"คุณพ่อ..."
เสียงเรียกที่ดังมาแต่ไกล คุณธานีอ้าแขนออกรอรับอ้อมกอดของลูกสาวคนเดียวที่กำลังวิ่งออกมาจากประตูสนามบินผู้โดยสารขาออก
"ฝัน..."
สองพ่อลูกสวมกอดกันด้วยความคิดถึง
"ฝันคิดถึงคุณพ่อที่สุดเลยคะ"
"พ่อก็คิดถึงหนู ไม่เจอกันแปบเดียวลูกสาวพ่อโตเป็นสาวแล้วนะเนี่ย"
"พ่อคะ ปีนี้ฝันก็ยี่สิบห้าแล้วนะคะ"
"นั้นสินะ แต่ทำไมพ่อถึงเห็นว่าลูกเป็นเด็กอยุ่เลย"
คุณธานีพูดยิ้มๆด้วยความเอ็นดูลูกสาว เขามีลูกสาวคนเดียว แม่ของตามฝันเสียชีวิตตั้งแต่เธอเล็กๆ พอตามฝันจบ ม.6 เขาก็ส่งลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ และนี้ก็ห้าปีเต็มที่ตามฝันไม่ได้กลับมาบ้านเลย
จนมาถึงวันนี้ที่เธอได้กลับมาสู่อ้อมกอดของบิดาอีกครั้ง
"ว่าไง"
ภาคิน ชายหนุ่ม อายุสามสิบเก้า ในวัยฉกรรจ์ ที่รูปร่างสมบูรณ์แบบอย่างคนที่ชอบออกกำลังกาย เจ้าของกิจการการท่องเที่ยวหลายอย่างในเมืองที่ขึ้นชื่อหรือเรียกอีกชื่อคือเมืองไข่มุกอันดามัน เขาเป็นเจ้าของโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่ง ธุรกิจเกี่ยวกับเรือเช่า รวมถึงมีเครื่องบินเล็กสำหรับให้เช่าเหมาลำ ลูกค้าเงินถึงเขาก็สามารถเนรมิตให้ได้หมด สำหรับดาราไฮโซรวมถึง เหล่าบรรดาเศรษฐีทั้งในและต่างประเทศ ล้วนเป็นลูกค้าของเขาทั้งนั้น หลายคนขนานนามเขาว่า
มาเฟียเมืองไข่มุก
"นายธานีไปรับลูกสาวที่กลับมาจากต่างประเทศครับ"
ตะวันรายงานเจ้านาย พร้อมกับส่งรูปถ่ายของสองพ่อลูกที่กำลังกอดกันอยู่ที่สนามบิน
ภาคินจับรูปภาพขึ้นมาดู
"ลูกสาวงั้นหรอ"
เขามองอย่างพินิจพิจารณากับภาพสาวสวยในชุดเสื้อกับกระโปรงหนังสีดำที่เข้ารูปแค่เห็นรูปก็พอมองออกว่าผู้หญิงคนนี้สวยมากทีเดียว
"ตามฝัน อายุยี่สิบห้าเพิ่งจบมาจาก อังกฤษและกลับมาบ้านในรอบห้าปีครับ"
ตะวันรายงานต่อ
"ดี...จับตาดูพวกมันไว้"
ภาคินยกยิ้มมุมปาก สายตาวาวโรจน์ แต่แฝงไว้ด้วยความแค้น
"ฝันตื่นเต้นจังเลยคะ ที่จะได้กลับมาอยู่บ้านเราแล้ว"
ตามฝันบอกบิดาในขณะที่กำลังนั่งรถตู้คันใหญ่ออกจากสนามบิน
"เอ่อ...ฝันพ่อมีอะไรจะบอกลูก"
คุณธานีพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีนัก
ตามฝันมองหน้าบิดาที่มีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
"คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าคะ"
ตามฝันถามบิดา
"คือ...ตอนนี้ที่บ้านเรามีสมาชิกเพิ่มลูกคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม"
คุณธานีถามลูกสาว
ตามฝันนิ่งไป
"คุณพ่อมีภรรยาใหม่หรอคะ"
ตามฝันตัดสินใจถามบิดาออกไปตรงๆ
"ฝันโกรธพ่อหรือเปล่าลูก"
คุณธานีถามลูกสาวด้วยความกังวล
"นอกจากภรรยาใหม่ของคุณพ่อแล้วยังมีใครอีกไหมคะ"
ตามฝันถามกลับไป
"เอ่อ...มีลูกของคุณเดือนฉายอีกสองคน"
ตามฝันหลับตาลงนั่งพิงเบาะรถอย่างคนหมดแรง เธอได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะไม่เลวร้ายอยางที่เธอคิด
"ฝัน"
คุณธานีเรียกลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เป็นไรค่ะพ่อ ฝันเข้าใจ"
ตามฝันหันมายิ้มให้บิดา แต่ในใจนั้นกลับรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างบอกไม่ถูก
"ฝันนี้คุณเดือนฉาย"
คุณธานีแนะนำลูกสาวให้รู้จักภรรยาใหม่
เมื่อมาถึงบ้านแล้ว
"สวัสดีคะ คุณเดือนฉาย"
ตามฝันยกมือสวัสดีแม่เลี้ยง
"สวัสดีจ้ะตามฝันกลับมาก็ดีนะ จะได้มาช่วยกันทำงาน คนทางนี้เขาทำงานกันไม่ได้หยุดส่วนอีกคนนั่งๆนอนๆใช้เงินสบายใจ"
เดือนฉ่ายเปิดศึกตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้ากัน
"คุณเดือน"
คุณธานีเรียกภรรยาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
"ทำไมฉันพูดเรื่องจริง"
แต่เดือนฉายก็ไม่สนใจสามีเลยสักนิด
"คุณว่าดิฉันหรอคะ"
ตามฝันถามออกไปตรงๆ
"เปล่าจ้ะ แม่ไม่ได้ว่าแม่แค่พูดให้ฟัง"
เดือนฉายแทนตัวเองว่าแม่เพื่อต้องการย้ำให้ตามฝันรู้ว่าเธออยู่ฐานะแม่ถึงจะเป็นแค่แม่เลี้ยงก็เถอะ
"ขอโทษนะคะ ถ้าพูดกับดิฉันไม่ต้องแทนตัวเองว่าแม่เพราะดิฉันมีแม่คนเดียวเป็นแค่ภรรยาพ่อฉันแล้วจะมาเหมาตำเเหน่งแม่ฉันไปด้วยเห็นที่จะไม่ได้"
ตามฝันพูดออกมาตรง
"นี่...คุณดูลูกคุณนะคะ เพิ่งก้าวเท้า เหยียบเข้ามาในบ้านก็พาให้บ้านลุกเป็นไฟแล้ว"
เดือนฉายโวยวายใส่สามี
"คุณเดือนหยุดได้แล้ว ฝันเพิ่งมาถึงเหนื่อยๆไปพักก่อนดีกว่าลูก พ่อสั่งให้คนทำความสะอาดห้องไว้ให้แล้ว"
คุณธานีบอกลูกสาว
"ค่ะ...คุณพ่อ"
"อ้อ...ฉันลืมบอกห้องนอนเธอฉันให้นาทีลูกชายฉันไปอยู่แล้ว ส่วนเธอก็ไปอยู่ห้องเล็กตรงปีกซ้ายแทนก็แล้วกัน"
ตามฝันชะงักทันที
"มันไม่มากไปหน่อยหรอ ถึงฉันจะไม่อยู่แต่ห้องนั้นมันก็ห้องฉันคุณมีสิทธิ์มายุ่งกับของของฉัน"
ตามฝันไม่ทนอีกแล้ว
"คุณทำแบบนี้ได้ไงคุณเดือน"
คุณธานีว่าให้ภรรยา
"ทำไมจะไม่ได้ ตานาทีนะทำงานให้คุณอยู่ทุกวันเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดก็ให้เขาได้นอนห้องใหญ่สบายมั่งจะเป็นไรไป"
"มีอะไรกัน..แม่ เสียงดังไปถึงหน้าบ้าน"
มีเสียงชายหนุ่มดังขึ้น
"ตานาทีมาพอดี นี่น้องสาวแกที่กลับมาจากเมืองนอกไง"
คุณเดือนฉายเดินไปเกาะแขนลูกชาย
"เอ่อ...สวัสดีครับพี่ชื่อนาที ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับน้องสาว"
นาทีมองตามฝันด้วยสายตา กะลิ้มกะเหลี่ย ตามฝันรู้สึกรังเกียจครอบครัวนี้ขึ้นมาทันที
"พ่อค่ะ ฝันของออกไปอยู่ข้างนอกนะคะ"
ตามฝันเตรียมจะเข็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกจากตรงนั้น
