ไม่น่าเชื่อว่าคุณเวกัสที่ดูรักสุขภาพจะชอบของหวานแบบนั้นแถมยังเป็นพวกไม่ยอมรับอีกด้วยว่าตัวเองติดหวาน.....
“โอเคค่ะไว้จะลองดูนะคะ ทิพย์ขอไปอาบน้ำนอนก่อนนะ”
(จ้า มีอะไรก็โทรมานะ)
“ขอบคุณนะคะพี่เนม”
ฉันพูดอะไรกับพี่เนมอีกนิดหน่อยก่อนจะกดวางสาย พอในห้องมันเงียบก็อดคิดเรื่องของคุณเวกัสขึ้นมาอีกรอบไม่ได้
ฉันไม่รู้ว่าเขาแกล้งทำเป็นจำฉันไม่ได้หรือว่าจำไม่ได้จริง ๆ กันแน่ บางครั้งเขาก็มองฉันเหมือนมีเรื่องอยากถาม บางครั้งก็มองเหมือนเพิ่งเคยรู้จักกัน ฉันรู้สึกว่าเขามีมุมลึกลับและน่าค้นหายังไงชอบกล เวลาที่เขาทำงานดูสงบเหมือนผืนน้ำที่ไร้คลื่นแต่ภายในใจของเขากลับอัดแน่นไปด้วยอะไรบางอย่างที่ฉันก็ไม่เข้าใจ
“หรือเขาจะจำไม่ได้จริง ๆ นะ....”
ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็คงจะดี ฉันไม่อยากให้ความสัมพันธ์แค่ชั่วข้ามคืนนั่นทำให้กระทบกับงานไปด้วย ถึงแม้จะแยกแยะได้แต่มันคงจะรู้สึกแปลก ๆ อยู่เหมือนกันที่เลขาตัวเองคือคนที่เคยวันไนท์ด้วย....
“โอ้ยยย ไม่รู้แล้ว ปวดหัวชะมัดเลย.....”
ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปก่อนจะคว้าตุ๊กตาหมีตัวโปรดมากอดไว้ถึงจะอายุ 24 แล้วแต่ฉันก็ยังติดตุ๊กตาอยู่ดี
“ไว้พรุ่งนี้จะซื้อของหวานไปให้นะ คุณบอสสายหวาน....”
ฉันตื่นเช้ากว่าปกติเล็กน้อยเพื่ออกไปตามหาของหวานที่เขาชอบก่อนจะหิ้วมันเดินไปตามถนนเพื่อไปทำงาน โชคดีที่หอพักฉันกับที่ทำงานไม่ไกลมากนักมันทำให้ทั้งประหยัดเวลาและประหยัดเงินไปได้พอสมควร
ตอนนี้ยังเช้าเกินกว่าที่ทุกคนจะมาทำงาน ฉันเดินเข้าไปในห้องครัวขนาดย่อมเพื่อจัดของหวานไว้รอคุณเวกัสก่อนจะเอาไปแช่ไว้
“มาเช้าจังเลยนะครับ”
เสียงทุ้มที่ดังขึ้นกะทันหันทำเอาจานของหวานเกือบร่วงลงพื้น ฉันหันขวับไปตามเสียงก็เจอคุณเวกัสกำลังยืนยิ้มอยู่ที่ข้างประตู
“ตกใจหมดเลยค่ะ!”
“ขอโทษทีครับ นึกว่าได้ยินเสียงผมแล้ว”
เขาพูดด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นโคโลจน์อ่อน ๆ ของผู้ชาย ฉันจำกลิ่นนี้ได้กลิ่นที่ทำให้สบายใจจนลืมทุกอย่างรอบตัว....
“เอ่อ ยะ อยากได้กาแฟไหมคะ”
“ก็ดีครับ”
“งะ งั้นเดี๋ยวฉันชงให้ค่ะ คุณไปรอที่ห้องทำงานก่อนก็ได้”
ดวงตาสีดำอมเทาที่เอาแต่จ้องมาทำเอาหัวใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ ภาพในคืนนั้นวนกลับมาในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าเสียงครางทุ้มหูยังติดอยู่ในโสตประสาทและไม่ยอมจางหายไป
กลิ่นของเขา
เสียงของเขา
ใบหน้าของเขา
ฉันไม่เคยลืมเลยแม้แต่คืนเดียว เส้นผมสีเทาเข้มจนเกือบดำที่นุ่มมือน่าสัมผัสก็ยังจำได้หรือแม้กระทั่งลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาเองก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ทุกอย่างในตัวเขาชวนให้หลงใหลและอย่างสัมผัส ไออุ่นจากร่างสูงที่แผ่มาในเช้าของวันที่อากาศหนาวทำให้อยากซุกเข้าหาอย่างไม่รู้ตัว
ฉันก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัวจนชนเข้ากับเคาท์เตอร์พอหันไปดูและกำลังจะหันมาบอกว่าให้เขาไปรอที่ห้องทำงานอีกรอบริมฝีปากของเราก็สัมผัสกันอย่างไม่ตั้งใจ
“อ๊ะ อื้ออ....”
เสียงประท้วงถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอเหลือเพียงเสียงอู้อี้เล็กน้อย มือหนาประคองแก้มทั้งสองข้างของฉันไว้พลางบดจูบลงมาอย่างไม่เร่งรีบ
ริมฝีปากหนาบังคับให้ฉันเผยอปากรับก่อนจะส่งเรียวลิ้นเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาสำรวจทุกซอกทุกมุมในปากฉันและมอบรสหวานที่ไม่อาจลืมให้
มันคละคลุ้งไปทั่วปากจนฉันแทบละลายลงตรงนี้ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจมน้ำลงเรื่อย ๆ โดยที่ทำอะไรไม่ได้ เขาแสดงออกชัดเจนผ่านจูบที่เร่าร้อนว่า
เขากำลังต้องการฉัน
“ผมจะไปรอที่ห้องทำงานนะครับ”
เมื่อเขาจูบจนพอใจแล้วเขาก็เป็นฝ่ายหยุด ใบหน้าฉันเห่อร้อนไปหมดและตอนนี้ก็คงแดงจนปิดไม่มิด
“คุณน่ารักจนผมอดใจไม่ไหว น้ำทิพย์”
เขาพูดส่งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะทิ้งฉันที่ยังงงให้ยืนอยู่ในห้องครัวคนเดียว พอไม่มีมือหนาคอยช่วยพยุงแล้วร่างกายมันก็หมดแรงเอาดื้อ ๆ
ฉันทรุดลงไปกองกับพื้นพลางยกมือแตะปากเบา ๆ ไออุ่นจากเขายังไม่จางหายไป รสหวานที่ยังเต็มปากนั่นก็ด้วย....
“ตายแล้วทิพย์ ทำงานได้สองวันประธานก็จับฉันจูบแล้ว นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแล้วทำไมฉันไม่ขัดขืนล่ะ!”
ฉันได้แต่ตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อดึงสติที่ลอยล่องไปแสนไกลกลับเข้าร่าง แล้วทีนี้ฉันจะมองหน้ากันยังไงเนี่ย
“โอ้ย ตายแล้ววว เขาจำมันได้จริง ๆ ด้วย!!”
ตอนนี้ฉันมั่นใจแล้วว่าเขาเองก็จำฉันได้ แสดงว่าเมื่อวานเขาแกล้งฉันงั้นสินะ! หมอนี่มันเจ้าเล่ห์กว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก
แล้วแบบนี้ฉันจะทำยังไงต่อดี....
หวังว่าฉันจะไม่ตกงานเร็ว ๆ นี้นะ
»»»»«««««
ร่างสูงยืนแอบมองคนตัวเล็กที่ตีอกชกหัวตัวเองอย่างชอบใจและอดขำไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีว้าวุ่นของอีกฝ่าย
“หึ ยัยคนน่ารัก ใครมันจะไปอดใจไหว”
ใช่ เมื่อกี้เขาเผลอไผลไปตามอารมณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน รู้ตัวอีกทีก็จับเธอจูบไปซะแล้ว ริมฝีปากเล็ก ๆ นั่นทำเขาแทบคลั่ง รสหวานจากเธอทำให้เขาหิวกระหายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เขาอยากจับเธอมัดไว้บนเตียงและรังแกจนกว่าจะอิ่ม อยากจะลิ้มลองทุกจุดในร่างกายที่เต็มไม้เต็มมือนั่น อยากจะเฝ้ากระซิบบอกว่าเขาชอบเธอและอยากครอบครองร่างกายเธอเพียงใด
“เธอจะทำยังไงต่อนะ อยากรู้จริง ๆ เลย”
เวกัสเดินกลับไปห้องทำงานอย่างอารมณ์ดีผิดกับน้ำทิพย์ที่ยังว้าวุ่นใจไม่หาย เธอเหม่อลอยจนไม่รู้ว่าตัวเองเติมน้ำตาลลงในกาแฟไปถึงสี่ครั้งแล้ว
“อ๊ะ ตายแล้ว!”
เธอที่ได้สติกลับมารีบวางช้อนน้ำตาลลงก่อนจะเผลอใส่ช้อนที่ห้าลงไปและตั้งใจจะเอาไปเททิ้งเพื่อชงให้ใหม่ ทว่าสายตาของเธอก็ไปสะดุดเข้ากับจานขนมหวานที่อุตส่าห์หอบร่างไปซื้อมาแต่เช้า
“ฉันจะเอาคืนคุณสักหน่อยแล้วกัน ข้อหาแกล้งทำเป็นจำไม่ได้”
ใบหน้าหวานเผยรอยยิ้มเล็ก ๆ ออกมาก่อนจะจัดทุกอย่างใส่ถาดเพื่อไปเสริฟคนที่เพิ่งขโมยจูบเธอไป ร่างบางหอบถาดอาหารมาหยุดที่หน้าห้องก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อตั้งสติก่อนจะเปิดประตูเข้าไปและนำมันไปวางไว้หน้าประธานหนุ่ม
“กาแฟค่ะ....”
