กริ๊ง…กริ๊ง…กริ๊ง… โทรศัพท์บ้านที่วางอยู่ตรงโถงเรือนไทยแผดเสียงขึ้นท่ามกลางความเงียบในเวลาเกือบสามทุ่ม ทำให้คนที่นั่งทอดอารมณ์อยู่ตรงชานเรือนหลุดออกจากภวังค์เศร้า ดวงตาหม่นหมองที่มองไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอยไร้จุดหมายเริ่มกะพริบเบาๆ อย่างเรียกสติ ก่อนจะผุดลุกขึ้นด้วยท่าทีเกียจคร้าน ก้าวไปยังโทรศัพท์เจ้ากรรมซึ่งกำลังแผดเสียงอันน่ารำคาญไม่หยุดหย่อน จากนั้นก็ยกขึ้นแล้วกดรับสายด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย “ฮัลโหล…” ยังไม่ทันที่เซซาเรจะได้กล่าวอะไรมากไปกว่านั้น ผู้โทรมาก็ชิงโพล่งขึ้นเสียก่อน “พ่อเลี้ยงเมฆคะ มารับน้องคนดีที่เรือนขนมหวานได้ไหมคะ น้องคนดีเป็นไข้ตัวร้อนจี๋เลยค่ะ” พระเจ้า! เสียงนั้น! เสียงของเมียเขา! เสียงของอ้อนรักแน่ๆ เขาจำได้ขึ้นใจไม่มีวันลบเลือน เซซาเรกู่ก้องร้องตะโกนในอก หัวใจเต้นกระหน่ำด้วยความตื่นเต้นอย่างมิอาจบรรยาย “พ่อเลี้ยง…พ่อเลี้ยงได้ยินไหมคะ” ครั้นไม่มีกา

