หลังจากปลดปล่อยเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ หนุ่มวิศวะเลือดร้อนถอดถอนแก่นกายออกจากรูร่องที่บวมเป่ง ดึงเครื่องป้องกันที่เต็มไปด้วยน้ำกามโยนทิ้งข้างเตียง ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างเขาจะตอกมาราธอนมาจนตีสี่ ไม่ต้องถามถึงร่างแบบบางที่สลบคาอกไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน
แววตาคมของเพลิงก้มมองซากถุงยางเกลื่อนบนพื้น มือหนาหยิบโทรศัพท์กดเบอร์โทรออกหาใครคนหนึ่ง
(ไอ้เพลิง..กูนึกว่ามึงตายคาห้องพักเด็กเสริฟไปแล้ว)เสียงทุ้มหนาที่มีแววหยอกล้อถูกส่งมาจากชั้นบนสุดของผับ
"เฮียให้คนมาเก็บกวาดด้วย ผมจะกลับแล้ว"
(อยากเห็นชิบหาย ใครที่ทำมึงติดอยู่ที่นี่จนถึงตีสี่ได้)
"แค่นี้นะเฮีย ง่วงนอน"
(เออไอ้เหี้ย!!!โทรมาใช้แล้วก็ไป)
มือหนากดวางโทรศัพท์ไม่สนทนาต่อ หันไปมองร่างสมส่วนของหญิงสาวที่เขากระแทกนานมาหลายชั่วโมง ใบหน้าขาวใสที่หลับตาพริ้ม ร่างขาวผ่องที่มีรอยแดงแทบทั้งตัว
มุมปากหนายกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงข้างๆร่างเปลือยเปล่า ถ้าไม่ติดว่าเธอสลบคาอกเขาไป ไม่รู้ป่านนี้เขาจะหยุดกระแทกร่างงามนี่หรือยัง
"นี่เธอ...ตื่นได้แล้ว จะกลับไหมบ้านอ่ะ"
ปิ่นมุกขยับตัวเล็กน้อย รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว แต่ทว่าเมื่อเธอขยับจะลุกขึ้นนั่งกลับรู้สึกปวดแปลบบริเวณหว่างขา
"โอ้ยย!!! ซี้ด แสบไปหมด"เสียงบ่นพึมพำดังขึ้นทันทีเมื่อได้สติ หันไปเห็นคนที่ทำให้เธอมีสภาพแบบนี้แล้วโมโห เธอที่ปวดเมื่อยราวกับโดนไม้หน้าสามทุบทั่วทั้งตัว รวมถึงรูร่องหว่างขาที่ปวดแสบราวกับโดนของเผ็ด แต่เขากลับนั่งเฉยด้วยท่าทีสบายๆ
ตอนนี้เธอเชื่อคำลินดาแล้วจริงๆว่าพี่เพลิงคนนี้เอวดุ ไซส์59ของจริง
"รีบใส่เสื้อผ้าสิ จะไปส่ง"
"เพื่อนฉันล่ะ? เดี๋ยวฉันกลับกับเพื่อน"
เพลิงอยากจะห๊า!!!!ให้ดัง ที่แม่สาวน้อยสุดมั่นคนนี้ถามถึงเพื่อนในเวลาตีสี่
"เธอคิดว่าเราแทงกันกี่รอบ? ถึงมาถามอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้"
ปิ่นมุกตวัดสายตาไปมองคนปากไม่ดี
อีตาผู้ชายคนนี้ปากหมาไม่เปลี่ยน ดีแค่เวลากระแทกเท่านั้นแหละที่ปากไม่หมา
"ก็แล้วใครให้พี่กระแทกฉันจนผับปิดกันล่ะ"
เมื่อเห็นนาฬิกาข้างฝาบ่งบอกเวลาตีสี่ครึ่ง เสียงเล็กก็โวยวายทันที
"นี่แม่คุณ...เธอเองก็ชอบนิ ครางซะลั่นห้องเลย"
"นี่ไอ้พี่บ้า ปากหมาแบบพี่นี่ผู้หญิงตามเป็นพรวนได้ไง"
ปิ่นมุกปาหมอนใส่หน้าคนปากเสียที่ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับข้างเธอ
"จะออกไปสภาพนี้?"คนตัวเล็กก้มมองตามนิ้วเรียวเห็นร่างกายที่ยืนเปลือยกายล้อนจ้อนเถียงกับเขาอยู่
"คนแบบพี่ ครั้งเดียวเกินพอ เอาจนขาถ่างเสื้อผ้าสักชิ้นก็ไม่คิดจะใส่ให้"บ่นพลางหยิบเสื้อผ้ามาใส่ พร้อมทั้งส่งสายตาโกรธเคืองไปให้หนุ่มวิศวะเป็นระยะๆ
เมื่อแต่งตัวเรียบร้อย ปิ่นมุกก็รีบเดินออกจากห้องโดยไม่สนใจคนตัวสูงที่เดินตามมา แต่เมื่อออกมาถึงหน้าผับที่เงียบสงบไร้ผู้คน ถึงจะใกล้ตีห้าก็จริงแต่ย่านสถานบันเทิงแบบนี้ ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนเลย
"หึ อวดดี"นี่เธอชักจะสงสัยจริงๆแล้วนะ ว่าเขานี่ใช่ผู้ชายที่ผู้หญิงโหวตให้เป็นหนุ่มฮอตวิศวะจริงเหรอ ปากไม่มีหูรูดแบบนี้ใครลงคะแนนให้กันนะ
"ตกลงจะเอายังไง จะกลับกับฉันหรือจะเดินกลับไปสภาพนี้ พอดีพระบิณฑบาตได้ตบะแตก"ถึงจะอยากอวดดีอย่างเขาว่า แต่เมื่อก้มมองดูสภาพตัวเองแล้วไม่ไหวจริงๆ
"ก็รีบเข้าสิ ฉันง่วงนอนจะตายอยู่แล้ว"
สุดท้ายคนอวดดีก็เดินตามร่างสูงที่เดินนำไปยังรถที่จอดอยู่ลานจอดรถวีไอพี
เมื่อขึ้นมานั่งบนรถ มือบางคาดเข็มขัดทันที ก่อนจะเอนตัวพิงเบาะหลับตาไปทันทีด้วยความอ่อนเพลีย
เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ บ่งบอกให้รู้ว่าสาวน้อยคนนี้หลับจริง เพลิงที่ขับรถมาสักพัก ไม่รู้ว่าจะไปส่งเธอที่ไหน ขึ้นรถมาถึงเธอก็หลับอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาสะกิดเรียกก็ไม่ตื่น สุดท้ายรถสีดำคันหรูที่มีร่างบางนั่งหลับอยู่ข้างๆ ก็มุ่งตรงไปคอนโดเขาทันที
ค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน ตอนนี้เขาเองก็ง่วงนอนสุดๆแล้วเหมือนกัน
ปิ่นมุกสะดุ้งลืมตาตื่น เธอพยายามหาจุดโฟกัสว่าที่นี่คือที่ไหน เพราะไม่ว่าจะหันไปตรงไหนสภาพคือไม่ใช่ห้องเธอแน่นอน แต่เมื่อมือบางที่ขยับไปมาโดนแขนแกร่งของคนที่นอนหลับตาพริ้ม ก็นึกได้ทันทีว่าอะไรเป็นอะไร ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยังห้องแต่งตัวของคนที่หลับไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ถือวิสาสะหยิบเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่กับผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายทันที
ขนาดที่เพลิงเองได้ยินเสียงกุกกักมาสักพัก ก็ลุกขึ้นขยับตัวด้วยความเมื่อยขบ หันมองนาฬิกาตรงหัวเตียงบอกเวลาบ่างโมงกว่าแล้ว
แกรก!!!เสียงเปิดประตูห้องน้ำพร้อมร่างเพรียวสมส่วนที่อยู่ในเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ของเขา
"ยืมใส่หน่อยนะ"เมื่อเห็นคนตัวสูงมองมาไม่วางตา ก็นึกไปว่าเขาหวงของ แต่ทว่าที่เขามองเพราะเห็นจุกยอดแข็งวับๆแวมๆโผล่มา
"เสื้อในไม่ใส่?"
"พี่ปาที่ปิดจุกฉันทิ้งไปแล้วไง ตอนออกมาหาไม่เจอด้วย"ยักไหล่ตอบแบบไม่สนใจอะไร
เพลิงที่พอเข้าใจคำตอบก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง บิดตัวไปมาเล็กน้อย เอาจริงๆเมื่อคืนเขายังไม่เมื่อยขนาดนี้
"ฉันหิวแล้วอ่ะ"มือหนาหยิบโทรศัพท์เข้าแอปสั่งอาหารแล้วยื่นให้ร่างบางตรงหน้า
"สั่งเผื่อด้วย"บอกแค่นั้นก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำทันที
หลังจากกินอาหารที่ไม่รู้ว่าจะเรียกว่ามื้อไหนดีเสร็จเรียบร้อย ปิ่นมุกและเพลิงก็นั่งดูหนังกันอยู่ที่โซฟา โดยคนตัวสูงบอกเธอว่าจะไปส่งกลับห้องตอนเย็น
"เออ...เธอชื่ออะไร?"
"ปิ่นมุกเรียกปิ่นก็ได้"สายตาที่ยังจับจ้องอยู่ที่ซีรีย์ในทีวี ไม่ได้สนใจคนตัวสูงที่นั่งมองเธอมาสักพักแล้ว จะไม่ให้มองได้ยังไง เรียวขาขาวที่ที่โผล่พ้นเสื้อตัวใหญ่ของเขาที่เวลานั่งมันร่นขึ้นไปจนเกือบถึงเนินเนื้อสามเหลี่ยม และถ้าให้เขาเดาเธอไม่น่าจะใส่กางเกงในด้วย
มือหนาเอื้อมไปคว้าคนที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ซีรีย์ดังมานั่งบนตักแกร่ง
"อ่ะ...พี่จะทำอะไร"
"สาบานว่าเธอไม่รู้?"
ปิ่นมุกยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ที่จริงเธอเห็นเขานั่งจ้องเธอมาสักพักแล้ว แต่อยากรู้ว่าเขาจะทนได้แค่ไหน
สะโพกกลมกลึงบดคลึงตรงแก่นกายที่ขยายใหญ่อยู่ใต้กางเกงวอร์มสีเทาไปมาเบาๆ
"อ๊า....มันแข็งแล้วนะพี่"
"อืม มันอยากเข้าไปในร่องเธอ ควักมันออกมาที"คนตัวเล็กที่เริ่มมีอารมณ์ก็ทำตามอย่างว่าง่าย มือบางถอดกางเกงวอร์มลงไปคาที่หน้าขา คว้าเอาแก่นกายใหญ่ชักรูดเบาๆ
"ซี้ด ถอดเสื้อออก"เสียงแหบพร่ากระซิบแนบใบหู มือเรียวจับชายเสื้อถอดออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจับแก่นกายใหญ่ไร้เครื่องป้องกันเสียบเสยเข้าไปในรูร่องทันที
"อ๊าาาา...จุก"
แหงนเงยใบหน้าด้วยความเสียวซ่านปนความเจ็บปวด เมื่อปรับร่างกายสักพักก็เริ่มบดคลึงขยับขึ้นลงเนิบนาบเรียกเสียงครางกระเส่าจากคนตัวสูง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆตามแรงอารมณ์ ที่ไม่ต้องบอกว่ามีมากขนาดไหน เพราะพอจบยกหนึ่งก็ไปต่อยกสองในห้องนอน และไม่มีทีท่าว่าจะได้กลับห้องอย่างที่คนหื่นบอก