“ขอบคุณครับ”
เวกัสเอ่ยขอบคุณโดยที่ไม่เงยหน้ามองอีกฝ่าย มือหนาเซ็นเอกสารอย่างไม่หยุดและสายตาคมที่จ้องเธอเมื่อกี้ก็กำลังอ่านเอกสารอย่างรวดเร็ว
น้ำทิพย์เดินกลับมานั่งที่ของตัวเอง เธอแอบเหล่มองเขาเล็กน้อยตอนที่เขายกกาแฟเพื่อจิบก่อนจะต้องผิดหวังเมื่อเขาไม่แสดงอาการอะไรออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว
“กาแฟโอเคไหมคะ”
น้ำทิพย์ที่ใจร้อนเอ่ยถามขึ้น เวกัสพยักหน้าโดยไม่หันมามองเธอพร้อมกับพูดไปด้วย
“โอเคเลยครับ อร่อยกำลังดี ขอบคุณนะครับ”
โอเค เธอเชื่อที่เนมบอกแล้วว่าเวกัสติดหวานแต่ไม่รู้ตัว เขายกกาแฟขึ้นจิบพร้อมกับจิ้มทองหยอดเข้าปากไปด้วยและกินมันเหมือนไม่รู้สึกหวานเลยสักนิด
น้ำทิพย์แอบขนลุกเล็กน้อยเพราะเธอเองก็กินหวานแต่ไม่มากขนาดนี้ เขายังคงตักขนมเข้าปากชิ้นแล้วชิ้นเล่าและพอมันหมดเขาก็เงยหน้าขึ้นอย่างงง ๆ
“ผมลืมแบ่งให้คุณ ขอโทษนะครับมันอร่อยมากจนหยุดกินไม่ได้เลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันตั้งใจซื้อมาให้คุณอยู่แล้ว”
“ให้ผม?”
“ค่ะ ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณไม่ชอบผักแถมเมื่อวานยังเอาสลัดมาให้คุณกินอีก....”
น้ำเสียงเธอรู้สึกผิดเล็กน้อย เวกัสยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้ไว้
“งั้นผมรับคำขอโทษแล้วกัน ส่วนสลัดผมกินหมดนะไม่ได้ทิ้งแม้แต่ชิ้นเดียว”
“คะ? กินหมดเลยเหรอคะ ก็คุณไม่ชอบไม่ใช่เหรอคะ?”
“ครับ ผมไม่ชอบมันเลยแต่คุณอุตส่าห์เอามาให้ก็ไม่อยากเสียน้ำใจ”
แววตากรุ่มกริ่มของคนตรงหน้าทำให้น้ำทิพย์ทำตัวไม่ถูก แก้มนวลแดงเล็กน้อยกับคำพูดมีนัยยะของเขา
“ทำงานกันเถอะครับ วันนี้ผมมีประชุมที่ไหนหรือเปล่า?”
น้ำทิพย์รีบตั้งสติก่อนจะเปิดสมุดที่จดตารางงานเขาไว้และรายงานเรื่องที่ต้องทำในวันนี้
“ช่วงสายมีประชุมกับคู่ค้าค่ะ ฉันเตรียมเอกสารไว้ให้ในแฟ้มสีฟ้าแล้ว ส่วนตอนบ่ายมีนัดกับคุณเทวาค่ะ”
“งั้นผมรบกวนคุณเข้าประชุมกับผมในช่วงสายด้วย ส่วนตอนบ่ายก็เลิกงานและกลับก่อนได้เลยเพราะผมคงไม่ได้เข้าบริษัทอีก ห้ามปฏิเสธนะครับ”
เขารีบดักคอเธออย่างรู้ทันพร้อมกับกำชับอย่างเด็ดขาด น้ำทิพย์เลยได้แต่ทำตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เข้าใจแล้วค่ะ คุณเวกัส”
“ผมฝากคุณจัดการเรื่องเอกสารที่ต้องใช้ในวันพรุ่งนี้ไว้ด้วยนะครับ พรุ่งนี้มีประชุมผู้บริหารทั้งหมดใช่ไหม?”
“ค่ะ ประชุมตั้งแต่เก้าโมงเช้าค่ะ”
“เตรียมทุกอย่างให้พร้อมนะครับ พรุ่งนี้ผมมีเรื่องจะประกาศในที่ประชุมด้วย เป็นวาระพิเศษ”
“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้ค่ะ”
“ดีมากครับ”