“ทำไมถึงอยากจะรู้เรื่องนี้ล่ะมีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าหรอกค่ะ หนูแค่อยากรู้เฉยๆ คุณย่าลองเล่าให้ฟังหน่อยสิคะว่าเขาพบรักกันยังไง”
“ที่ถามย่าแบบนี้ไม่ใช่ว่าตอนนี้ตัวเองแอบมีความรักนะถึงอยากจะรู้เรื่องราวความรักของคนอื่น”
“ก็นิดหน่อยค่ะ”
“ตอนอยู่ที่อังกฤษหนูมีแฟนไหม”
“มีสิคะคุณย่า หลานสาวคุณย่าสวยขนาดนี้จะไม่มีแฟนได้ยังไง” ไอศิกาตอบไปตามจริง เธอมีคนมาจีบอยู่หลายคนทั้งคนไทยด้วยกันและคนต่างชาติ
“หลานสาวของย่าสวยมากๆ แล้วแฟนที่หนูพูดถึงเรื่องคบกันถึงขั้นไหนหนูได้ป้องกันหรือเปล่า”
“คุณย่าขาถึงหนูจะไปเรียนต่างประเทศมาหลายปีแต่หนูก็เป็นคนไทยนะคะ คุณย่าเคยสอนหนูให้รักนวลสงวนตัวเพราะฉะนั้นคุณย่าวางใจได้เลยว่าหนูไม่มีทางจะไปทำเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด”
“ย่ารู้นะลูกว่าวัยรุ่นสมัยนี้เขามองเรื่องนั้นเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ย่าไม่ห้ามหรอกเพราะรู้ว่าโลกมันเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยย่าขอแค่รู้จักป้องกัน แต่อย่าให้ตัวเองท้องถ้าหากยังไม่พร้อมและยังไม่เจอคนที่ตัวเองคิดจะแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ด้วย” เมื่อพูดถึงตรงนี้คุณอุไรวรรณก็เสียงอ่อนลงเพราะเรื่องนี้มันห้ามกันยาก
“หนูไม่มีทางทำให้ย่ากับคุณพ่อผิดหวังหรอกนะคะ หนูสัญญาเลยค่ะ”
“ย่าได้ยินหนูพูดอย่างนี้ย่าก็สบายใจ แต่ก็อย่าปิดกั้นตัวเองนะลูกความรักเป็นสิ่งที่สวยงามถ้าเรารู้จักแบ่งเวลาให้มันก็จะไม่กระทบกับการเรียนของเรารักได้แต่อย่าหลงจนทำให้เสียการเรียน”
“ค่ะคุณย่าหนูจะจำคำของคุณย่าไว้”
“แล้วแฟนของหนูไอซ์เป็นคนชาติไหนล่ะใช่คนไทยหรือเปล่า”
“ไม่ใช่ค่ะเขาเป็นคนอังกฤษเป็นรุ่นพี่ของหนูหนึ่งปีจริงๆ จะเรียกว่าแฟนก็ไม่ถูกเท่าไหร่นักหรอกค่ะ เราสองคนยังไม่ได้ตกลงว่าจะเป็นแฟนกันหรือเปล่าเพียงแต่ช่วงนี้หนูสนิทกับเขามากที่สุดเพราะเขาช่วยหนูในเรื่องการเรียนได้เยอะเลยค่ะ”
“ถ้ามีแฟนเราช่วยเหลือกันเรียนแบบนี้มันก็ดีนะ ย่ารู้ว่าหนูไอซ์ของย่าเป็นเด็กดี”
“คุณย่าไม่ว่าเหรอคะ ถ้าหนูจะมีแฟนเป็นชาวต่างชาติ”
“จะว่าอะไรล่ะลูก แต่ขออย่างเดียวนะอย่าไปอยู่กับเขาที่นู่นเรียนจบแล้วก็กลับมาอยู่ที่เมืองไทย ถ้าหากผู้ชายคนนั้นเขารักหนูจริงเขาก็จะยอมมาอยู่กับหนูที่นี่โดยที่หนูไม่ต้องขอร้องเลย”
“หนูยังไม่คิดถึงขั้นนั้นหรอกค่ะคุณย่า หนูอยากรีบเรียนให้จบมากกว่าจะได้รีบกลับมาอยู่กับคุณย่า”
“ขี้อ้อนขี้ประจบแบบนี้จะไม่ให้ย่ารักได้ยังไงล่ะ” คุณอุไรวรรณมองหลานสาวด้วยความรัก ไอศิกากำพร้าแม่มาตั้งแต่เด็กเธอห่วงใยมากกว่าหลานคนอื่นที่มีพ่อกับแม่อยู่กันครบ
“คุณย่าขาสัญญากับหนูได้ไหมถ้าลูกสาวอานิตเกิดมาแล้วคุณย่าจะยังรักหนูเหมือนเดิม จะไม่รักน้องมากกว่าหนูใช่ไหม”
“ไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนั้นหรอกลูกย่ารักหลานทุกคนเท่ากัน นี่หลานยังไม่ทันเกิดก็อิจฉาหลานแล้วเหรอ”
“ไม่ได้อิจฉานะคะ แค่กลัวว่าทุกคนจะหลงรักน้องกันหมดแล้วหนูจะกลายเป็นหมาหัวเน่า”
“ไม่หรอกจ้ะยังไงย่าก็รักหนูมากๆอยู่แล้ว”
“หนูก็รักคุณย่าค่ะ” หญิงสาวกอดคุณย่าของเธออย่างประจบ
“แล้วเมื่อกี้หนูจะถามอะไรย่านะ”
“หนูถามเรื่องอานิตกับอาพัทธ์ค่ะ หนูอยากรู้ว่าเขาคบกันตอนไหนและใครจีบใคร่ก่อน”
“ย่าก็ไม่รู้เหมือนกันรู้อีกทีก็ตอนที่เขาสองคนบอกว่าคบหากันแล้ว”
“แล้วทำไมจะต้องรีบแต่งงานด้วยล่ะคะ หนูเลยไม่ได้มาร่วมงานแต่งงานเลย”
“ก็หมอดูเขาทักว่าถ้ารีบแต่งงานและมีลูกภายในปีนี้ลูกที่เกิดมาจะเป็นอภิชาตบุตรจะเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่ายและย่าก็เห็นว่าอานิตก็อายุมากแล้วและพัทธ์เขาก็เป็นคนที่ขยันทำงานมากๆ ไม่มีอะไรเสียหายเลยที่สองคนนี้จะแต่งงานกัน”
“แล้วอาพัทธ์เขาเป็นคนที่ไหนคะ”
“พัทธ์เขาเป็นเด็กกำพร้าน่ะ”
“เด็กกำพร้าเหรอคะ”
“ใช่เป็นเด็กกำพร้าที่โรงเรียนใกล้บ้านเรานี่แหละ ย่าเคยไปที่โรงเรียนและถูกชะตาก็เลยให้ทุนการศึกษาเขาจนเรียนจบ จากนั้นเขาก็มาสมัครงานที่บริษัทของเรา”
“เขาทำงานที่บริษัทของเราเหรอคะคุณย่า” เมื่อรู้ว่าเจตนิพัทธ์ทำงานที่บริษัทไอศิกาเลยคิดจะเข้าไปทำงานด้วยเพราะคอยจับผิดเขา
“ใช่จ้ะ ย่าว่าทั้งสองคนก็น่าจะเจอกันในบริษัทนั่นแหละ”
“คุณย่าว่าเขาสองคนรักกันดีไหมคะ”
“รักกันดีสิ พัทธ์เขาดูแลอานิตของหนูเป็นอย่างดี พาไปหาหมอพาไปฝากครรภ์และยังไปเข้าคอร์สคุณพ่อมือใหม่ด้วยนะ”
“หนูไม่อยากจะเชื่อเลยอาพัทธ์ล่ะเหรอคะไปเข้าคอร์สคุณพ่อมือใหม่”
“ใช่จ้ะ เขาไปเข้าคอร์สและเรียนรู้ว่าจะต้องดูแลภรรยายังไงระหว่างที่ตั้งครรภ์ ย่านับถือน้ำใจเขามากๆ เลยนะ ทำงานที่บริษัทก็ยุ่งแล้วยังจะทำแบบนี้ให้กับภรรยาอีก เขาเป็นผู้ชายที่ดีมากๆ คนหนึ่งเลย”
ไอศิการู้สึกว่าคุณย่าของเธอจะชื่นชมหลานเขยคนนี้เอามากๆแต่สำหรับเธอแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลย เธออยากจะบอกเรื่องนี้กับคุณย่าแต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่ท่านพูดออกมาแล้วคิดว่าถ้าบอกออกไปคุณย่าก็คงจะไม่เชื่อและคิดว่าเธอเป็นเด็กเลี้ยงแกะ
เธอจะต้องหาหลักฐานเพื่อมาให้คุณย่าดูคุณย่าจะได้จัดการให้เขาเลิกกับผู้หญิงคนนั้นเพราะถ้าหากอาศานิตารู้เธอจะต้องเครียดมาก
“อาเขยคงหนูเป็นคนดีมากๆ เลยนะนะคะคุณย่า”
“ใช่จ้ะ เขาเป็นคนดีมากจริงๆ ย่าไม่คิดเลยว่าการที่ให้ทุนการศึกษาเขาจนเรียนจบมันส่งผลดีกับตัวเขาและครอบครัวของเรามาก เขาช่วยงานในบริษัทได้เยอะมากและยังดูแลอานิตอย่างดีอีกด้วย”
โอศิกาไม่เห็นด้วยกับคำพูดของคุณย่าอุไรวรรณเลยและเธอจะต้องให้ทุกคนรู้ความจริงให้ได้ว่าอาเจตนิพัทธ์ ไม่ได้ดีอย่างที่เขาแสดงให้ทุกคนเห็น