" ฉันอยู่บ้านคุณปู่ค่ะ แล้วก็ไม่กลับหรอกป้าบอกว่าเขาสั่งให้ทำอาหารไว้รอฉันเหรอค่ะ ฮ่าฮ่า สงสัยป้าคงจะฟังผิด เขาเคยทำแบบนั้นที่ไหนกัน แค่นี้ก่อนนะคะ"
" เดี๋ยวค่ะคุณพาย แล้วคุณพายจะกลับมาตอนไหนคะ "
" ไม่มีกำหนดค่ะ หรือบางทีอาจจะไม่กลับเลยก็ได้ "
ธีรเดชได้ยินทุกประโยคดาวเรืองเปิดลำโพงเสียงดังฟังชัด เขากำหมัดแน่นแววตาเยือกเย็น ไม่มีกำหนดกลับเหรอ ดีไม่อยากกลับก็ไม่ต้องกลับคิดว่าเขาจะง้อรึไงฝันไปเถอะ
" เอาอาหารพวกนี้ไปเททิ้งให้หมด"
" คุณปู่คะหนู หนูมีเรื่องจะบอกคุณปู่ หนู หนูจะหย่าค่ะ"
ดนัยนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนส่งยิ้มให้และพูดขึ้นมา
" ไม่ว่าหนูตัดสินใจจะทำอะไร ปู่รู้ว่าหนูคิดมาดีแล้ว ปู่เคารพในการตัดสินใจของหนู "
" คุณปู่ เหมือนคุณปู่จะรู้อยู่แล้วว่าหนูจะบอกเรื่องนี้"
" ปู่เลี้ยงหลานมากับมือทำไมจะไม่รู้หล่ะ ที่ผ่านมาหนูคงทุกข์ใจมากสินะ ปู่ขอโทษ ที่ขอให้หนูแต่งงานกับเขา เพียงเพราะปู่คิดว่าเขาเหมาะสมจะดูแลปกป้องหนูได้ แต่ปู่มองคนผิดไป "
" คุณปู่ "
เธอกอดคุณปู่ร้องไห้สะอึกสะอื้น แม่ของเธอร่างกายอ่อนแอ หมอแนะนำว่าไม่ควรมีลูกแต่ก็ยังมีเธอ หลังคลอดเธอได้เพียง15วันแม่ก็จากไป ต่อมาพ่อของเธอเกิดอุบัติเหตุจากไปอีกคน คุณปู่จึงเลี้ยงเธอด้วยตัวเองมาตลอด ตั้งแต่เล็กจนโตมีเพียงคุณปู่ที่รักเธอดูแลเธอ แต่เธอก็ยังคิดโง่ๆฆ่าตัวตาย เพียงเพื่อผู้ชายที่ไม่ได้รักเธอแค่คนเดียว เธอนี่มันโง่จริงๆ
" เด็กน้อยโตเป็นสาวแล้วยังขี้แยอีก หึหึ "
" คุณปู่ขาหนูขอโทษ ต่อไปหนูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว "
ดนัยลูบหัวหลานสาวอย่างอ่อนโยนเขามองเห็นผ้าพันแผลที่โผล่ออกมานอกเสื้อแขนยาวที่เธอสวมใส่ก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ ทุกความเคลื่อนไหวของหลานรักเขารู้ทุกอย่างรวมถึงเรื่องก่อนหน้าที่เกิดขึ้นด้วย ถึงเขาจะอยู่คนละที่กับเธอแต่เขาก็มีสายรายงานตลอด เขาผิดเองที่คิดว่าธีรเดชจะดูแลภูริตาแทนเขาได้ เขาลืมคิดไปว่าการขอร้องไม่ต่างจากการบังคับ ผ่านมา4ปีใจของธีรเดชไม่เคยมีหลานสาวของเขาเลย ถึงเวลาแล้วที่เขาจะเอาเธอกลับคืนมา
" คุณท่านครับคุณธีร์มาครับ"
ภูริตาผละออกจากอ้อมกอดของคุณปู่ดนัยหันไปเห็นธีรเดชเดินเข้ามา เขายกไหว้ดนัยด้วยท่าทีเคารพ
" ผมมารับพายกลับบ้าน พอดีเรามีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย เธอเลยงอนผมหนีมาที่นี่ "
" ฉันไม่"
พูดยังไม่ทันจบเขาก็ดึงเธอมานั่งข้างๆเขา
" คืนนี้ผมคงต้องขอนอนค้างที่นี่สักคืนนะครับ ไปกันเถอะที่รักนอนดึกไม่ดีต่อสุขภาพนะ"
เขากอดประคองเธอขึ้นไปชั้นบนแสดงท่าทีว่ายังรักเธออยู่ เมื่อมาถึงห้องเธอผลักเขาออก
" คุณไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งทำ "
" ผมเสแสร้ง"
" ไม่ใช่รึไง ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าคุณปู่คุณก็แกล้งทำเป็นรักฉันอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อให้คุณปู่สบายใจ คุณปู่ของฉันท่านไม่ได้บอบบางขนาดนั้น เรื่องของเราที่ผ่านมาคุณคิดว่าท่านไม่รู้อะไรเหรอ "
ธีรเดชจ้องเข้าไปในแววตากลมโตคู่นั้น แววตาของเธอเย็นชาจนเขารู้สึกหน่วงในใจ
" นอนเถอะ ดึกแล้ว "
" คุณกลับไปเถอะ "
" ดึกขนาดนี้คุณจะให้ผมขับรถกลับไปเนี่ยนะ ไม่ใจดำไปหน่อยเหรอ "
ภูริตาไม่สนใจเขา ถือหมอนกับผ้าห่มออกมา
" คุณจะไปไหน "
" ฉันจะไปนอนโซฟา"
ธีรเดชคว้าแขนของเธอไว้
" ทำไมต้องไปนอนที่อื่นด้วย รังเกียจผม "
ภูริตาสะบัดมือเขาออก เธอถอยห่างไปหลายก้าวมองหน้าเขา ไม่รู้ว่าเขาตามเธอมาที่นี่ทำไม ที่ผ่านมาเขาไม่เคยสนใจว่าเธอจะไปไหนมาไหนด้วยซ้ำ เขาต้องการอะไรกันแน่ แล้วเธอก็หายสงสัยทันทีเมื่อเขาพูดขึ้นมา
" พรุ่งนี้ตอนเย็นบริษัทมีงานเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ คุณในฐานะหัวหน้าแผนกต้องไปร่วมงานด้วย"
" ฉันรู้แล้ว เรื่องแค่นี้โทรบอกก็ได้ไม่จำเป็นต้องตามมาบอกถึงที่นี่ "
" ผมโทรหาคุณตั้งหลายสายทำไมไม่รับสายผม"
" ไม่ได้ยิน"
ภูริตาพูดแค่นั้นแล้วหันหลังเดินออกไปทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาแล้วหลับตา ธีรเดชถอนหายใจเฮือกใหญ่เดินไปอุ้มเธอขึ้นมา
" ปล่อยนะ คุณจะทำอะไร"
เขาไม่ตอบอุ้มเธอมาวางลงบนเตียงแล้วคร่อมเธอไว้ เธอดีดดิ้นไม่ยอมเมื่อตั้งใจว่าจะหย่ากับเขาจะไม่ยอมให้มีความสัมพันธ์เกิดขึ้นอีก
" อยู่เฉยๆ นอนที่นี่ ถ้าคุณไม่ฟังผมจะทำอย่างอื่น "
ภูริตาหยุดดิ้นทันที เขาล้มตัวลงนอนข้างๆ
" ผมรู้ว่าคุณโกรธ เรื่องที่ผมไม่ไปเยี่ยมคุณที่โรงพยาบาล คุณก็น่าจะรู้ว่าผมต้องไปงานรับรางวัล"
" ฉันรู้ว่าดาวิกาได้รับรางวัลและเธอต้องไปที่งานนั้น แต่ฉันไม่คิดว่าคุณที่เป็นนายทุนจะต้องไปกับเธอด้วย"
" คุณเลยโกรธผมหึงผม จนต้องทำร้ายตัวเอง"
เขาคว้าข้อมือของเธอที่พันผ้าก็อตขึ้นมาดูเธอพยายามดึงแขนตัวเองออก แต่เขาจับเอาไว้แน่น แล้วเป่าเบาๆ
" เจ็บมากไหม ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีกเพราะมันมีแต่จะทำให้คุณเจ็บตัวเปล่าๆ"
เธอยิ้มขมขื่นเข้าใจความหมายของเขาดี ถึงต่อให้เธอตายเขาก็จะไม่มีวันรักเธอ ไม่มีวันสนใจเธอ เหมือนตอนนี้ที่เธอเจ็บตัวเปล่าแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอได้สติ ว่าเธอควรรักตัวเองและไม่ควรทำร้ายตัวเองเพื่อคนที่เขาไม่ได้รักเธอ
ภูริตาตื่นขึ้นมาไม่เห็นธีรเดชนอนอยู่ข้างๆก็คิดว่าเขาคงกลับไปแล้ว เธอลุกขึ้นเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ลงมาข้างล่างเห็นธีรเดชกำลังนั่งคุยกับคุณปู่อยู่ เขาปรายตามองเธอ แล้วลุกขึ้นเดินไปรับ เลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง ทำเป็นว่ารักเธอดูแลเธออย่างดีต่อหน้าคุณปู่ ฮึ สร้างภาพสิ้นดี
" ข้าวต้มกุ้งร้อนๆผมทำเองเลยนะ"
เขาตักข้าวต้มกุ้งร้อนๆหอมฉุยใส่ถ้วยส่งให้เธอ เธอมองหน้าเขานี่เขาตื่นแต่เช้ามาทำข้าวต้มกุ้งให้เธอเลยเหรอ เธอส่งยิ้มให้แล้วยกถ้วยข้าวต้มไปวางตรงหน้าเขา
" ขอบคุณค่ะ แต่คุณกินเองเถอะ"
ธีรเดชขมวดคิ้ว คิดว่าเธอยังโกรธเขาอยู่เขาเอาใจเธอขนาดนี้แล้วยังไม่หายงอนอีกรึไง ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร ปู่ดนัยก็พูดขึ้นมาแม้น้ำเสียงจะราบเรียบแต่มีความไม่พอใจแฝงอยู่
" ยัยพายแพ้กุ้ง"
เขานิ่งอึ้ง ภูริตาแพ้กุ้งเขาไม่เคยรู้เลย ที่ผ่านมาเขาคงละเลยเธอมากไปจริงๆ
" ข้าวต้มปลากระพงค่ะ "
" ขอบคุณนะคะป้าเนื่องรู้ใจพายที่สุด อืม อร่อยเหมือนเดิม"
ภูริตาตักข้าวต้มเข้าปากกินไปชมไป ไม่สนใจธีรเดชที่มองเธอตาปริบๆ
ระหว่างทางกลับบ้านภูริตานิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ธีรเดชปรายตามองเธอเป็นระยะไม่พูดจาเหมือนกัน ต่างคนต่างอยู่ในความคิดของตัวเอง เสียงโทรศัพท์ของธีรเดชดังขึ้นเธอเหลือบมองเห็นชื่อดาวิกาขึ้นโชว์หน้าจอก็รีบเบือนหน้าหนี
" ได้สิ แล้วผมจะไปรับ"
" จอดรถ"
ธีรเดชกดวางสายหันมามองภูริตาแต่ก็ยอมจอดรถตามที่เธอบอก เมื่อเห็นว่าเธอเปิดประตูจะลงจากรถ เขาก็รีบคว้าแขนเธอไว้
" จะไปไหน"
" ฉันจะกลับเองคุณมีธุระก็รีบไปเถอะ"
" ผมไม่รีบ เดี๋ยวไปส่งคุณก่อน"
" ไม่จำเป็น"
ภูริตาสะบัดแขนออกจากเขา เปิดประตูรถลงไปเรียกแท็กซี่ที่ผ่านมาพอดี ธีรเดชลงจากรถตามไปแต่ไม่ทัน เธอขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว จึงได้แต่กลับขึ้นรถขับออกไป