"เดี๋ยวสิครับน้องสาว จะไปอยู่ที่อื่นทำไมละครับบ้านเราก็ออกกว้างขวางใหญ่โตอยู่ด้วยกันหลายๆคนอบอุ่นดีออก"
นาทีรีบเดินมาจับกระเป๋าเธอไว้ นาทียิ้มให้เธอแต่สายตาที่เขามองมานั้นมันน่า ขยะแขยงมากกว่า
"อย่ามาจับของของฉัน"
"ขอโทษครับที่ทำให้น้องไม่พอใจ"
นาทียังมองตามฝันด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้ใจสักนิด
มีแต่ตามฝันเท่านั้นที่มองเห็นเพราะนาทีหันหลังให้คุณธานีกับเดือนฉ่าย
"นั้นสิลูก บ้านเราหลังใหญ่โตไม่เห็นต้องออกไปอยู่ที่อื่นเลย"
คุณธานีบอกลูกสาว
"ฝันยืนยันคำเดิมคะ ว่าฝันจะไปอยู่ที่อื่น ฝันคงทนอยู่กับคนพวกนี้ไม่ได้จริงๆ"
"แม้...ผู้ดีมากจากไหนจ้ะ อยู่กับพวกฉันมันเป็นยังไง"
เดือนฉ่ายโวยวายขึ้น
"มันน่ารังเกียจ ขวัญไปนะคะพ่อ"
"นี้..คุณดูลูกคุณนะคุณธานี"
"พอเถอะคุณ ลูกไม่อยากอยู่ที่นี้ก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวพ่อหาที่อยู่ให้"
คุณธานีบอกลูกสาว
"เอาแบบนี้ด่ไหมครับคุณพ่อเดี๋ยวผมพาน้องไปหาที่อยู่ที่ถูกใจก็ได้ครับ"
นาทีรีบเสนอตัว
"พ่อคะ ให้คนขับรถไปส่งฝันก็พอคะ เรื่องอื่นฝันจัดการเอง"
ตามฝันพูดเสร็จก็เดินออกมาขึ้นรถตู้คันเดิม
"เอ่อ..คุณหนูจะไปไหนครับ"
ลงพวนคนขับรถรีบถามเมื่อเห็นตามฝันที่เพิ่งเข้าบ้านไปเมื่อกี้เดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าใบเดิม
"ลุงไปส่งฝันหน่อยนะคะ"
ตามฝันยกกระเป๋าและขึ้นไปนั่งบนรถก่อนจะปิดประตู
ลุงพวนรีบวิ่งมาขึ้นรถก่อนจะขับรถพาลูกวาวเจ้านายออกไปทันที
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrr
และเสียงโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น
[พ่อ]
หน้าจอเเสดงชื่อคนโทรมา
"ค่ะ...พ่อ"
ตามฝันรับสายบิดา
"ฝัน...จะไปอยู่ไหนลูก หนูจะไปอยู่ยังไงคนเดียว"
คุณธานีถามด้วยความเป็นห่วงมาตามสาย
"ฝันอยู่ได้คะพ่อ ส่วนอยู่ที่ไหนเดี๋ยวฝันบอกพ่ออีกทีนะคะ"
ตามฝันบอกบิดา เธอเองก็ยังไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน
"เดี๋ยวพ่อโอนเงินให้นะลูก"
"ขอบคุณค่ะคุณพ่อ"
ตามฝันน้ำตาคลอจะได้กลับมาอยู่บ้านกับพ่อแล้วแท้ๆ
"ฝัน...พ่อยังเป็นพ่อที่รักหนูเหมือนเดิมนะลูก ถ้าฝันไม่สบายใจก็พักผ่อนก่อนพร้อมเมื่อไหร่กลับมาหาพ่อนะ"
คุณธานีบอกกับลูกสาวคนเดียว
"ค่ะพ่อ...งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ"
ตามฝันรีบกดปิดสายสนทนา ก่อนที่บิดาจะได้ยินเสียงสะอื้นของเธอ
ตามฝันทิ้งตัวพิงเบาะ เธออยู่เมื่องนอกคนเดียวยังไม่รู้สึกโดดเดียวเท่านี้เลย ตามฝันนั่งหลับตาแต่ถึงกระนั้นน้ำตาก็ยังไหลผ่านหางตาออกมาเป็นสาย โดยที่ไม่มีเสียงร้องไดๆ