“อา...นกยูงจ๋า...อูววว...ทำไมมันคับอย่างนี้”
นัยน์ตาของเขาพร่าเลือนไปหมด สมองสั่งให้เขาแทรกลึกเข้าไปในร่องชุ่มฉ่ำที่หยาดน้ำหวานไหลทะลักออกมา จากความคับแน่นและแห้งผากเปลี่ยนเป็นความลื่นไหล ชายหนุ่มรู้สึกราวกับกำลังล่องลอยในขณะที่หญิงสาวอแนสะโพกรับการโจนจ้วงในทุกจังหวะ
“อู๊ววว...พ่อเลี้ยงขา...อ๊า...อ๊า”
ร่างงามขาวผ่องเปล่งประกายรังรองอยู่ใต้แสงจากเปลวไฟที่อาบไล้ คามินขยับสะโพกซอยถี่ยิบ เสียงเนื้อเสียดสีกันดังได้ยินชัดเจนท่ามกลางละอองไอแห่งราตรีในถ้ำขนาดใหญ่ นกยูงปรือตามองและเห็นใบหน้าของคามินบิดเบี้ยวแต่ก็ยังหล่อเหลาสำหรับเธออยู่ดี
เขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่เธอเคยพบ เนื้อหนังและลมหายใจร้อนผ่าวปลุกเร้าทุกอณูบนร่างสาวให้ตื่นตัว ทุกท่วงท่าลีลาและจังหวะกระแทกกระทั้นยิ่งทำให้นกยูงลืมความอาย หญิงสาวแยกเรียวขาออกกว้างเพื่อรับแรงเสียดสีจากแท่งสวาทอย่างเต็มที่และเต็มใจ
“อา...พ่อเลี้ยง...อ๊า...ซี๊ดดด...อ๊า”
คามินยังเขย่าโยกแต่เปลี่ยนท่าหญิงสาวเป็นบิดเรียวขาของเธอข้างหนึ่งของเธอมาแนบไว้อีกข้าง นกยูงอยุ่ในท่าตะแคงและนั่น ยิ่งทำให้กลีบสวาทกดรัดแก่นกายของชายหนุ่มแน่นยิ่งขึ้น
“อูวววว...อา...นกยูง...”
มันเป็นท่าที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงแรงเสียดทานที่หนักหน่วงยิ่งกว่าเก่า แต่ก็ยังเป็นท่าที่ทำให้เธอมองเห็นเขาอยู่ดี นกยูงหยัดลำตัวช่วงบนขึ้น ค้ำยันข้อศอกบนลานหิน เรือนผมดำสยายเต็มแผ่นหลัง เธอดูเซ็กซี่ ยิ่งมองคามินก็ยิ่งหลงใหลในความงามของผู้หญิงที่เขาร่วมรักกับเธอตั้งแต่พบกันครั้งแรก
นกยูงสาวชาวป่าช่างงดงามและสวยหวานจับจิต ใบหน้าหมดจดของเธอช่างไร้จริตยามสำแดงอารมณ์ปรารถนาออกมาเต็มที่ มันเป็นความกระหายใคร่ที่เธอมีต่อพ่อเลี้ยงหนุ่มอย่างแท้จริง และมันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับที่คามินมีต่อเธอ
บทที่ 9
ร่างอรชรเอื้อมมือไปสัมผัสไรขนบนหน้าอกของเขา ลูบไล้มันราวกับหลงใหล เธอหลงใหลในตัวเขาจริง ๆ นั่นแหละ นกยูงสูดลมหายใจเข้าปากดังซี๊ดเมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มเร่งจังหวะกระแทกความใหญ่อลังการเข้าไปในตัวเธอนับครั้งไม่ถ้วน
“โอ๊ววว...พ่อเลี้ยงขา...อ๊า...ซีดดด...อ๊า”
หญิงสาวซึ่งอยู่ในท่าตะแคงบิดไหล่ไปมา บั้นท้ายงอนงามกระดกขึ้นทุกครั้งที่คามินส่งแท่งสวาทของเขาเข้าไปในร่องนุ่มแต่คับแน่น เธอเห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องของเขาหดตัวเข้าหากันเป็นลอน คามินแหงนเงยใบหน้าขึ้นราวกับเขากำลังจะทะยานขึ้นไปแตะฉิมพลีเบื้องบน
จังหวะสุดท้ายที่ชายหนุ่มกระแทกแก่นกายเข้าไปทำเอาหญิงสาวเกือบหยุดลมหายใจของเธอในวินาทีนั้น ร่างเล็กโยกไปตามแรงเบียดแทรกก่อนที่เธอเองก็รู้สึกถึงความเสียวซ่านที่ทะยานขึ้นไปจนสุดขีด
“อ๊า....พ่อเลี้ยง...อ๊าย!”
“อะ...โอวววว...โอววว”
คามินครางออกมาเสียงดังเกือบจะพร้อมกันกับสาวชาวป่าแสนสวย นกยูงบิดเกร็งไปตามร่างสูงใหญ่ที่แหงนใบหน้าขึ้นแต่มือของเขาจับก้นงอนงามของเธอไว้พร้อมทั้งเสือกแก่นกายเข้าไปจนลึก
ความอบอุ่นจากตัวเขาพุ่งกระฉูดและล้นทะลักเข้าไปในตัวเธอก่อนที่เขาจะทิ้งลมหายใจยาวหนักหน่วงและฟุบร่างลงบนร่างสาว ที่อ้าแขนรับและก่ายกอดเขาไว้แนบแน่น
“อา...พ่อเลี้ยง...พ่อเลี้ยงคามิน”
นกยูงหอบหายใจ เขาถอดถอนตัวเองออกจากกลีบดอกไม้แสนสวย นั่นเองที่ทำให้หญิงสาวเริ่มเจ็บแปลบที่กลางลำตัว เธอพลิกร่างนอนหงานแต่อยู่ใต้ร่างสูงใหญ่ที่กอดร่างเล็กเอาไว้แน่น
“นกยูง...นกยูง...ผมขอโทษ...ผผมขอโทษ”
คามินยังพูดซ้ำ ๆ กับประโยคที่กลั่นออกมาจากส่วนลึกแทบจะเรียกได้ว่ามาจากก้นบึ้งของเขาเลยทีเดียว นกยูงไม่รู้ว่าเธอจะตอบเขาได้อย่างไร ตอนนี้เธอเองที่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบนร่างกาย ทว่าปราศจากความเสียใจ ในเมื่อมันมาจากความเต็มใจของเธอเอง
“พ่อเลี้ยง...พ่อเลี้ยงคะ”
“นกยูง...ผมมันบ้า...ผมขอโทษ”
เขายังกระซิบบอกคำเดิมที่หูของหญิงสาว ริมฝีปากหนาได้รูปบดคลึงอย่างอ้อยอิ่งอยู่บนแก้มนวลเนียน เขาอยากจะพูดอะไรมากกว่าคำว่า ขอโทษ แต่รู้สึกตีบตันขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“พ่อเลี้ยงคะ...นกยูงเต็มใจค่ะ”
หญิงสาวกระซิบตอบ แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรอีกเธอก็ได้ยินเสียงลมหายใจของเขาอ่อนโรยลง มันเบาลงจนกลายเป็นสม่ำเสมอ คามินหลับไปแล้ว เขาอาจเหนื่อยอ่อน หรือไม่ร่างกายของเขาอาจต้องการการพักผ่อนอีกสักเล็กน้อยหลังจากได้รับยาทุเลาความปวดเข้าไป นกยูงมองเพดานถ้ำด้วยความรู้สึกมากมาย แต่น่าแปลกที่ไม่มีความเสียใจกับการสูญเสียสิ่งสำคัญให้พ่อเลี้ยงหนุ่มแทรกอยู่ในความคิดของเธอแม้แต่นิดเดียว
ร่างสูงใหญ่พลิกตัวไปมาอยู่บนลานหินด้วยอาการกระสับกระส่ายเมื่อโสตประสาทรับรู้ถึงเสียงจากภายนอก มันเป็นเสียงน้ำหยดจากที่สูง คามินลืมตาตื่นขึ้นมา นัยน์ตาคมรับความสว่างจากเปลวไฟที่ยังโชนแสงอยู่ในกองฟืน
บรรยากาศรอบ ๆ ยังเงียบสงัด แต่สำนึกหนึ่งที่เขานึกได้นั่นคือคนที่เขานอนกอดก่ายตั้งแต่ตอนหัวค่ำหายไปไหน ข้างกายของเขามีเพียงความว่างเปล่าและเมื่อรู้สึกตัวเต็มที่เขาก็นึกถึงหญิงสาวชาวป่าผู้นั้นขึ้นมาในทันที
....นกยูง...