ต้องรู้ให้ได้

1035 คำ
“พี่คะขับตามรถคันไปเลยค่ะ” ผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหลังบอกกับคนขับแท็กซี่วัยกลางคนที่กำลังขับรถเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านหลังใหญ่ “แต่นี่มันถึงบ้านที่น้องบอกแล้วนะคะหรือว่าน้องมาผิดบ้าน” คนขับถามเพราะคิดว่าผู้โดยสารบอกทางมาบ้านของตนเองผิด “หนูไม่ได้มาผิดบ้านหรอกค่ะพี่ แต่หนูอยากตามรถคันนั้นไปมากกว่า ถ้ายังไงพี่ช่วยขับตามให้หนูหน่อยได้ไหมเดี๋ยวหนูให้เงินพิเศษจากค่าแท็กซี่นะคะ” หญิงสาวบอกคนขับรถแท็กซี่ซึ่งเป็นผู้หญิงวัยกลางคนอย่างรวดเร็ว คนขับหันมามองหน้าผู้โดยสารและเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังก็รีบขับตามรถยนต์คันนั้นไป รถคันหน้าขับด้วยความเร็วปกติ ทำให้รถแท็กซี่ขับตามทางได้อย่างสบาย ตอนนี้คนอยู่เบาะด้านหลังนั่งแทบไม่ติดเพราะอยากจะรู้ว่าเวลาดึกขนาดนี้แล้วอาเขยของตนเองจะออกบ้านไปไหนนี่ไม่ใช่คืนแรกที่เธอเห็นเขาออกจากบ้านเวลากลางคืน ตั้งแต่เธอกลับมาอยู่ที่เมืองไทยเกือบจะหนึ่งเดือนก็เห็นอาเขยออกจากบ้านเวลาดึกอยู่หลายครั้ง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายมีครอบครัวและมีภรรยากำลังตั้งครรภ์จะทำแบบนั้นเลย รถคันหน้าขับไปยังคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง “หนูจะเอายังไงกันต่อ จะให้พี่ขับตามเข้าไปไหม” คนขับแท็กซี่หันมาถาม “หนูว่ารอตรงนี้ก่อนค่ะ” “แล้วถ้าเขาไม่ขับออกมาล่ะ” “เรารอสักสิบนาทีนะคะพี่ ถ้าเขาไม่กลับเขามาพี่ค่อยวนไปส่งที่บ้านก็ได้ค่ะ” ไอศิกาบอกกับคนขับรถแท็กซี่ แต่เธอรอไม่ถึงห้านาทีรถคันนั้นก็ขับออกมา “พี่คะขับตามไปเลยค่ะ พี่ว่าในรถมันมีคนนั่งมาด้วยมั้ยคะ หนูมองไม่ถนัด” หญิงสาวยื่นหน้ามาถามขณะที่ตาก็จ้องเข้าไปในรถ “เหมือนจะมีคนขึ้นมานั่งเพิ่มอีกคนนะคะ หนูจะให้พี่ขับแซงไหมจะได้เห็นชัด” “ไม่เป็นไรค่ะ ขับตามไปก่อน” คนขับแท็กซี่ทำตามที่ไอศิกาบอก เธอเว้นระยะห่างเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต เธอขับตามจนรถคันนั้นเลี้ยวเข้าไปจอดในบริเวณโรงแรม “พี่จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ” ไอศิกาเห็นอาเขยของตนเองเดินลงจากรถเลยหายเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอรีบยื่นธนบัตรใบล่ะหนึ่งพันให้คนขับ “ขอบคุณค่ะ แล้วหนูจะให้พี่รอรับไหม” “หนูไม่รู้ว่าต้องรอนานไหม” “ถ้าจะให้พี่มารับก็เบอร์โทรที่แปะไว้ข้างหลังนะ” “ได้ค่ะ” ไอศิกาหยิบโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเบอร์โทรศัพท์ของคนขับรถด้านจากนั้นก็รีบเปิดประตูและเดินเข้ามาในโรงแรม แต่เพราะเสียเวลาคุยกับแท็กซี่ก็เลยไม่เห็นว่าเขาไปทางไหน “ขอโทษนะคะเมื่อกี้มีผู้หญิงกับผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาที่นี่หนูอยากรู้ว่าเขาไปทางไหนคะ” เธอถามพนักงานที่แผนกต้อนรับ “ต้องขอโทษด้วยนะคะเราบอกไม่ได้หรอกค่ะเพราะมันเป็นความลับของแขกค่ะ” “หนูขอร้องล่ะค่ะพี่ช่วยบอกหนูหน่อยได้ไหมว่าเขาไปทางไหน” “คุณเป็นอะไรกับสองคนนั้นเหรอคะ” พนักงานถามเพราะเห็นว่าหญิงสาวมีท่าทางร้อนรนมาก “หนูเป็นหลานสาวค่ะ” “ถึงหนูจะเป็นหลานสาวแต่เราก็บอกไม่ได้จริงๆ ค่ะ” “แต่หนูเป็นหลานสาวของเขาจริงๆ นะคะหนูอยากจะคุยกับเขาถ้าไม่เชื่อคุณดูรูปนี้สิคะ” ไอศิกายื่นรูปของตนเองที่ถ่ายรวมกันทั้งครอบครัวให้กับพนักงาน “ถึงจะมีรูปมาให้ดูแต่เราก็บอกไม่ได้จริงๆ ค่ะ ถ้ายังไงคุณลองโทรติดต่อคุณอาของคุณดูสิคะ” หญิงสาวทำตามที่พนักงานแนะนำแต่ไม่ว่าจะโทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติด “หนูโทรไม่ติดเลย พี่ช่วยหนูไม่ได้เหรอคะ” “ไม่ได้จริงๆ ค่ะ มันผิดกฎ” “หนูขอนั่งรอตรงนั้นได้ไหมคะ” ไอศิกาชี้ไปยังโซฟาด้านหน้าซึ่งตอนนี้ไม่มีใครนั่งอยู่เลย “ได้ค่ะ” เมื่อติดต่ออาเขยไม่ได้และพนักงานไม่ยอมบอกว่าเขาพักที่ห้องไหนหญิงสาวก็เลยต้องนั่งรอ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องรอนานเท่าไหร่ จะเดินไปทางพนักงานคิดว่าเขาคงไม่ตอบแน่ๆ หญิงสาวเลยตัดสินใจโทรศัพท์หาเพื่อน “ฮัลโหล ไอซ์มีอะไรหรือเปล่าตอนนี้เวลาที่ไทยมันดึกแล้วนะหรือไอซ์กลับมาอังกฤษแล้ว” “เปล่า ไอซ์ยังไม่กลับแต่มีเรื่องอยากถามอลันนิดหน่อย” “เรื่องด่วนใช่ไหม” “อือ” “ถามมาเลย” “ไอซ์อยากรู้ว่าเวลาผู้ชายพาผู้หญิงเข้าโรงแรมเขาใช้เวลาอยู่ในโรงแรมนานแค่ไหน” “ถามทำไมเนี่ยอย่าบอกนะว่ามีผู้ชายชวนเข้าโรงแรม” “ไม่ใช่แบบนั้นหรอกอลัน ตอบมาก่อนว่าเวลาอลันพาผู้หญิงเข้าโรงแรมส่วนใหญ่จะใช้เวลานานแค่ไหน” “อย่างต่ำก็ชั่วโมงแต่ไม่น่าจะเกินสามชั่วโมงแล้วไอซ์ถามทำไม” “เอาไว้วันหลังไอซ์จะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังนะ ขอบใจมาก” เธอรีบวางสายจากเพื่อนจากนั้นก็นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือและคิดว่าถ้าเขาเดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงเธอจะถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ไอศิกาเคยสังเกตว่าอาเขยของเธอมักจะออกจากบ้านเวลาประมาณสามถึงสี่ทุ่มและเขาก็จะกลับไปนอนที่บ้านทุกครั้ง แต่เธอไม่แน่ใจว่าเขากลับเข้าไปตอนไหน ที่มานั่งรอแบบนี้ก็เพราะอยากจะคุยกับเขาที่นี่เพราะถ้าไปคุยที่บ้านก็กลัวว่าคุณอาสาวของตนเองจะไม่สบายใจและมันจะกระทบต่อเด็กที่อยู่ในท้อง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม