หาทางออกร่วมกัน

1456 คำ
เมื่อลงมาหน้าบริษัทรถตู้ก็จอดรออยู่ก่อนแล้ว พอเปิดประตูรถเข้าไปก็เจอกับหิรัญผู้ช่วยของเขาซึ่งเพิ่งกลับมาจากการไปทำงานต่างจังหวัดพอดี” “อ้าว ฉันนึกว่านายจะกลับมาเย็นนี้” “เกิดเรื่องขึ้นแบบนี้นี้ผมรอกลับตอนเย็นไม่ไหวหรอก” “นายรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” “ตั้งแต่เช้าแล้วครับผมเห็นข่าวในโซเชียล” “นี่นายอย่าบอกนะว่านายก็ติดตามผู้หญิงที่ชื่อเนเน่คนนี้อยู่เหมือนกัน” “ก็นิดหน่อยครับเธอเป็นคนสวยน่ารักและบางมุมก็ดูเซ็กซี่มากๆ” หิรัญตอบผู้ที่เป็นทั้งเจ้านายและเพื่อน ระหว่างทางไปโรงพยาบาลหิรัญก็เล่าประวัติของชญานิษฐ์ให้ธีธวัชฟังทุกแง่มุม ยิ่งได้ฟังก็ทำให้เขารู้สึกประทับใจในตัวของหญิงสาวมากขึ้น ชญานิษฐ์เริ่มต้นทำงานตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยจากการขายของออนไลน์จนกระทั่งตอนนี้เป็นคนที่มีชื่อเสียงที่หลายๆ คนรู้จัก “แล้วนายคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ หรือมีคนจัดฉาก” “ผมว่าจะเป็นอุบัติเหตุจริงๆ นะครับผมดูจากกล้องวงจรปิดตอนเธอเดินออกมาจากโรงแรมถ้าซูมดูจะเห็นเลือดที่ข้อเท้าแต่ลักษณะการเดินของเธอตอนนั้นมันดูปกติมาก บางทีเธออาจจะไม่ได้รู้สึกเจ็บก็ได้” “แต่ฉันก็อดแปลกใจไม่ได้นะรัญ ทำไมเธอไม่ยอมให้เราเปลี่ยนห้องแต่กลับเช็กเอาท์กลางดึกแบบนั้น” “ผมว่าบางทีเธออาจจะตกใจก็ได้นะครับ” “แล้วนายรู้หรือเปล่าว่าเธอเข้ามาพักที่โรงแรมของเราทำไม” ธีธวัชยังอดสงสัยไม่ได้ “เท่าที่ตามดูความเคลื่อนไหวของเธอในโซเชียล เธอน่าจะมารีวิวร้านขนมเปิดใหม่นะครับ แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน” “เธอเข้ามาพักกับใครเหรอ” “เพื่อนของเธอครับ เพื่อนคนนี้ทำหน้าที่เป็นตากล้องให้เธอ และเป็นผู้ช่วยของเธอครับ” “ให้คนสืบประวัติเพื่อนของเธอด้วยนะรัญฉันอยากให้เรื่องนี้มันกระจ่าง” “ได้ครับเดี๋ยวผมให้คนของเราจัดการให้” ทั้งสองคุยกันมาในรถจนกระทั่งถึงโรงพยาบาลซึ่งคุณหมอวิรัช คุณหมอศัลยกรรมมือหนึ่งของโรงพยาบาลก็มารอเขาอยู่ก่อนแล้ว “สวัสดีครับอาหมอ ไม่เห็นจะต้องลงมารอผมด้วยตนเองเลยเดี๋ยวผมไปเองก็ได้” “ได้ยังไงล่ะครับเมื่อกี้พ่อคุณธีโทรมาบอกให้ผมพาคุณธีไปเจอคนไข้ด้วยตัวเอง” คุณหมอวัยกลางคนเดินนำธีธวัชและหิรัญไปยังห้องพักของชญานิษฐ์ที่อยู่ด้านบน ประตูเปิดออกก็เห็นว่าตอนนี้คนไข้กำลังนอนเล่นมือถืออยู่บนเตียงบริเวณขัอเท้ามีผ้าก๊อซปิดไว้ เมื่อเห็นว่าคุณหมอที่รักษาตนเองมากับผู้ชายอีกสองคนชญานิษฐ์ก็รีบวางโทรศัพท์มือถือในมือลงและมองด้วยความสงสัยเพราะไม่รู้ว่าคนที่มาหานั้นเป็นใคร “สวัสดีค่ะคุณหมอ เมื่อกี้คุณหมอก็ตรวจไปแล้วนี่คะ มีอะไรหรือเปล่าถึงกลับมาอีกรอบ” “ไม่หรอกครับพอดีผมพาคนมาเยี่ยมคุณ” “สวัสดีครับคุณเนเน่ ผมชื่อธีธวัช ส่วนนี้ผู้ช่วยของผมชื่อหิรัญ” “สวัสดีค่ะ คุณคงรู้จักชื่อฉันแล้วส่วนนี่เป็นผู้ช่วยฉันค่ะชื่อหวาน คุณสองคนมาเยี่ยมเนเน่ทำไมคะหรือเป็นแฟนคลับ” “เปล่าหรอกครับผมไม่ใช่แฟนคลับของคุณแต่ผมเป็นเจ้าของโรงแรมที่คุณประสบอุบัติเหตุ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณน่ะครับ” “ถ้ายังไงเชิญคุยกันตามสบายนะ” “อาหมอจะไปแล้วเหรอครับ” “อามีตรวจคนไข้ต่อ ส่วนเรื่องแผลของคนไข้ไม่ต้องเป็นห่วงอาจะดูแลอย่างเต็มที่” “ขอบคุณมากครับอาหมอ” เมื่อหมอเดินออกจากห้องไปแล้วเขาก็ดึงเก้าอี้มานั่งข้างเตียง “ผมมาขอโทษคุณกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครับ” เขาส่งกระเช้าผลไม้และช่อดอกไม้ให้กับชญานิษฐ์ ณัฏฐพิมพ์ที่ยืนอยู่บริเวณหัวเตียงก็รีบมารับก่อนจะเอาไปวางกับร่วมกับกระเช้าดอกไม้และช่อดอกไม้ของคนอื่นวางอยู่มุมห้อง “ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มาเยี่ยม แต่เนเน่ได้ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ” “ผมพูดตามตรงนะนอกจากผมจะมาเยี่ยมคุณแล้วคุณยังมีเรื่องจะคุยกับคุณด้วย” “เรื่องอะไรคะ” “ก็เรื่องที่คุณได้รับอุบัติเหตุมันดังไปทั่วโซเชียล” “มีอะไรหรือเปล่าคะ ในข่าวก็ไม่ได้บอกนี่คะว่าเป็นโรงแรมไหน” “แต่ก่อนหน้านั้นคุณเช็กอินที่โรงแรมผมนะครับ คนก็คงรู้ได้ไม่ยาก” “คุณสองคนจะให้เราทำอะไรเหรอคะ” ณัฏฐพิมพ์ถามเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเธอไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนั้นเลย เธอเล่าเรื่องอุบัติเหตุให้เพื่อนในกลุ่มไลน์ฟังซึ่งในนั้นก็มีเพื่อนที่ทำงานเป็นนักข่าวรวมอยู่ด้วย แต่ก็ไม่คิดว่าเพื่อนจะเอาเรื่องของชญานิษฐ์ไปพูดลงในเพจแบบนั้น “ผมอยากจะฟังเหตุการณ์ทั้งหมดนะครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมคืนนั้นคุณถึงไม่บอกทางโรงแรมว่าได้รับบาดเจ็บ” “จริงๆ แล้วเนเน่ก็เพิ่งรู้ตัวตอนที่กำลังจะถึงคอนโดค่ะ” “แต่มันแปลกมากทำไมคุณเช็กเอาท์กลางดึกแบบนั้นล่ะครับครับ พนักงานที่โรงแรมบอกว่าเสนอให้คุณเปลี่ยนห้องพักแต่คุณก็ไม่เปลี่ยนและยืนยันจะกลับ” “คือมันเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงๆ ค่ะ ตอนนั้นเราสองคนกำลังหลับอยู่บนเตียงแล้วหลอดไฟมันเกิดระเบิด ตอนนั้นเนเน่ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรเลยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีแผล แต่ตกใจมากกว่าส่วนเหตุผลที่เราต้องรีบออกจากโรงแรมเพราะเรากลัวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันจะไม่ใช่อุบัติเหตุค่ะ” ชญานิษฐ์อธิบายในมุมของตัวเอง “หมายความว่ายังไงครับ คุณคิดว่ามีคนในโรงแรมของผมตั้งใจจะทำร้ายคุณเหรอครับ” “เปล่าหรอกค่ะ ก่อนหน้านี้เนเน่เคยได้รับจดหมายขู่ว่าให้ระวังตัวให้ดี พอเกิดเหตุการณ์แบบนั้นหวานกับเนเน่ก็เลยรู้สึกไม่ปลอดภัย เราสองคนเลยเก็บของและรีบกลับค่ะ” “แล้วคุณไปเช็กอินของโรงแรมเราทำไมครับ ทั้งที่คอนโดของคุณก็อยู่ไม่ไกล” หิรัญถามเพราะเขารู้ว่าหญิงสาวคนนี้กับเพื่อนพักอยู่ที่ไหนซึ่งถ้าใครติดตามก็จะรู้ได้ไม่ยาก “เพราะเราอยากจะรีวิวร้านขนมค่ะ” “แต่ถ้าจะรีวิวร้านขนมจริงๆ เดินทางมาจากคอนโดของคุณก็น่าจะไม่ไกลนี่ครับ” “มันก็จริงค่ะคุณหิรัญ” “เรียกรัญก็ได้ครับคุณหวาน” “ค่ะคุณรัญ คอนโดของเนเน่อยู่ไม่ไกลก็จริง แต่เราจะรีวิวฟิลนักท่องเที่ยวค่ะ ประมาณว่าพักอยู่ที่โรงแรมนี้และลงมากินขนมร้านนี้ค่ะ” “มีแค่นี้จริงๆ ใช่ไหมคุณสองคนไม่ได้รับจ้างใครเพื่อมาทำลายชื่อเสียงของโรงแรมของเราใช่ไหม” “ใครจะทำแบบนั้นล่ะคะ แล้วเนเน่ก็เจ็บจริงนะคะ ไม่เชื่อคุณถามคุณหมอก็ได้ว่าแผลของเนเน่นั้นลึกมาแค่ไหน” “ผมขอโทษนะครับที่ถามคุณออกไปแบบนั้นเพราะผมเองก็เจอคู่แข่งทางธุรกิจใช้เรื่องแบบนี้มาทำลายชื่อเสียงเหมือนกัน” “คุณสองคนมาคุยกับเนเน่แบบนี้คงไม่ได้จะมาปรับเงินเราที่ทำให้เสียชื่อเสียงหรอกนะคะ” ณัฏฐพิมพ์มองหน้าธีธวัชกับหิรัญสลับไปมา “ผมไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแต่ผมว่าเราน่าจะหาทางออกกับเรื่องที่เกิดขึ้น” “ทางออกยังไงคะ แต่หวานว่าเดี๋ยวเรื่องก็น่าจะเงียบไปเองนะคะ” “เรื่องมันอาจจะเงียบก็จริงแต่เมื่อข่าวมันออกไปแบบนี้แล้วทุกคนก็จะคิดว่าโรงแรมของผมไม่ปลอดภัยและผมไม่รับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดครับ” “เดี๋ยวเนเน่ได้โพสต์เรื่องที่คุณมาเยี่ยมเนเน่ก็ได้ค่ะ ส่วนเรื่องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายไม่เป็นไรหรอกเพราะเรามีประกันอยู่” “แต่ผมอยากรับผิดชอบจริงๆ นะครับ” “แค่คุณสองคนไม่เอาผิดเนเน่กับหวานก็ดีมากแล้วค่ะ” ชญานิษฐ์ไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะบานปลายแบบนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม