วันต่อมา ติ๊ง! เสียงโทรศัพท์ของเราดังขึ้นพร้อมกับข้อความจากคุณฟาริคแสดงขึ้นที่หน้าจอโทรศัพท์ คุณฟาริค : ขึ้นห้องเรียนไปรึยัง เธอลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่รถ เราเปิดอ่านข้อความพร้อมกับสองเท้าของเราหยุดชะงัก ก่อนจะรีบหมุนตัวเดินกลับไปที่หน้าตึกเรียนของคณะตัวเองเพื่อไปที่ที่คุณฟาริคเพิ่งมาจอดรถส่งเราก่อนหน้านี้ เราเดินมาไม่นานก็เห็นคุณฟาริคยืนพิงรถหรูของตัวเองรอเราอยู่ แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่มีสายตาของนักศึกษาบริเวณนั้นจับจ้องไปที่คุณฟาริคเป็นตาเดียวราวกับว่าเจอดาราดังยังไงอย่างงั้น "เลย์ลา" เรากำลังจะสาวเท้าไปหาคุณฟาริค แต่ทว่าก็มีเสียงทุ้มของใครบางคนเอ่ยเรียกเรา ทำให้เราหันขวับไปมองก่อนจะพบว่าเขาเป็นรุ่นพี่คนหนึ่งที่อยู่ในคณะของเรา "คะ?" เราขานตอบพี่เขา "เป็นยังไงบ้าง" "เป็นยังไงบ้างคืออะไรเหรอคะ" เราเอียงคอถามพี่เขากลับด้วยสีหน้างุนงง "อ๋อ พอดีพี่มาเป็นผู้ช่วยสอนเมื่ออาทิตย์ที่ผ่าน