ณ ห้องทำงาน
ก๊อก!! ก๊อก!!
“เข้ามา”
“นายครับ หมอโรม มาถึงแล้วครับ”
“ให้ไปที่ห้องของเธอได้เลย”
“ครับนาย”
20 นาทีต่อมา
แอ๊ดดด!! ปัง!!
หมอโรมรักษากอหญ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วยความโมโหจึงเปิดประตูเข้ามายังห้องทำงานของแดเนียลที่เจ้าตัวกำลังนั่งทำงานอยู่อย่างรวดเร็ว
“ไอ้แดเนียล มึงทำอะไรของมึงเนี้ยะ”
“ทำอะไร??” ชายหนุ่มรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนของตนจะเข้ามาต่อมา
“ก็มึงเอาคุณข้าวฟ่างเข้ามาในบ้านยังไงล่ะ”
“แล้วจะทำไม”
“นี่มันก็ผ่านมา 2 ปีแล้วนะเว้ย มึงจะจับตัวเธอมาแก้แค้นไม่ได้ ตัวเธอยิ่งเล็กๆ บอบบางอยู่ นี่ถ้ากูมาไม่ทันนะ เธออาจจะช็อคตายไปแล้วก็ได้”
“มึงไม่ใช่กูจะไปรู้อะไร กูรอวันเวลานี้มานานมาก กว่าจะจับตัวเธอมาได้ และอีกอย่างนังนั่นไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆ บอบบาง แต่คือ ฆาตรกร!!”
“กูคงห้ามมึงไม่ได้สินะ”
“ก็รู้คำตอบอยู่แล้ว แล้วมึงจะถามทำไม”
“งั้นก็เบาๆ กับเธอหน่อยก็แล้วกัน จากที่ฉันดูลักษณะเธอไม่น่าจะมีพิษภัยอะไร น่าเอ็นดูด้วยซ้ำไป”
“กูไม่รับปาก”
“ไอ้แดเนียล มึงนี่มัน!!” หมอโรมยืนชี้หน้าชายหนุ่มอย่างโมโห
“ตรวจเสร็จแล้วใช่ไหม”
“เออ อีก 1-2 วัน น่าจะดีขึ้น กูฉีดยาลดไข้และให้น้ำเกลือไว้แล้ว เพราะร่างกายเธออ่อนเพลียมาก พรุ่งนี้เช้ากูจะเข้ามาถอดสายน้ำเกลือให้”
“อืม”
“กูถามหน่อย ทำไมเธอถึงอาการหนักขนาดนี้”
“กูให้ไปอยู่ห้องชั้นใต้ดินมา”
“ห๊ะ!! อยู่กับเจ้าลูซอ่ะนะ แล้วรอดมาได้ยังไงวะ” หมอโรมยังคงสงสัยเป็นอย่างมากเพราะขึ้นชื่อว่าใครไปอยู่ห้องชั้นใต้ดินแล้ว จะไม่มีวันเอาชีวิตรอดออกมาได้แม้แต่คนเดียว แต่สำหรับเธอคนนี้น่าทึ้งมาก จะต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆ
“กูไม่รู้ ดูเจ้าลูซ จะชอบเธอมากด้วย” ชายหนุ่มพูดไปตามความจริง
“โอ้ว ไม่อยากจะเชื่อ” หมอโรมหรี่ตามองชายหนุ่มและอมยิ้มเบาๆ เรื่องนี้เพื่อนคริสเตียนต้องรับรู้
“มึงยิ้มอะไร”
“หึ เปล่า กูยิ้มเหรอ???”
“เสร็จแล้วก็กลับไปได้แล้ว กูจะทำงาน”
“หมดประโยชน์ก็ไล่กูเลยนะมึง ไอ้เพื่อนเวร กูกลับล่ะ พรุ่งนี้เจอกัน”
“เออ รีบไป”
“เออๆ” แล้วหมอโรมก็เดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีออกจากห้องของชายหนุ่มไป ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งสงสัยกับพฤติกรรมกับสิ่งที่เพื่อนรักของเขาทำอยู่
ณ ห้องรับรองแขก
ชายหนุ่มยืนมองดู หญิงสาวนอนหลับไม่ได้สติอยู่บนที่นอน พร้อมสายน้ำเกลืออยู่ที่แขนหนึ่งข้าง
พร้อมพลาสเตอร์ติดตรงหน้าผากของเธออีกหนึ่งจุด ชายหนุ่มเพิ่งจะมองเห็นหน้าเธอชัดๆ ก็วันนี้ เพราะอยู่ชั้นใต้ดินมันมืดมากไม่สามารถสังเกตุได้อย่างชัดเจน ใบหน้าเรียวไข่ ปากนิด จมูกหน่อย ริมฝีปากอมชมพู ผมดำยาวสลวย ขับสีผิวของเธอให้ผ่องขึ้นสวยอย่างเป็นธรรมชาติ มองตรงไหนก็ดูดีไปหมด ‘ผู้หญิงคนนี้นะเหรอที่ทำร้ายพี่ชายของฉัน’
“เห้อ!!” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ
“อือ!! น้ำ หิวน้ำ หนูขอน้ำกินหน่อยค่ะ” หญิงสาวรู้สึกตัวและลืมตาขึ้นมา
ชายหนุ่มเห็นดังนั้น จึงหยิบน้ำที่วางอยู่ส่งให้หญิงสาว
“กินซะ!!”
หญิงสาวรับน้ำจากชายหนุ่มขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว
“ขอบคุณมากค่ะ” หญิงสาวดูรอบๆ ก็พบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ห้องชั้นใต้ดินแล้ว แต่เป็นห้องที่กว้างขว้าง ขาวสะอาด ตกแต่งทันสมัย เป็นห้องที่น่าอยู่มาก มองออกไปด้านนอกเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามมองเห็นภูเขาน้ำแข็งที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีและเห็นหิมะกำลังตกลงนอกหน้าต่างเบาๆ
“ที่นี่ที่ไหนคะ??” หญิงสาวหันหน้าไปถามชายหนุ่ม เพิ่งสังเกตุว่าชายหนุ่มมีสง่ามาก หุ่นรูปร่างสูงเข้ากับสัดส่วนของเขา ผมดำขลับ คิ้วเข้ม จมูกโด่ง นัยตาสีฟ้า ใบหน้ามีเคราเล็กน้อยน้อยแต่ก็ไม่ได้บรรเทาความหล่อของเขาให้น้อยลงได้เลย กลับกันอยู่ทำให้ดูน่าค้นหามากยิ่งขึ้น
“เธอมองอะไร”
“เออ เปล่าค่ะ”
“คุณพาหนูมานอนบนบ้านของคุณเหรอ”
“อย่าดีใจไปล่ะ ฉันแค่สมเพชเธอก็เท่านั้น”
หญิงสาวก้มหน้า น้ำตาคลอ บีบมือเบาๆ นึกว่าชายหนุ่มจะใจดีกับเธอบ้าง แต่ไม่เลยเขาแค่ยังแก้แค้นให้พี่ชายของเขายังไม่พอ
ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้น แววตาก็วูบลงไปเล็กน้อย แต่ก็นึกสะใจที่ได้เห็นหญิงสาวเป็นเช่นนี้
“ฉันจะให้แม่บ้านเอาข้าวมาให้เธอ แล้วกินซะ พรุ่งนี้เธอจะต้องไปทำงาน”
“หนูอยากกลับบ้าน” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาทั้งน้ำตาคลอมองชายหนุ่ม
“อย่ามาแกล้งบีบน้ำตา ฉันไม่สงสารเธอหรอก”
“อีกนานไหมคะ คุณจะปล่อยหนูไป”
“จนกว่าฉันจะพอใจ หรือจนกว่าเธอจะหมดลมหายใจ”
“แล้วทำไมไม่ปล่อยให้หนูตายไปเลยคะ จะมารักษาหนูไว้ทำไม ฮือๆ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
“โอ้ย!!” ชายหนุ่มบีบเข้าที่แขนเธอและกระซิบเบาๆ ข้างหูของเธอ
“ตราบใดที่ฉันยังไม่ให้เธอตาย เธอก็ยังจะตายไม่ได้ จำเอาไว้”
“ค่ะ สักวันคุณจะรู้ว่าหนูไม่ใช่คนอย่างที่คุณคิด หนูจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าหนูไม่ได้ทำร้ายพี่ชายของคุณ”
“หึ ก็ดี งั้นก็มาลองดูกันสักตั้ง อย่าเพิ่งตายก่อนล่ะ”
ชายหนุ่มปล่อยแขนหญิงสาวให้เป็นอิสระแล้วก็เดินออกจากห้องไป
ปล่อยให้หญิงสาวนอนร้องไห้ตัวโยนจนเผลอหลับไปอีกครั้ง