ตอนที่ 4
ข่าวดี
เช้าวันจันทร์ปณาลีก็ไปทำงานที่ธนาคารเหมือนกับทุกๆ วันหญิงสาวอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของพนักงานธนาคารดูสดใสเป็นพิเศษหลังจากได้ใช้เวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เธอจัดการงานตรงหน้าอย่างคล่องแคล่วและรวดเร็วก่อนจะถึงเวลาพักกลางวัน
ปณาลีก็เก็บเอกสารเข้าแฟ้มอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาจากธนาคารเพื่อไปทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารตามสั่งฝั่งตรงข้ามที่เธอทานเป็นประจำ ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ที่สะอาดและทำอาหารอร่อยถูกปากเธอมาก
“พี่ข้าวผัดหมูจานหนึ่งค่ะ” เธอสั่งกับแม่ค้าด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นกันเองก่อนจะหาที่นั่ง
ระหว่างรออาหาร เธอก็นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือไปพลางๆ เมื่ออาหารมาเสิร์ฟเธอก็จัดการทานอย่างเอร็ดอร่อยจนเกลี้ยงจาน
เมื่อจ่ายเงินค่าอาหารแล้วก็เดินไปจ่ายเงินและแวะร้านขายผลไม้ที่อยู่ข้างๆ เพื่อซื้อแอปเปิลและฝรั่งกลับไปทานที่ธนาคารด้วย
เสียงโทรศัพท์มือถือของปณาลีดังขึ้นเมื่อเธอเดินมาถึงหน้าธนาคารพอดี หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ออกมาดูและเห็นว่าเป็นเบอร์ของวนรัตน์หรือรัตน์เพื่อนสนิทก็รีบกดรับสาย
“ฮัลโหลรัตน์” ปณาลีรับสายด้วยน้ำเสียงสดใส
“นี่แก ฉันมีเรื่องจะบอก” เสียงของวนรัตน์ฟังดูตื่นเต้นจนคนปลายสายตื่นเต้นไปด้วย
“อะไรของแกเนี่ย ทำไมเสียงตื่นเต้นจัง” ปณาลีหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเกินมาหยุดที่หน้าประตูแต่ยังไม่เดินเข้าไป
“เมื่อวานฉันไปเดินห้างแล้วเจอพี่นนท์แฟนแกด้วยนะ” วนรัตน์ยังตื่นเต้นไม่หาย
“แกได้ไปทักเขาไหม เขาเป็นยังไงบ้าง”
“แกนี่ถามอะไรแปลกๆ นะยี่หวาไม่ได้เจอกันเหรอ”
“อือ พี่นนท์บอกงานยุ่งก็เลยมาได้มาหา มันน่าน้อยใจไหมล่ะแก มาหาฉันไม่ได้แต่มีเวลาไปเดินเที่ยวแบบนั้น” ปณาลีพยายามจะเข้าใจงานของคนรักเพราะเขาทำงานที่ธนาคารเดียวกับเธอแต่ชายหนุ่มประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่งานจึงยุ่งกว่าเธอมาก
“แกอย่าเพิ่งน้อยใจไปนะยี่หวา ฉันว่าพี่นนท์ก็คงมีอะไรที่ต้องทำ”
“วันนี้แกมาแปลกมากนะรัตน์ ปกติฉันเห็นแกกับพี่นนท์ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่แต่วันนี้มาพูดเข้าข้างกันมีอะไรหรือเปล่า” ปณาลีถามอย่างแปลกใจ
“คืองี้นะยี่หวา เมื่อวานฉันเห็นพี่นนท์ไปซื้อแหวน”
“แหวนอะไร” ปณาลีขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ก็แหวนแต่งงานไงละยี่หวา ฉันไปถามที่ร้านหลังจากพี่นนท์เดินไปแล้ว พนักงานบอกว่าพี่นนท์มาซื้อแหวนจะไปเซอร์ไพรส์ขอแฟนแต่งงาน”
“ขอแต่งงานเหรอ” ปณาลีตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยินจนมือสั่น
“ฉันว่าตอนนี้พี่นนท์ต้องกำลังวางแผนขอแกแต่งงานแน่ๆ เลยยี่หวา ฉันล่ะตื่นเต้นแทนแกจริงๆ”
“แกแน่ใจเหรอว่าฟังมาไม่ผิด”
“แน่ใจสิ แกเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวได้เลย”
ปณาลีถึงกับยืนนิ่งอยู่กับที่หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก ใบหน้าของเธอเห่อร้อนตื่นเต้นกับสิ่งที่ตนเองได้ยินจากเพื่อน
หญิงสาวรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในความฝันที่ เธอและนนทกรคบกันมานานหลายปีแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขามั่นคงมาตลอด การแต่งงานจึงเป็นสิ่งที่เธอฝันไว้ในใจ แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง
“จริงเหรอ...ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยเนี่ย” ปณาลีพูดออกมาอย่างเหม่อลอย
“ไม่ได้ฝันนะยี่หวา ฉันดีใจด้วยนะแกด้วย แกจะได้แต่งงานแล้ว” วนรัตน์อดดีใจไปกับเพื่อไม่ได้
“ฉันจะทำยังไงต่อดีล่ะ”
“แกก็ทำตัวเป็นปกติไว้ก่อน แกล้งเป็นไม่รู้ ฉันต้องวางสายแล้วเดี๋ยวจะโทรหาใหม่นะขอไปทำงานก่อน”
“ขอบใจนะรัตน์” ปณาลีบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข ใบหน้าของเธอเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่สดใสจนแทบจะหยุดยิ้มไม่ได้
เธอเดินกลับมาที่ธนาคารด้วยหัวใจที่พองโตตลอดทาง ความคิดเรื่องที่นนทกรจะขอเธอแต่งงานวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา ทุกครั้งที่นึกถึงมันก็ทำให้เธอรู้สึกดีใจและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ตลอดบ่ายนั้นปณาลีแทบจะไม่มีสมาธิในการทำงานเลยแม้แต่น้อย ความคิดที่ว่าเธออาจจะได้เป็นเจ้าสาวในเร็วๆ นี้มันทำให้เธอตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน เธอก็รีบเก็บของและเดินออกจากธนาคารทันที
เธอไม่อาจจะทนเก็บความรู้สึกแบบนี้ไว้ ปณาลีตัดสินใจโทรหานนทกรทันทีในขณะที่เธอกำลังขับรถกลับบ้าน บางทีเขาอาจจะเผลอพูดอะไรออกมาบ้าง
“ฮัลโหลพี่นนท์” ปณาลีเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำเป็นปกติที่สุด แต่ในใจของเธอเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง
“ว่าไงครับยี่หวา วันนี้เลิกงานแล้วเหรอ” เสียงของนนทกรตอบกลับมาอย่างราบเรียบ
“ค่ะ เพิ่งเลิกงานค่ะ พี่นนท์เป็นยังไงบ้างคะ อาทิตย์ที่ผ่านมาพี่นนท์ดูยุ่งๆ จังเลย”
“ก็ยุ่งนิดหน่อยน่ะครับ ช่วงนี้งานที่สำนักงานใหญ่เยอะ”
คำตอบของเขาทำให้ปณาลีรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างผิดปกติ ท่าทางของเขาดูเหมือนกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่จริงๆ
“พี่นนท์เหนื่อยไหมคะ” ปณาลีถามเขาด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ เธอเดาว่าเขาคงกลัวว่าเธอจะรู้เรื่องที่จะขอเธอแต่งงาน แต่เธอจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ต่อไป
“ครับ เย็นวันเสาร์นี้ยี่หวาว่าไหม พี่จะชวนไปทานอาหารค่ำ”
“ว่างค่ะ เราจะไปที่ไหนกันดีคะ” ปณาลีถามอย่างตื่นเต้นจนเกือบจะหลุดปากพูดเรื่องที่เธอรู้มาแล้ว
“พี่จะจองร้านอาหารที่พี่พายี่หวาไปทานครั้งแรกตอนที่เราตกลงเป็นแฟนกัน ให้พี่ไปรับที่บ้านไหม”
“ได้ค่ะ”
“พี่จะไปรับสักหกโมงนะ”
“ได้ค่ะ เจอกันวันเสาร์นะคะ” ปณาลีบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุขเธอรู้ทันทีว่าสิ่งที่วนรัตน์พูดเป็นเรื่องจริง นนทกรกำลังจะเซอร์ไพรส์ขอเธอแต่งงาน
“ครับ แล้วเจอกันนะยี่หวา”
หลังจากวางสายจากนนทกรแล้วเธอขับรถกลับมาถึงบ้านก่อนจะรีบโทรหาวนรัตน์และภัทรมนหรือมนเพื่อนสนิทของเธอทันทีเพื่อวิดีโอคอลคุยกัน
“พี่นนท์นัดฉันไปกินข้าวเย็นวันเสาร์ด้วย” ปณาลีรีบบอกด้วยความตื่นเต้น
“ก็แค่นัดกินข้าวกันแฟนที่คบกันมาหลายปีทำไมแกต้องตื่นเต้นด้วยล่ะยี่หวา” ภัทรมนที่ยังไม่รู้เรื่องถามอย่างแปลกใจ
“ก็พี่นนท์เขากำลังจะขอยี่หวาแต่งงานไงล่ะมน”
“จริงเหรอ ดีใจด้วยนะแล้วแกรู้ได้ยังไงล่ะรัตน์”
“ก็ฉันเห็นเขาไปซื้อแหวนและพนักงานก็บอกว่าเขาจะซื้อไปของแฟนแต่งงาน” วนรัตน์อธิบาย
“พี่นนท์เขาชวนฉันไปกินข้าวร้านแรกที่เราตกลงเป็นแฟนกันด้วยนะแก”
“ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างพี่นนท์จะโรแมนติก ขอเป็นแฟนร้านไหนก็จะแต่งงานร้านนั้น ฉันตื่นเต้นจังแกเตรียมตัวพร้อมไหม”
“นั่นสิ ฉันต้องทำยังไงดี ฉันควรใส่ชุดอะไรดี” ปณาลีพูดขึ้นมาอย่างกังวล
“ต้องเป็นชุดที่สวยที่สุดในตู้เลยสิแก” ภัทรมนแนะนำด้วยท่าทางตื่นเต้นไม่แพ้เพื่อน
“ฉันไม่มีชุดสวยๆ เลยนะ ชุดเดรสยาวสวยๆ ก็ไม่มีเลย” ปณาลีเริ่มกังวลเพราะกลัวจะไม่สวยในวันสำคัญอีกวันหนึ่ง
“ไม่ต้องห่วง ฉันสองคนจะช่วยแกเอง ชุดออนไลน์มีเยอะแยะเราจะช่วยกันดูแล้วจะส่งรูปไปให้แกเลือก”
“ขอบใจนะแก ถ้าไม่มีพวกแกฉันต้องบ้าตายแน่ๆ เลย” ปณาลีพูดพลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ค่ำคืนนั้น ปณาลีนอนไม่หลับเลยแม้แต่น้อย เธอนอนคิดถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันเสาร์นี้ตลอดเวลา ความสุขและความตื่นเต้นมันปะปนกันไปหมดจนเธอแทบจะหยุดยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