จากที่ไม่ได้โกรธก็ชักจะโมโหขึ้นมาจริงๆแล้ว มุกดาเตรียมลุกขึ้นจากน้ำแต่ก็ถูกมือหนารั้งเอวไว้
“มุกจะฟันพี่แล้วทิ้งอีกแล้วเหรอคะ”
“ใครฟันใครกันแน่คะ”
“มุกฟันพี่ค่ะ” เขายืนยัน “มุกหลอกฟันพี่ตั้งสองครั้งพี่เสียหายมากๆ มุกต้องรับผิดชอบพี่นะคะ”
“ห๊ะ!”
“เห็นไหมคะ มุกฟันพี่แล้วจะทิ้ง”
ให้ตายเถอะไม่รู้เขาไปได้นิสัยหน้ามึนแบบนี้มาจากไหน เมื่อก่อนที่คบกันเขาเป็นคนขี้อ้อนก็จริงแต่ไม่ได้เพิ่มความหน้ามึนลงไปมากขนาดนี้
“ถ้างั้นจะให้รับผิดชอบยังไงคะ ให้มุกจ่ายเงิน?”
“ให้มุกกลับมาคบกับพี่ค่ะ”
“ไม่เอา!”
“มุกอ่า…ทำไมรีบปฏิเสธล่ะคะ”
“มุกเข็ด ไม่อยากกลับไปกินน้ำตาแทนข้าว”
ขี้เกียจไปตบตีกะพวกสาวที่วนเวียนอยู่ในชีวิตเขาด้วย บอกตามตรงว่าเธอไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น ให้ไล่หึงหวงเขาเหมือนเมื่อก่อนสู้ไม่มียังจะดีกว่า
“แล้วจะเอายังไงคะ ให้คบมุกก็ไม่เอา แต่ฟันแล้วทิ้งพี่ก็ไม่ยอมเหมือนกัน”
คนตัวโตเอาแต่ใจ
“เมื่อก่อนพี่ก็ฟันสาวมาตั้งเยอะแยะไม่เห็นจะหวงตัว ทำไมพอกับมุกถึงเรียกร้องนักค่ะ”
“เมื่อก่อนพี่ไม่พรีเมี่ยมนี่ค่ะ พี่ไม่มีอะไรกับใครมาตั้งสองปี ร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่องจู่ๆมุกก็มาพรากพรหมจรรย์พี่ไป”
“เว่อร์ไปแล้วพี่เวย์”
มุกดาส่ายหน้ารู้สึกละเหี่ยใจกับพ่อคนหล่อเกรดพรีเมี่ยม สาวๆในมหาลัยที่เคยคลั่งไคล้เครื่องเจ็ดยับแห่งวิศวะเครื่องกลมาได้ยินเข้าคงอกแตกตายกันเป็นแถบๆ
“เอาอย่างนี้แล้วกันค่ะไหนๆมุกก็หาเพื่อนนอนอยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่ติดอะไรมาอยู่ในสถานะแอบแซ่บกันเฉยๆก็ได้”
เวธัสขมวดคิ้วรู้สึกขัดใจกับคำว่าหาเพื่อนนอนของคนตัวเล็ก โตขึ้นไม่กี่ปีริอาจทำตัวแก่แดด สักวันเถอะจะจับตีก้นเสียให้เข็ด
“แล้วแอบแซ่บนี้เป็นยังไงคะ”
“อย่ามาทำอินโนเซนต์ พี่น่าจะชำนาญกว่ามุกอีก”
“ก็ได้ค่ะแต่ถ้ามุกมาแอบแซ่บกับพี่แล้วคิดอยากไปลองแซ่บกับคนอื่น…”
เขาเว้นประโยคยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วกระซิบที่ข้างหูของมุกดา
“พี่เอาตายคาเตียงนะคะ”
มุกดาอยากเอาค้อนปอนหนักๆ มาทุบหัวตัวเองแรงๆดูว่าข้างในมันใช้อะไรคิด ถึงได้กล้าเอ่ยปากชวนแฟนเก่ามาเป็นเพื่อนนอน ไม่รู้ผีห่าซาตานตัวไหนเข้าสิงถึงได้พลั้งปากพูดอะไรที่ไม่เข้าท่าออกไป
จากที่ตั้งใจว่าจะเจอเขาให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เมื่อคืนก็ถูกเขาล่อลวงจนหยิบยื่นสถานะแอบแซ่บมาเป็นบ่วงคล้องคอตัวเองซะได้
อยากจะบ้าตาย!
จะทำยังไงล่ะทีนี้ หัวใจมันยิ่งชอบมีอาการเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆเขาด้วย
“มันเป็นอะไรของมัน เห็นเอาหัวถูกับคีย์บอร์ดคอมหลายรอบล่ะ” เจ้าเอยที่เห็นสภาพไม่ปกติของมุกดา เอ่ยถามแพรไหมที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“ไม่รู้เหมือนกันเห็นเป็นแบบนี้ตั้งแต่มาถึง”
สองสาวมองหน้ากันแล้วหันไปมองมุกดาที่เอาแต่ขยี้ผมตัวเองไปมาราวกับคนเสียสติ
“ไปเจอแฟนเก่ามาทีไร กลับมาสภาพไม่ปกติทุกที”
“เหมือนคนบ้า” เจ้าเอยเห็นด้วย
“ใช่ ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ” จู่ๆคนถูกนินทาก็ลุกพรวดขึ้น มองมาหาแพรไหมกับเจ้าเอยพร้อมกับทำท่าเบะปาก
“ฉันจะเครซี่ ฉันทำอะไรลงไป”
แล้วก็ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้เหมือนคนหมดแรงก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะเอาหัวถูกกับคีย์บอร์ดเหมือนเดิม
“ยัยมุก แกไหวป่ะ” แพรไหมเอ่ยถาม
คนถูกถามตอบกลับด้วยการส่ายหัวไปมา
“แกคงไม่ได้ไปสวีทหวานกับแฟนเก่าจนลืมงานหรอกนะ พรีเซนต์เป็นไงบ้างผ่านหรือเปล่า” เจ้าเอยเสริมอีกคน
มุกดาได้แต่หยิบสมุดโน๊ตที่จดบันทึกอย่างละเอียดส่งให้เพื่อนสนิท
“เขาบอกว่าโปรแกรมดี ดีไซน์ดีแต่ไอเดียไม่ได้เรื่อง ไปทำมาใหม่”
“อ้าว พี่เวย์มาวิจารณ์งานคนอื่นแย่ๆแบบนี้ได้ยังไง” เจ้าเอยเท้าแขนใส่เอว นึกโมโหแฟนเก่าเพื่อน
“ก็เขาเป็นลูกค้า มีสิทธิ์คอมเมนต์อยู่แล้ว”
“ไอ้มุก เจอแฟนเก่าไม่กี่ครั้งนี่ออกตัวแทนเลยเหรอ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
มุกดาลืมตัว ปกตินิสัยเจ้าเอยเป็นคนใจเย็นแต่ถ้าใครมาบูลลี่สิ่งที่เธอตั้งใจทำจะเกิดอาการของขึ้นอย่างที่เห็น
“เอยใจเย็นก่อนให้มุกอธิบายก่อน” แพรไหมเป็นฝ่ายห้าม
“พี่เวย์เขาแนะนำอะไรมาบ้างมุก”
มุกดาผงกหัวขึ้นจากคีย์บอร์ดแล้วหันมาตอบคำถามเพื่อน
“เขาบอกว่ามันดูไม่จริงใจ อยากให้เราทำแอปที่มันเกี่ยวกับบริษัทของเขาจริงๆพ้อยของมันคือแสดงให้เห็นว่าโปรเจคที่เราเสนอมีประโยชน์กับบริษัทมากพอที่จะให้เขาลงทุน”
พอได้ฟังเหตุผลเจ้าเอยก็ใจเย็นลง ไม่แปลกเลยถ้ามันจะยุ่งยากกว่าปกติเพราะเป็นบริษัทใหญ่โตมีเงินทุนให้มหาศาล
“แล้วเราจะเอายังไงกันดี เลิกทำเลยไหม” เจ้าเอยว่าอย่างปลงๆแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้
“บ้า เลิกทำได้ไงเหนื่อยกันมาตั้งขนาดนี้”
มุกดาแย้ง
“ลองดูกันอีกสักตั้ง ถ้าไม่เวิร์คค่อยหาที่ใหม่แล้วกัน” แพรไหมที่เป็นหัวเรือใหญ่ที่สุดในกลุ่มตัดสินใจ ทั้งมุกดาและเจ้าเอยต่างก็เห็นด้วย
