2 NUMTIP | ชีวิตเฮงซวย

1712 คำ
กว่าฉันจะหอบร่างที่สะบักสะบอมกลับเข้าหอพักได้ก็แทบแย่ ไหนจะต้องคอยหลบสายตาของแท็กซี่ที่เอาแต่แอบมองตั้งแต่ขึ้นรถอีก ช่วยไม่ได้ล่ะนะก็ฉันเล่นใส่แค่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงขาสั้นมาขึ้นรถแบบนั้นเป็นใครก็คงมองแน่ ๆ ถึงมันจะปกปิดได้หมดก็เถอะ ฉันจำทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมดอย่างไม่มีตกหล่นแม้แต่นิดเดียว ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาหาจนมันไปจบที่เตียงก็ไม่ลืมรายละเอียดเลยแม้แต่น้อย “เฮ้อออ ฉันไปมีเซ็กส์หรือไปรบกันแน่เนี่ย ระบมไปหมดเลย” ถึงแม้เมื่อคืนมันจะดีมากจนไม่อยากลืมแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาไปอดอยากมาจากไหนนักหนา ถ้าฉันไม่เหนื่อยจนหลับไปคาอกป่านนี้เราก็คงยังไม่หยุดทำกันแน่ ๆ “อะ โอ้ยยย เอวฉัน.....” ฉันรีบอาบน้ำล้างคราบต่าง ๆ ออกจากตัว ตรงน้องสาวแอบบวมเล็กน้อยจากการใช้งานตลอดคืน รอยฟันกับรอยดูดเต็มคอไปหมดจนไม่แน่ใจว่าจะปิดมันมิดไหม “ให้ตายเถอะ พรุ่งนี้มีสอบด้วย” ฉันได้แต่บ่นกับกระจกเพราะจะโทษใครก็คงไม่ได้ ยังไงซะมันก็เป็นแค่ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนคงไม่มีทางได้เจอกันอีกหรอก โลกมันคงไม่กลมขนาดนั้นหรอกมั้ง..... ครืด ครืดด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นดึงฉันออกจากวังวนความคิด ฉันคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันไว้ลวก ๆ ก่อนจะเดินไปหยิบมันมาดู เมื่อเห็นชื่อที่หน้าจอก็ทำเอาอยากจะปาโทรศัพท์ออกนอกโลก อารุจ อารุจหรือชื่อเต็มคืออนิรุจ เขาเป็นอาแท้ ๆ ของฉันเองและเป็นคนที่ทำให้ชีวิตฉันต้องลำบากอยู่เสมอ “ค่ะ อารุจ” (นี่ ทิพย์! ยังไม่จ่ายค่าพนันที่อาบอกอีกเหรอ พวกมันจะกระทืบอาแล้วนะ!) เสียงเอะอะโวยวายที่ปลายสายทำเอาฉันลอบถอนหายใจเฮือกด้วยความเบื่อหน่าย มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันต้องตามใช้หนี้ให้กับอารุจแต่มันเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่พ่อตาย “หนูบอกอาแล้วไงคะว่าหนูยังไม่มีเงิน อาจ่ายเองก่อนนะคะ” (แกจะให้ฉันเองเงินที่ไหนมาจ่าย? ที่ฉันต้องเป็นคนพิการและติดพนันแบบนี้มันก็เพราะพ่อของแกไม่ใช่หรือไง!) อารุจตะโกนใส่โทรศัพท์ด้วยความโมโห เอาอีกแล้ว ยกเรื่องในอดีตตั้งแต่สมัยพ่อยังไม่ตายมาพูดอีกแล้ว.... “เรื่องนั้นมันควรจบได้แล้วนะคะ บ้านที่พ่อทิ้งไว้หนูก็ยอมยกให้อาแล้วไงคะ อาจะเอายังไงอีก” (แกคิดว่าแค่นั้นมันช่วยอะไรฉันได้หรือไง ไอ้บ้านเก่า ๆ โสโครกนั่นขายได้ไม่กี่ล้านเอง ไม่รู้ล่ะ แกต้องหาเงิน 5 ล้านมาให้พวกมันภายในหนึ่งเดือนพวกมันยื่นคำขาดมาแล้ว” “อารุจ! เงินมากขนาดนั้นหนูจะไปหามาจากไหนคะ เงินที่มีมันก็แทบไม่เหลือแล้วนะ!” (เรื่องของแก แต่แกต้องรับผิดชอบต่อจากพ่อของแกที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้!) ปลายสายกดวางไปแล้ว บ้าจริง!เงินเยอะแยะขนาดนั้นฉันจะไปหามาจากไหน! มรดกของพ่อที่ได้มาอารุจก็เอาไปผลาญหมด พอฉันห้ามหรือไม่ยอมทำตามก็ยกเรื่องที่พ่อพาอาไปประสบอุบัติเหตุขึ้นมาอ้างและเรียกร้องให้ฉันจ่ายหนี้ให้มาตลอด ฉันเบื่อ! เบื่อกับชีวิตแบบนี้เต็มทนแล้ว ทั้งที่ตอนนั้นมันเป็นอุบัติเหตุและพ่อเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นแถมหลังจากนั้นไม่นานท่านก็เสียไปทำไมอารุจถึงไม่เข้าใจบ้าง! “พ่อคะ หนูควรทำยังไงดี” ฉันมองรูปถ่ายในมือถือที่ถ่ายกับพ่อตอนที่ยังมีชีวิต ใบหน้าหล่อเหลาที่ฉีกยิ้มกว้างดูภูมิใจกับฉันที่สอบได้อันดับหนึ่งของโรงเรียนชื่อดัง ตอนนั้นฉันจำได้ว่าตัวเองมีความสุขมาก มากซะจนไม่คิดว่าเรื่องร้ายจะตามมาหลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน วันนั้นเป็นวันที่ผลการสอบเข้ามหาลัยออก ฉันสอบติดม.ชื่อดังที่ใฝ่ฝันมาตลอดด้วยคะแนนสูงลิ่วแถมยังได้เลือกเรียนคณะที่ตัวเองชอบอีกด้วย แต่ทุกอย่างก็พังทลายลงเมื่อฉันได้รับข่าวร้ายในบ่ายของวันนั้น พ่อกับอารุจที่เดินทางไปดูงานที่ต่างจังหวัดเกิดประสบอุบัติเหตุระหว่างกลับบ้าน อารุจเสียขาซ้ายไปหนึ่งข้างและต้องใส่ขาเทียมตลอดชีวิตส่วนพ่อเองก็นอนโคม่าอยู่นับเดือนกว่าจะฟื้นสติกลับมาได้ ฉันตัดสินใจดรอปเรียนไปก่อนเพื่อจะได้มีเวลาดูแลท่านเพราะหลังท่านฟื้นมาร่างกายก็ไม่สามารถขยับได้ตามปกติและต้องนอนติดเตียง อารุจที่เคยพูดจาไพเราะและเป็นชายหนุ่มอารมณ์ดีก็เปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน เขากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์เพราะเสียขาไปแถมยังเอาแต่กินเหล้าและโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของพ่ออยู่เสมอ ‘เพราะพี่โรมคนเดียว! ผมถึงได้เป็นแบบนี้!’ ทุกครั้งที่อารุจเมาฉันก็จะได้ยินคำนี้อยู่เสมอ แม้จะสงสารพ่อจับใจที่ถูกน้องชายตัวเองด่าทอแต่ฉันก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย หลังจากผ่านไปไม่กี่เดือนอาการของพ่อก็ทรุดหนักจนต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ ครั้งนี้หมอบอกว่าให้ทำใจไว้สักหน่อยเพราะร่างกายของพ่อไม่ไหวแล้ว ฉันทำได้แค่ร้องไห้อยู่หน้าห้องผ่าตัดเท่านั้น ในเช้าวันต่อมาพ่อก็จากไปอย่างสงบด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว อารุจที่ได้รู้ข่าวนี้ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเขาเอาแต่นิ่งเงียบและกินเหล้าหนักกว่าเดิม การตายของพ่อนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตฉัน ไม่สิ....ต้องบอกว่าหลังจากการเปิดพินัยกรรมต่างหาก ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของพ่อตกเป็นของฉันที่เป็นทายาทตามกฎหมายโดยมีข้อแม้ว่าฉันจะต้องดูแลอารุจไปจนกว่าอารุจจะช่วยเหลือตัวเองได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพราะยังไงซะเขาก็เป็นน้องชายคนเดียวของพ่อ แต่ฉันคิดผิด หลังจากที่อารุจได้ฟังพินัยกรรมก็เริ่มมีพฤติกรรมแปลก ๆ เขาเริ่มไม่กลับบ้านและกลับมาแต่ล่ะครั้งก็ขอเงินก้อนโตออกไปด้วยทุกรอบ แรก ๆ ก็แค่หลักหมื่นแล้วค่อยขยับมาเป็นหลักแสน ฉันเริ่มสงสัยมากขึ้นจนสุดท้ายตัดสินใจไปจ้างนักสืบให้ตามดูเขาจนได้รู้ว่าเขาติดการพนันอย่างหนัก ฉันตัดสินใจที่จะคุยเรื่องนี้กับเขาตามตรงเพราะรู้ว่าอารุจกำลังถลำลึกแต่คำตอบที่ได้กลับมามีเพียงอารมณ์โกรธเกรี้ยวและคำด่าทอพ่อที่ตายไปแล้ว ‘ที่ฉันต้องเป็นแบบนี้มันก็เพราะพ่อของแก ถ้ามันไม่ทำให้ฉันพิการจนทำงานไม่ได้ก็คงไม่หันไปหาความสุขใส่ตัวแบบนี้!’ ‘อารุจคะ หนูขอร้องนะคะ เลิกเล่นการพนันเถอะค่ะ’ ‘หึ เห็นแก่ที่แกเป็นหลานฉัน ได้สิแต่แกต้องเซ็นยกบ้านหลังนี้ให้กับฉันแล้วฉันจะยอมเลิก เป็นไงกล้าพอไหมล่ะ น้ำทิพย์?’ ‘.....’ ‘ถ้าทำไม่ได้ก็เลิกพูดเรื่องนี้แล้วเอาเงินมา!’ สุดท้ายฉันก็ไม่อาจตัดใจยกบ้านให้กับอารุจได้ มันยิ่งทำให้เขาได้ใจและขอเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ จนไปแตะหลักล้าน ทรัพย์สินที่มีเริ่มหมดลงไปช้า ๆ จนฉันต้องขายธุรกิจเพียงอย่างเดียวของพ่อเพื่อเอาเงินมาจ่ายคนใช้ในบ้านก่อนจะให้ทุกคนแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง ‘หนูขอโทษนะคะทุกคน ยังไงก็ขอให้โชคดีนะคะ’ ฉันยืนส่งทุกคนอยู่หน้าบ้าน อารุจที่หายหัวไปหลายวันเดินโซเซเข้ามาถามด้วยความงุนงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ‘นี่มันอะไรกัน แกไล่คนใช้ออกเหรอทิพย์?!’ ‘เปล่าค่ะ แต่เราไม่มีเงินพอจะจ้างพวกเขาอีกแล้ว บริษัทที่พ่อเคยทำก็ขาดทุนจนต้องขายทิ้งเพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าชดเชยคนงาน ตอนนี้เราไม่เหลืออะไรแล้วค่ะ....’ ‘โกหก! พี่โรมมีเงินตั้งเยอะแยะ อ๋อ! แกไม่อยากให้เงินฉันสินะถึงได้กุเรื่องแบบนี้ขึ้นมา แกมันก็เหมือนพ่อไม่มีผิดไอ้พวกมือถือสาก ปากถือศีล!’ ‘พอเถอะค่ะ หนูทนไม่ไหวแล้วนะเลิกว่าร้ายพ่อสักที!’ ‘ทำไมว่ะ แกทนฟังความเลวของพ่อตัวเองไม่ได้หรือไงฮะ!’ ‘อารุจคะ อายังจะต้องการอะไรอีก หนูไม่เหลืออะไรแล้วนะนอกจากบ้านหลังนี้!’ ‘งั้นแกก็ยกมันให้ฉันสิแล้วฉันจะเลิกตอแยแก’ ‘.....ก็ได้ค่ะ หนูจะทำตามที่อาขอแล้วหลังจากนี้เราจะไม่เกี่ยวข้องกันอีก’ วันนั้นฉันตัดสินใจยกบ้านให้กับอารุจด้วยหวังว่าเราจะไม่ต้องเกี่ยวข้องกันอีก อารุจเองก็ดูพอใจมากกับสิ่งที่ได้ไป หลังจากนั้นฉันก็ย้ายมาอยู่ที่หอพักเล็ก ๆ ใกล้กับมหาลัยที่กำลังเตรียมสอบเข้า มันอาจไม่ใช่มหาลัยที่อยากเข้าแต่ตอนนั้นฉันยังทำอะไรไม่ได้มากด้วยเงินที่เหลืออยู่อย่างจำกัด ฉันไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจแบบนั้นมันจะนำพาเรื่องที่เลวร้ายกว่าเดิมมาให้และมันก็คือจุดเริ่มต้นของฝันร้ายครั้งใหญ่ในชีวิตของฉันเอง.....
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม