เหมือนนั่นคือเสียงเรียกจากสวรรค์ ฉันกระเด้งตัวขึ้นวิ่งตรงดิ่งไปยังเจ้าของเสียงอย่างไม่คิดชีวิต คุณบีสต์อ้าแขนกว้างกอดรัดร่างฉันเข้าสู่อ้อมอก มือเขาลูบหัวเบา ๆ พร้อมพรมจูบไปตามเรือนผมสีดำขลับ “พี่อยู่ตรงนี้แล้ว ปลอดภัยแล้วที่รัก” ยังคงไม่มีแรงแม้กระทั่งอ้าปากพูด ฉันทำได้เพียงแค่ซบหน้าในอกอุ่น ไร้น้ำตา ทว่าหัวใจกลับสั่นไหวยากจะกลับมาเป็นปกติ การถูกคุกคามจากคนคนนั้นมันน่ากลัวเสียยิ่งกว่าตอนโดนคชากระทำ ฉันแทบไม่รู้ว่าควรจะรับมือกับความรู้สึกนี้ยังไง สมองมันเหมือนอื้ออึง เหมือนกับว่าร่างกายชาหนึบไปหมด นานโขกว่าใจจะสงบลง คุณบีสต์เองก็ไม่ได้เร่งรัด เขากอดฉันแน่นแม้ตัวเองจะร้อนจนเหงื่อไหลท่วมกายก็ตาม พอผละออกคนตัวใหญ่ก็ประทับจูบแผ่วเบาตรงหน้าผาก พร่ำบอกขอโทษที่เขาปล่อยฉันอยู่คนเดียวในเขตบ้านหลังนี้ ทั้งที่รู้ว่ามีพี่ ๆ ที่ไม่หวังดีกับฉันวนเวียนอยู่ด้วย “อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ ไวต์ยังโอเค ไม่ได