“แล้วที่แกเอาหัวจุ่มคีย์บอร์ดตั้งแต่เช้าเพราะเรื่องนี้เหรอมุก” เจ้าเอยเอ่ยถาม
“เปล่า”
“อ้าว แล้วมีเรื่องอะไรที่ทำแกนั่งบ้าเป็นอีเพิ้งอยู่ตั้งนานสองนาน”
มุกดาเม้มริมฝีปากลอบมองเพื่อนสนิททั้งสองอย่างใช้ความคิด
“คือพี่เวย์ขอกลับมาคบฉัน”
“อ่าห่ะ”
“ทำไมพวกแกดูไม่ตกใจอะไรเลย”
ก็ดูจากที่เล่าๆมาไม่ได้ผิดไปจากที่คาดคิดไว้สักเท่าไหร่ มันจะมีแฟนเก่าคนไหนที่เข้ามาวนเวียนในชีวิตได้ขนาดนี้ถ้าไม่มีอะไรในกอไผ่
“ตกใจทำไม ก็พี่เขาชัดเจนขนาดนี้ แล้วแกตอบตกลงเขาไปหรือยัง ฉันกับยัยแพรจะได้แกะถุงอาหารเม็ดรอ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่ได้กลับไปคบ”
ประโยคสุดท้ายเบาหวิว
“แกปฏิเสธพี่เวย์ไปเหรอ” แพรไหมถามอย่างตกใจ
มุกดาส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“อ้าวแล้วยังไงไม่ได้กลับไปคบแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ”
เจ้าเอยอีกคนที่อยากรู้
“ไม่ได้คบแค่แอบแซ่บกันเฉยๆ”
“เอาจริง!”
“แอบแซ่บที่หมายถึงFWBที่เขาว่าอะนะ”
“ก็ประมาณนั้น” ถึงจะสนิทกันแค่ไหนแต่ก็รู้สึกกระดากที่จะบอกถึงรายละเอียดแบบล้วงลึก
“มิน่าเมื่อคืนนี้หายเงียบไปทั้งคืนฉันกับยัยแพรก็นึกเป็นห่วง” เจ้าเอยบ่นไม่จริงจังนัก
“พวกแกไม่ว่าฉันเหรอที่ฉันเอ่อ…”
“ว่าทำไม แกไม่ได้พึ่งเคยนอนกับพี่เขาครั้งแรกนี่”
ธรรมะของแพรไหมไม่มีคำว่าปลอบใจสินะ
“นี่ๆมุกถามอะไรอย่างดิ” เจ้าเอยกระซิบกระซาบดวงตากลมโตเป็นประกาย
“ที่เขาว่ากันว่าพี่เวย์ใหญ่ไซซ์หกสิบสี่นี่จริงเหรอ” ดวงตาคนอยากรู้กะพริบตาถี่ๆ
“ก็ใหญ่กว่าแขนอะ แกว่าใหญ่ไหมล่ะ”
“กรี๊ดดดด”
เจ้าเอยบิดตัวไปมาทำท่าเขินอายราวกับเด็กสิบสี่สิบห้าที่ได้ฟังเรื่องลามกเป็นครั้งแรก
“แล้วๆเครื่องจักรในตำนานนี่ยังเด็ดสมชื่อไหม”
“พอๆฉันไม่คุบกับพวกแกแล้ว ถามอะไรก็ไม่รู้น่าเกลียด”
มุกดารีบลุกเดินหนีขึ้นไปชั้นสองใบหน้าขาวแดงระเรื่อเมื่อภาพอะไรบางอย่างที่ใหญ่กว่าแขนเด็กผุดขึ้นมาในหัว
ก็ถ้าไม่เด็ดจริงคงไม่กลับไปแอบแซ่บหรอก…
เจ้าเอยกับแพรไหม มองตามหลังเพื่อนสนิทที่ใบหูแดงก่ำเห็นชัดเจนไปจนสุดสายตา
“แกว่าไอ้มุกจะรอดไหมแพร”
“รอด”
“…?”
“รอดจากการเป็นแฟนแล้วขยับไปเป็นเมียเขาแทนนะสิ”
“ฮ่าๆนี่ฉันแพ้พนันแกเหรอ”
ก่อนหน้านี้สองสาวลองพนันกันเล่นๆว่ามุกดาจะใจแข็งให้กับแฟนเก่าได้นานแค่ไหน เจ้าเอยบอกไม่เกินเจ็ดวันอย่างมั่นใจ ส่วนแพรไหมบอกไม่เกินสามวัน
และผู้ชนะก็คือ…
“ฉันชนะ เอยแกเลี้ยงเหล้าฉันซะดีๆ”
“ย่ะ ไอ้มุกนะไอ้มุก ผ่านไปไม่ถึงสามวันก็เปิดใจให้เขาซะแล้ว”