“แล้วพ่อของน้องบุศย์ล่ะ” คราวนี้ชายหนุ่มถามต่อโดยไม่ปล่อยให้หญิงสาวหายใจหายคอด้วยซ้ำ “ไม่มีค่ะ พ่อของน้องบุศย์ตายไปแล้ว” พุดพิชญาเอ่ยออกมาด้วยความเจ็บปวด ซึ่งน้าสาพอจะเข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้าแล้ว นางได้แต่ปล่อยให้คนทั้งสองคนสนทนากัน โดยไม่แทรกอะไร “อย่าโกหกเลย ความจริงก็คือความจริง แต่ถ้ามั่นใจว่าพ่อของน้องบุศย์ตายไปแล้ว ก็เอาใบสูติบัตรของน้องบุศย์มาดูว่าน้องบุศย์เกิดปีอะไร” ธามไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะกล้าปกปิดเขาเรื่องที่เธอตั้งครรภ์ เธอใจร้ายกับเขาเกินไปแล้วนะ นี่ถ้าเขาไม่เผอิญขับรถชนเด็กน้อย เขาก็ไม่มีทางรู้เลยว่าเขามีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาอยู่บนโลกใบนี้ แต่เขาลืมคิดไปว่าเขาต่างหากล่ะที่ทำให้เธอเลือกที่จะปกปิด “เลิกพูดเรื่องนี้แล้วกลับไปเถอะค่ะ ขอบคุณนะคะที่ให้เลือด แล้วยังพาน้องบุศย์มาส่งที่โรงพยาบาลอีก” เมื่อไม่มีคำตอบให้เขา การไล่เขาไปให้พ้นจากตรงนี้มันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่เธ