ตอนเช้าชิงเถา บิดา พร้อมด้วยสองแฝดที่ตามออกมาเที่ยวด้วย เดินออกจากโรงเตี๊ยมเพื่อที่จะไปร้านช่างรับทำบ้านที่อยู่ไม่ไกลนักจากการสอบถามมาจากเสี่ยวเอ่อร์ ร้านที่พวกเขามานั้นไม่ได้ใหญ่โตมากนักสภาพเต็มไปด้วยการใช้งานที่ดูแล้วน่าเชื่อได้จากการที่น่าจะก่อตั้งมาหลายปี เข้ามาในร้านมีเสี่ยวเอ่อร์ออกมาต้อนรับก่อนจะพาไปยังห้องรับรองเล็กๆที่อยู่ด้านใน พร้อมกับน้ำชาที่ถือตามมาต้อนรับ
“นายท่านมีอะไรให้ร้านช่างตระกูลฉงรับใช้ขอรับ” ชายวัยกลางคนที่เป็นหลงจู๊ของร้านถามหลังจากนั่งลงตรงข้างกับพวกนาง
“วันนี้พวกเราจะมาว่าจ้างให้ร้านท่านไปสร้างกำแพงและที่พักเล็กๆซักหลังขอรับ” จิ้นสิงเอ่ยพูดคุยกับหลงจู๊กับสิ่งที่ตนต้องการ
“ได้ไม่มีปัญหาแล้วตรงการแบบไหน หรือมีแบบที่ต้องการไหม” หลงจู๊สอบถามออกมาเพราะลูกค้าแต่ละคนก็ต้องการไม่เหมือนกันซึ่งราคาก็ต้องต่างกันด้วยนั่นต้องเป็นสิ่งที่ต้องตกลงกันให้ลงตัว
“มีเจ้าค่ะ หลงจู๊ลองดูก่อนว่าพอจะเป็นไปได้ไหม” ชิงเถายื่นกระดาษที่นางวาดไว้คร่าวๆ ด้วยการใช้หมึกกับพู่กันที่ไม่ค่อยถนัดของนางกับการวาดภาพนางก็ไม่สันทัดเช่นกัน ดังนั้นเมื่อนางยื่นภาพให้หลงจู๊ดูแล้วนางจึงจะตรงอธิบายให้ฟังอย่างละเอียดด้วย เพื่อที่จะได้เป็นไปตามที่นางต้องการ ซึ่งแบบที่นางต้องการนั้นคือกำแพงที่ทำจากอิฐและหินสูงประมาณอกผู้ใหญ่ซึ่งทุกๆช่วงตัวก็ให้ก่ออิฐให้สูงขึ้นไปอีกประมาณแขนของนางส่วนช่องว่างนั้นนางให้ตกแต่งแผ่นไม้ให้เป็นแนวโค้งขึ้นของแต่ละช่อง แล้วในส่วนของกำแพงด้านในบ้านนางยังให้บนพื้นทำกระบะปลูกดอกไม้ไม่กว้างมากโดยเป็นส่วนหนึ่งกำแพง ส่วนประตูนางก็ให้ทำแบบเดิมเพราะคิดว่าสวยและแน่นหนาดีแล้ว ซึ่งพอหลงจู๊ฟังพร้อมเหตุภาพวาดของนางคร่าวๆก็พอจะเข้าใจได้และจากเอกสารที่ดินระบุความยาวของที่ดินเอาไว้ด้วยหลงจู๊จึงทำการคำนวณค่าก่อสร้างได้ หลังจากต่อรองอยู่นานโดยชิงเถาก็สรุปได้ว่าราคาอยู่ที่ 200 ตำลึง แต่ก็อาจจะเพิ่มลดได้อีเล็กน้อยเมื่อไปเจอสถานที่จริง แล้วก็บ้านหลังเล็กแค่พออยู่ได้ของพวกนางหลงจู๊คิดราคาที่ 50 ตำลึง ซึ่งช่างจะเข้าไปก่อสร้างให้พวกนางได้ในอีก 3 วัน หลังจากตกลงเรื่องราคาจ่ายค่ามัดจำ แล้วก็บอกสถานที่กันเสร็จเรียบร้อยพวกนางจึงเดินทางกลับโรงเตี๊ยมทันที
หลังจากกลับจากการว่าจ้างช่างแล้ว ครอบครัวชิงเถาที่ตอนแรกว่าจะหยุดพักไปก่อนเมื่อสร้างบ้านเสร็จจึงค่อยทำของออกมาขายอีกรอบ จะต้องเปลี่ยนเนื่องจากราคาที่ตกลงกับช่างนั้นถ้าหักออกแล้วพวกนางจะเหลือใช้อีกไม่กี่ตำลึงดังนั้นจึงต้องเช่าห้องครัวของโรงเตี๊ยมที่พักพักอยู่ชั่วคราวเพื่อทำการต้มหมิ่งฝ่านเพื่อทำผลึกสีไปส่งผู้ที่สั่งจองไว้ ชิงเถานางนึกเสียดายที่ไม่ได้คนพวกนั้นจ่ายมัดจำไว้ก่อน จะได้พอมีเงินเหลืออยู่บ้างก่อนที่รอบ้านแล้วเสร็จไม่งั้นคงไม่ต้องมาทำสินค้ากันข้างนอกอย่างนี้ รอบนี้ยอดสั่งจองผลึกหมิ่งฝ่านหลายร้อยอันน่าจะใช้เวลาหลายวันในการผลิตออกมา เพราะแต่ละชิ้นต้องใช้เวลาหลายชั่วยามให้มันก่อตัวเป็นผลึกขึ้นได้
วันนี้เป็นวันที่ช่างจะเริ่มเข้าไปสร้างบ้านที่ครอบครัวนาง พวกนางจึงต้องไปดูการทำงานเผื่อมีอะไรขาดเหลือจะได้สั่งการช่างได้
“บ้านสร้างตรงนี้เลยขอรับ นี่แบบลองดูก่อน” จิ้นสิงเดินเข้าไปคุยกับช่างที่มารอก่อนแล้ว ซึ่งแบบนั้นเป็นชิงเถาที่วาดไว้แบบคร่าวๆตัวบ้านยกสูงจากพื้นเล็กน้อยพื้นที่เพียงใช้วางสิ่งเล็กน้อย และพวกนางนอนรวมกันแล้วไม่เบียดนักกับด้านหลังที่เป็นห้องน้ำ และด้านข้างที่เป็นหลังคายื่นออกมาไว้สำหรับเป็นครัว ซึ่งหลังช่างประเมินแล้วเป็นบ้านที่สร้างได้ง่ายใช้เวลาไม่ถึง 3 วันก็แล้วเสร็จซึ่งวันที่สามนั้นพวกนางน่าจะได้ย้ายเข้ามาได้เลยในช่วงบ่าย
คนงานที่มาสร้างบ้านในครอบครัวชิงเถาวันนี้มี 6 คนที่ดูแล้วทุกล้วนผ่านงานมาอย่างมากมาย หลังจากที่ช่างอธิบายแล้วก็แบ่งงานให้ลูกน้องทำทุกคนก็แยกย้ายกันทำงานทันทีโดยใช้ไม้จากที่นำมาด้วย เมื่อเห็นว่าคนงานและงานเริ่มทำงานกันแล้ว ครอบครัวของชิงเถาก็เริ่มทำงานของตัวเองบ้างนั่นก็คือทำความสะอาดพื้นที่โดยการขุดหญ้าออกด้วยแรงพวกนางนั้นอาจจะใช้เวลาหลายวันเลยที่เดียว เพราะพื้นที่ปล่อยรกร้างมานานวัชพืชต่างๆ ก็เติบโตกันมากคลุมเกือบทั้งพื้นที่ไหนจะพวกสัตว์เล็กหลากสายพันธุ์ที่เขามายึดพื้นที่อีกพวกเขาจะต้องจักการให้เรียบร้อย
หลังจากเมื่อวานครอบครัวชิงเถาเริ่มเข้าไปจัดการวัชพืชในพื้นที่แล้วซึ่งเสร็จไปเพียงน้อย แต่วันนี้พวกนางจะต้องไปส่งผลึกสีตามสถานที่ต่างๆ ที่ลูกค้าสั่งไว้โดยบิดากับมารดาพวกนางจะเป็นผู้ไปจัดการงานในที่ดินส่วนพวกนางทั้งสี่ช่วยกันหอบหิ้วผลึกสีในตะกร้าร้อยกว่าชิ้นไปส่งที่ต่างๆ ซึ่งแต่ละที่นั้นมิใช่ว่าจะใกล้กันพวกนางต้องเดินเกือบจะทั่วเมืองดีที่ชิงเถานางเลือกทางเป็นพื้นที่ด้านเดียวของเมือง จึงไม่ต้องเดินอ้อมจนทั่วเมืองหลวงนี้ ถ้าจะเหนื่อยขนาดนี้พรุ่งพวกนางจะต้องเช่าเกวียนซะแล้วถึงต้นทุนจะเพิ่มแต่ก็ดีกว่าต้องมาเหนื่อยอย่างนี้
“มาส่งผลึกสีตามที่คุณหนูหลี่ซูซ่านสั่งเจ้าค่ะ” ลี่ถิงพูดกับเวรยามหน้าจวนหลังหนึ่งที่พวกนางมาส่งของนี่จะเป็นหลังสุดท้ายแล้วหลังจากส่งมาทั้งวัน
“รอตรงนี้ เดี๋ยวข้าจะไปแจ้งแก่คุณหนูก่อน” เวรยามผู้หนึ่งบอกก่อนจะเดินหายเข้าไปในหลังประตูใหญ่ รอเพียงไปนานก็มีหญิงสาวสองคนที่รีบเดินมาทางประตูจวนนั่นก็คือคุณหนูตระกูลหลี่และสาวใช้นั่นเอง คุณหนูนางนี้นางเฝ้ารอผลึกสีที่สั่งไปทุกวันว่าวันไหนนางจะได้มาไว้ประดับห้องตนเหมือนคุณหนูคนอื่นที่บ้าง เนื่องจากนางพึ่งได้จะรู้จากผู้คนพูดกันแต่ตอนนั้นสินค้าก็หมดซะแล้วทำได้เพียงสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น ซึ่งนางก็ไม่ทำให้การรอคอยของตนไร้ประโยชน์เนื่องจากนางสั่งจองไว้หลายสิบอันเลยทีเดียว
“ผลึกสีที่สั่งจองไหวเจ้าค่ะ ลองตรวจนับจำนวนก่อน” ชิงเถาเอ่ยบอกแก่คุณหนูตระกูลหลี่พร้อมกับยื่นตะกร้าที่บรรจุผลึกสีอยู่ให้กับสาวใช้ที่เข้ามารับของแทนคุณหนูพร้อมเงินที่เตรียมไว้เรียบร้อยตามราคาสินค้า
“อีกไม่นานพวกข้าจะเริ่มไปขายในตลาดใหญ่ทางฝั่งทิศใต้ของเมืองนะเจ้าคะ ถ้าคุณหนูต้องการก็ไปเดินดูได้ราคาเก่าเดิมแต่ถ้าสั่งจองต้องจ่ายก่อนครึ่งหนึ่ง” ชิงเถาอธิบายออกไปเหมือนดังที่บอกลูกค้าทุกคนที่พวกนางไปส่งของ เนื่องจากบ้านพวกนางอยู่ทิศใต้ของเมืองจึงจะย้ายแฝงขายของไปที่ตลาดใกล้บ้านแทน
“ได้ ถ้ามีโอกาสข้าจะไปเยี่ยมชม” คุณหนูตระกูลหลี่ตอบรับแล้วจึงเดินนำสาวใช้กลับไปยังเรือนพักเนื่องจากอยากจะหาที่เหมาะจัดวางไหนนางอยากจะชื่นชมผลึกสีใจจะขาดแล้ว