ..."
.
.