เธอไม่ใช่เด็กแล้วนะ

1295 คำ
ศรุตพานลินภัสร์มาทานอาหารที่ร้านไม่ห่างจากคอนโดมากนัก เมื่อทานอาหารเสร็จเข้าก็พาหญิงสาวไปโรงพยาบาลเพื่อทำแผลที่เข่า ชายหนุ่มนั่งรออยู่นอกห้องขณะที่เธอเข้าไปล้างแผล เมื่อทำแผลเสร็จแล้วขณะที่นลินภัสร์ไปรับอุปกรณ์ทำแผลและเดินกลับมายังจุดที่ศรุตนั่งอยู่ แต่ยังเดินมาไม่ถึงหญิงสาวก็บังเอิญได้เจอกับหมอคนหนึ่งที่เคยรักษาคุณยายของเธอเมื่อหลายเดือนก่อน “สวัสดีค่ะคุณหมอ” “สวัสดีมายด์ เป็นอะไรทำไมมาโรงพยาบาลล่ะ” “มายด์หกล้มมีแผลนิดหน่อยค่ะ แล้วคุณหมอล่ะคะมาทำไมที่นี่” “ผมมาออกตรวจที่นี่ แล้วเป็นยังไงบ้างตอนนี้สบายดีใช่ไหม” “มายด์สบายดีค่ะ” “เราไม่ได้เจอกันหลายเดือนแล้วใช่ไหม” “ก็ตั้งแต่งานศพคุณยาย ขอบคุณคุณหมอมากๆ นะคะที่ช่วยดูแลคุณยายตลอดแล้วยังไปร่วมงานคุณยายด้วย” “ไม่เป็นไรหรอกมันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว ว่าแต่มายด์เถอะ ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นแล้วใช่ไหม” “ดีขึ้นแล้วค่ะ มายด์รู้ว่าเกิดแก่เจ็บตายมันเป็นเรื่องธรรมดาแต่ช่วงนั้นก็แย่เหมือนกันค่ะ” “ผมว่าหน้าตามายด์ดูสดใสขึ้นมาก” “มายด์ทำใจได้แล้วค่ะ” “แล้วนี่ทำแผลเสร็จแล้วจะกลับบ้านเลยหรือเปล่า” “ค่ะมายด์จะต้องรีบกลับเลย คุณหมอมีอะไรหรือเปล่า” “อยากจะชวนมากินข้าวด้วยกันสักมื้อน่ะ มายด์ยังใช้เบอร์เดิมใช่ไหม” “ใช่ค่ะ” “ถ้ายังไงวันไหนผมว่างผมจะโทรหานะ” “ได้ค่ะ ถ้างั้นมายด์ไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” นลินภัสร์ยกมือไหว้คุณหมอวัยกลางคนก่อนจะเดินไปหาศรุตที่นั่งรออยู่บนเก้าอี้หน้าห้องทำแผล” “ไปกันเถอะค่ะคุณศรุต” “เรียบร้อยแล้วใช่ไหม” “ค่ะ” “เมื่อกี้เธอคุยกับใครเหรอมายด์” ศรุตถามหลังจากขับรถออกมาจากโรงพยาบาล “เขาเป็นคุณหมอที่เคยรักษาคุณยายของมายด์ค่ะ” “ดูเธอสนิทกับเขานะ” “ก็นิดหน่อยค่ะ เราเจอกันทุกวันตอนที่ยายป่วยแต่ตั้งแต่ยายเสียก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย คุณหมอเขาเลยจะชวนมายด์ไปทานข้าวค่ะ” “แล้วเธอตอบตกลงเขาหรือเปล่าล่ะ” “มายด์ยังไม่ได้ตอบตกลงหรอกค่ะ หมอเขาจะโทรมาหาใหม่อีกที” “เขามีเบอร์โทรศัพท์เธอด้วยเหรอ” “มีค่ะ ตอนนั้นคุณยายไม่สบายมายด์ต้องไปเรียนเขาก็จะคอยโทรบอกอาการของยายให้รู้ค่ะ” ศรุตฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ เพราะปกติแล้วหมอส่วนใหญ่จะไม่โทรรายงานอาการของคนไข้ให้ญาติทราบนอกจากทางญาติจะโทรมาติดต่อและส่วนใหญ่คนที่จะตอบคำถามก็มักจะเป็นพยาบาลประจำวอร์ดเท่านั้น เขามั่นใจเลยว่าคุณหมอหนุ่มคนนั้นกำลังจะจีบนลินภัสร์อย่างแน่นอนและดูท่าทางแล้วนลินภัสร์เองก็ชื่นชมคุณหมอคนนั้นมากอยู่เหมือนกัน “แล้วถ้าถึงวันที่เขาโทรจริงๆ เธอจะออกไปทานข้าวกับเขาหรือเปล่าล่ะ” “ก็ต้องดูก่อนค่ะว่ามายด์ว่างหรือเปล่า แต่จริงๆ มายด์ก็อยากออกไปทานข้าวกับเขานะคะ อยากเลี้ยงข้าวเขาสักมื้อเป็นการตอบแทนที่เขาช่วยดูแลคุณยายอย่างดี” “ดูเหมือนเธอจะชื่นชมหมอคนนี้มากๆ นะ” “ใช่ค่ะมายด์ชื่นชมเขามากๆ เขาเป็นหมอที่เก่งและใจดี แต่มายด์ไม่ได้คิดอะไรกับเขาเป็นอย่างอื่นเลยนะคะ ถึงแม้เขาจะหล่อและใจดีมากๆ ก็เถอะ” “ทำไมถึงไม่คิดอะไรกับเขาล่ะ ฉันว่าเขาหล่อและดูดีมากๆ เลยนะ” “มายด์ไม่เถียงหรอกค่ะ ว่าเขาหล่อและดูดีแต่เขาไม่เหมาะสมกับมายด์เลยสักนิด” “เพราะอะไรถึงไม่เหมาะสมล่ะมายด์ เธอก็สวยเขาก็หล่อดูเหมาะสมกันดีนะ ถ้าหากเขาจะมาจีบเธอก็น่าจะเปิดโอกาสให้เขา” “คุณศรุตก็พูดไปเรื่อยใครเขาจะมาจีบเด็กกะโปโลอย่างมายด์กันคะ” “เธอไม่ใช่เด็กแล้วนะมายด์ อีกไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบเธอกำลังเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ แล้ววัยนี้บางคนก็เริ่มจะมีแฟนมีครอบครัวหรือที่เธอไม่สนใจคุณหมอคนนั้นเพราะเธอมีแฟนอยู่แล้ว” “ตอนนี้ไม่มีค่ะ” “หมายถึงแต่ก่อนมีเหรอ” “ใช่ค่ะ มายด์เคยมีแฟนค่ะ เขาเป็นรุ่นพี่เรียนอยู่คณะวิศวะแต่ก็เลิกกันไปนานแล้ว จากนั้นใหม่ก็ไม่มีแฟนอีกเลย” “เพราะอะไรล่ะ” “เพราะว่ามายไม่อยากเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระน่ะสิคะ ไหนจะต้องทำงานพิเศษ ไหนจะต้องรีบเรียนให้จบ มายด์ก็เลยคิดว่าไม่มีแฟนน่าจะดีกว่า” “แต่ตอนนี้เธอกำลังจะเรียนจบแล้วนะ” “ตอนนี้ยิ่งไม่อยากมีแฟนไปใหญ่เลยค่ะ” “ทำไมล่ะ” “ก็มายด์เป็นหนี้มากถึงสี่แสนใครที่ไหนเขาจะมาคบคุณเป็นหนี้อย่างมายด์ล่ะคะ” “ฉันว่าเธอคิดมากเกินไปแล้วนะ คนเราถ้าคบกันด้วยใจเรื่องเงินทองก็ไม่ใช่ปัญหาเลย” “เพราะคุณศรุตมีเงินทองมากมายก็เลยไม่คิดว่าตรงนี้มันไม่ไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับคุณที่เขาไม่มีเรื่องเงินมันเป็นเรื่องใหญ่ค่ะ” “แล้วถ้าเกิดเธอยังใช้หนี้ไม่หมด เธอไม่อยู่เป็นโสดไปตลอดเลยเหรอมายด์” “ใช่ค่ะมายด์คิดว่าจะเริ่มเปิดใจมีแฟนอีกครั้งหลังจากที่มายด์ใช้หนี้คุณศรุตหมดแล้ว” “มันอีกตั้งหลายปีเลยนะ” “หลายปีก็ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ” “เธอแน่ใจเหรอว่าตัวเองจะทำได้อย่างที่พูดจริงๆ” “แน่ใจค่ะ ตราบใดที่มายังใช้หนี้ไม่หมดมายด์จะไม่มีแฟน” “แต่เธอจะไม่บอกเรื่องหนี้กับเขาก็ได้นะมายด์” “มายด์ไม่อยากปิดบังค่ะ อีกอย่างถ้ายังเป็นหนี้อยู่การใช้จ่ายต่างๆ ก็ต้องคิดให้รอบคอบขึ้น แต่การมีแฟนมันต้องออกไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ มายด์อยากเก็บเงินใช้หนี้มากกว่าค่ะ” “ดูเหมือนฉันจะทำให้เธอลำบากนะ” “ไปลำบากหรอกค่ะยังไงมายด์ก็เต็มใจใช้หนี้ เพราะถ้ายายรู้ยายคงไม่สบายใจมากๆ แน่ค่ะ” “ฉันก็อยากช่วยเธอนะมายด์ เอาแบบนี้ไหมล่ะฉันจะให้เงิน ไปใช้หนี้คืนบริษัทแล้วเธอค่อยมาผ่อนที่ฉันดีไหม” “มันก็ไม่ต่างกันเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหนี้บริษัทหรือเป็นหนี้คุณศรุตเจ้าหนี้ก็คือคนคนเดียวกัน คุณศรุตไม่ต้องทำให้มันยุ่งยากหรอกค่ะ มายด์ใช้กับบริษัทก็ได้” “เธอไม่กลัวคนอื่นในบริษัทจะรู้เรื่องหนี้ของเธอเหรอ เพราะถ้าหากเธอมาเริ่มงานที่นี่ก็ต้องทำเรื่องไปให้ฝ่ายบัญชีหักเงินเดือนของเธอ” “คนอื่นรู้ก็เรื่องของคนอื่นสิคะ” “เธอจะไม่อายใช่ไหม” “จะต้องอายทำไมคะ ถ้ามายด์เอาเงินไปแล้วไม่ยอมใช้หนี้นั่นต่างหากที่ต้องอายค่ะ” “เธอนี่มองโลกในแง่ดีเหมือนกันนะ” ศรุตรู้สึกว่าการได้คุยกับนลินภัสร์นั้นทำให้เขาได้พลังงานบวกมาจากตัวเธอมากๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม