แหม...พอได้ฟังอย่างนี้แล้วทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมายังไงก็ไม่รู้ ชายหนุ่มยิ้ม ๆ และตั้งใจขับรถกระทั่งเข้าไปถึงกระท่อมไม้ของเขาสร้างบนเนินเขาสูง ทางเข้าไปทุลักทุเลพอสมควรแต่มัลลิกากลับแสดงอาการตื่นเต้นและมีความสุขกับการได้เห็นป่าเขียวขจี ภูวดินใช้เวลาพารถของเขาเข้าไปก็เป็นเวลบ่ายพอดี และพอรถจิ๊ปแล่นเข้าไปจอดหน้ากระท่อมซึ่งมันก็ไม่น่าเรียกว่ากระท่อมสักเท่าไหร่ เพราะเป็นบ้านไม้ที่สร้างอย่างดีหลังใหญ่พออยู่ได้เป็นครอบครัว ก็มีชายวัยกลางคนรีบวิ่งเข้ามาและเอ่ยขึ้นทันทีที่ภูวดินเปิดประตูก้าวลงจากรถว่า
“อ้าว...นายหัว ไหนว่าวันนี้ไม่กลับเข้ามาที่เหมืองไงครับ นี่ผมยังไม่ได้เตรียมอาหารมื้อเย็นไว้ให้เลยนะครับเนี่ย...เอ้อ...”
เสียงของชายวัยกลางคนขาดหายเมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาสวยหวานก้าวลงจากรถฝั่งข้างคนขับและก้าวเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างเจ้านาย หล่อนยกมือไหว้เป็นเวลาเดียวกันกับที่ภูวดินเอ่ยขึ้นว่า
“ลุงวาด...นี่คุณมัลลิกา เรียกคุณมิวก็ได้ เป็นลูกสาวเพื่อนสนิทของแม่ มิว...นี่ลุงวาด เป็นคนดูแลกระท่อมของพี่ในเหมืองนี่เอง ลุงวาดอยู่ที่นี่นานแล้ว คอยดูแลความเรียบร้อยในบ้าน”
“สวัสดีค่ะลุงวาด”
“สวัสดีครับคุณมิว”
บทที่ 3
“ใครมาน่ะพ่อ...อ๊าว...นายหัวเองหรอกเหรอ...ก็ไหนว่า...”
เสียงที่ดังแทรกเข้ามาทำให้การสนทนาของทั้งสามหยุดชะงัก มัลลิกาหันไปยังเด็กสาววัยกระเตาะสวมเสื้อยืดนุ่งผ้าปาเต๊ะเดินอาด ๆ เข้ามาหยุดข้างนายวาดและจ้องมองภูวดินก่อนเลื่อนสายตาไปทางมัลลิกาด้วยความประหลาดใจกระทั่งนายหัวหนุ่มเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น
“นี่ต้อย เป็นลูกสาวของลุงวาด ต้อย...นี่คุณมิวนะ เป็นลูกสาวเพื่อนแม่ เขาจะมาพักที่นี่สัก...เอ้อ...สักพักหนึ่ง”
“สวัสดีค่ะคุณมิว”
ต้อยยกมือไหว้หญิงสาวแปลกหน้าแต่สายตาของเด็กสาวแสดงออกว่าไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ แววตาของต้อยอาจไม่เป็นที่สังเกตของภูวดินแต่สำหรับมัลลิกาหล่อนเป็นผู้หญิงด้วยกันจับความรู้สึกได้ว่าเด็กสาววัยน่าจะประมาณสิบเจ็ดหรือสิบแปด หน้าตาจัดว่าสวยน่ารัก ผิวสีน้ำผึ้งตามแบบฉบับสาวใต้ขับความเข้มคมของสายตาคู่นั้นที่กำลังจ้องมองหล่อนเหมือนไม่ชอบใจ สักครู่ต้อยก็พูดขึ้น
“ทำไมนายหัวไม่บอกพ่อกับต้อยล่วงหน้าล่ะ เนี่ยต้อยไม่ได้เตรียมอาหารมื้อเย็นไว้ให้นายหัวเลยนะ"
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะต้อย ถ้ายังไม่ได้ทำอะไรเดี๋ยวฉันทำกับข้าวมื้อเย็นเองก็ได้จ้ะ”
มัลลิกากล่าวขึ้นทำให้ภูวดินแปลกใจแต่ต้อยกลับถามว่า
“คุณทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ...เอ้อ...ต้อยเห็นคุณแต่งตัวสวย ๆ แบบนี้อ่ะ นึกว่า...”
“ฉันทำเป็นนะ ชอบทำอาหารด้วย ตอนอยู่เมืองนอกจะทำอาหารฝรั่ง แต่จริง ๆ ฉันทำอาหารไทยได้อร่อยมาก ๆ เดี๋ยวฉันทำเผื่อต้อยกับลุงวาดด้วยนะจ๊ะ”
“โอ...ขอบคุณครับคุณมิว” วาดยกมือไหว้ “แต่ไม่ต้องหรอกครับ เกรงใจ”
“จะเกรงใจอะไรเล่าลุงวาด” ภูวดินแทรกทันใด “ก็มิวเขาตั้งใจจะทำเผื่อก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ก็ลองกินกับข้าวฝีมือคุณมิวเขาหน่อยเป็นไร”
“ผมเกรงใจครับนายหัว คุณมิวเพิ่งมาถึงอาจจะยังเหนื่อย”
“คุณเขาอยากทำอย่าขัดเขาซีพ่อ”
ต้อยหันมาเอ็ดนายวาดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงแอบประชดประชัน มัลลิกาสังเกตเห็นเด็กสาวมองนายหัวหนุ่มตาไม่กระพริบทำให้หล่อนเริ่มรู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้คงไม่ชอบให้ภูวดินยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่หล่อนกระมัง แต่สาวกรุงก็ยังยิ้มให้ทั้งที่เห็นต้อยเหลือบมองหล่อนอย่างไม่เป็นมิตร สักครู่ภูวดินก็เอ่ยขึ้นว่า
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวต้อยช่วยไปจัดห้องให้คุณมิวเขาก็แล้วกัน คุณมิวอาจจะพักที่นี่สักสี่ห้าวัน”
“สี่ห้าวันเลยเหรอนายหัว...เอ้อ...ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวต้อยจะไปจัดที่นอนให้คุณมิวก็แล้วกันนะคะ”
“ขอบใจ...มิวตามพี่มานี่เถอะ เดี๋ยวพี่จะพาไปดูห้องที่จะให้มิวพัก”
เขาเดินนำหน้ามัลลิกาที่เดินตามเข้าไปในบ้านปล่อยให้สองพ่อลูกยืนมองตาม ต้อยเบ้ปากทันใด
“เชอะ! สาวกรุงเทพเหรอ นายหัวคงถูกนายแม่บังคับให้พามาแน่ๆ”
“แต่ปกตินายหัวไม่เคยพาผู้หญิงมาที่นี่นะต้อย แสดงว่าคุณมิวต้องเป็นคนสำคัญของนายหัวแน่ๆ เลย”
“พ่ออย่าทำเป็นรู้ดีจะได้มะ...ก็แค่พาผู้หญิงมาบ้านแค่เนี๊ย ไม่เห็นจะมีความสำคัญอะไร หน้าตารึก็งั้นๆ”
“งั้น ๆ ที่ไหน สวยหยาดฟ้าขนาดนั้น พ่อว่าแกรีบไปช่วยนายหัวจัดห้องรับรองแขกดีกว่ามายืนอยู่ตรงนี้ แล้วอย่าให้พ่อจับได้นะว่าแกแอบนัดพบกับเด็กหนุ่มคนงานในเหมืองน่ะ โตเป็นสาวแล้วต้องรู้จักระวังตัวเองรู้ไหม”
วาดอบรมลูกสาวที่รีบเดินเข้าไปในบ้านเหมือนรำคาญที่พ่อของหล่อนเข้มงวดเรื่องคบเพื่อนผู้ชาย ต้อยเข้าไปช่วยจัดข้าวของและที่หลับที่นอนในห้องซึ่งภูวดินจัดเตรียมไว้ให้แขกของเขา สำหรับชายหนุ่มก็รู้สึกแปลกใจที่สาวชาวกรุงแถมเพิ่งกลับจากเมืองนอกอย่างมัลลิกาไม่ได้แสดงอาการออกมาเลยว่าหล่อนไม่ชอบใจที่พักที่เขาตั้งใจจัดไว้ให้ เพราะมันเป็นกระท่อมไม้ในป่าลึก พอตกกลางคืนก็ได้ยินเสียงหรีดหริ่งเรไรร้องระงม และที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นคือลูกสาวเพื่อนแม่ทำกับข้าวกับปลาได้อย่างคล่องแคล่ว ทำเอาสาวชาวบ้านอย่างต้อยที่คอยจะสมน้ำหน้าเพราะคิดว่าสาวชาวกรุงอย่างมัลลิกาทำไม่ได้ถึงกับพูดไม่ออกเหมือนกัน แต่คนที่มีความสุขมากที่สุดเห็นจะเป็นนายวาดเพราะได้กินของอร่อยฝีมือแขกสาวสวยและน่ารักอัธยาศัยดี หลังกินมื้อค่ำแล้วภูวดินก็แวะไปดูความเรียบร้อยในห้องนอนของมัลลิกา แต่ก่อนออกจากห้องหล่อนก็เดินกลับเข้ามาพอดี เมื่อเห็นหญิงสาวนายหัวหนุ่มจึงเอ่ยขึ้นว่า
“มิว...พี่...เอ้อ...แค่แวะเข้ามาดูความเรียบร้อยในห้องน่ะ พี่จะกลับไปที่ห้องพี่แล้วล่ะ”