“สำหรับกูนะ กูไม่โอเค กูไม่ยอม” นุชาตอบทันที “กูเหรอ กูว่ากูขอดูหน้าว่าที่เจ้าสาวก่อน ถ้ากูพอใจกูก็อาจแต่ง ลองใช้ชีวิตคู่ดู ถ้าแย่มากจนทนไม่ไหวก็เลิก” เชิงชายตอบ “แต่กูคิดว่า เรื่องแบบนี้มันตกลงกันได้นะ คือไงล่ะก็ตกลงกับเจ้าสาวไงว่า การแต่งงานของเราคือด้วยหน้าที่ด้วยห่าเหวเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ต่างฝ่ายต่างไม่เต็มใจ ฉะนั้นการแต่งงานคือการแต่งแบบหลอกๆ ไม่มีความสัมพันธ์ทางใดทั้งสิ้น และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมค่อยเลิกกัน” ยศวินบอกความคิดของตนให้จุลภัทรรู้ ที่ตอนนี้เจ้าของคำถามนั่งจมอยู่กับคำพูดของยศวินที่เปรียบเสมือนหาทางออกให้ตนไปในที ในระหว่างที่สมองกำลังนึกถึงเรื่องคลุมถุงชน เก้าอี้ที่เขานั่งตรงกับประตูทางเข้าผับพอดี และนั่นทำให้จุลภัทรเห็นคนที่เดินเข้ามาในผับ “มาได้ไงวะ” เสียงจุลภัทรดังขึ้นเบาๆ คล้ายพูดกับตัวเองเมื่อเห็นนลินีเดินเข้ามาในผับ ค่ำนี้หล่อนมาในลุคเดิมคือแนวทอมบอยหน้าสวย หล่อน