"อื้อ อร่อยดีนี่ ขอกินอีกคำสิ"
เสียงชายหนุ่มเรียกสติที่หลุดลอยของข้าวหอมให้กลับคืนมา เธอรู้สึกเหมือนว่าวิญญาณถูกดึงกลับเข้าร่าง เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทำเอาเธอแทบหยุดหายใจ ..." มันจะดีนะคะคุณอา แต่จะทำบ่อยไม่ได้ ข้าวจะเขินตายเอานะคะ" ข้าวหอมได้แต่คิดในใจ เธอเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว แก้มสองข้างแดงระเรื่อราวกับลูกตำลึงสุกก็ไม่ปาน
"คุณอาก็กินเองสิคะ ตอนแรกข้าวอุตส่าห์ป้อนแต่ไม่กินเอง ชิ!" ข้าวหอมแสร้งทำเป็นงอนชายหนุ่ม แต่อีกฝ่ายกับหัวเราะให้กับท่าทีของเจ้าหล่อน
"ป้อนหน่อยสิ"
"ไม่ค่ะ"
"ทีฉันยังตักให้เธอตลอดเลย! แค่ป้อนฉันนิดหน่อยก็ไม่ได้ เธอจะใจดำเกินไปแล้วนะข้าวหอม!" พายุแสร้งทำเป็นตัดพ้อเธอคืนบ้าง
"ก็ได้ค่ะๆ " ข้าวหอมจำใจยอมทำตามที่เขาขอ เพราะเดี๋ยวเขาก็จะบ่นๆ แบบนี้ไม่จบไม่สิ้น
"อ้าปากสิคะ"
"ทำไมต้องบอกให้อ้าปากล่ะ หืม?" เขาแกล้งหลอกถามหญิงสาวเล่นๆ แต่สิ่งที่เธอตอบกลับมานั่นสิ!
"ถ้าบอกให้อ้าแขนก็กลัวคุณอาจะไม่อิ่มน่ะสิคะ"
ข้าวหอมเธอมันแน่! แน่มาตลอด พายุขำจนตัวงอ เธอไปหัดต่อปากต่อคำแบบนี้มาจากไหนกันนะ...
"ฮ่าๆ ๆ โอเคๆ ยอมเธอแล้ว " ชายหนุ่มอ้าปากงับเนื้อที่ข้าวหอมป้อนให้ เคี้ยวไปยิ้มไปอาการไม่ต่างจากคนบ้ามากนัก...
"ข้าวอยากซดน้ำซุปจัง ขอที่ตักหน่อยค่ะ"
"ไม่เป็นไรนั่งลงเถอะ เดี๋ยวฉันตักให้ "
"ขอบคุณนะคะ"
ข้าวหอมเอ่ยขอบคุณทุกครั้งที่เขาหรือใครให้ของกับเธอ เด็กคนนี้จะมารยาทดีไปถึงไหนเนี่ย...รู้หรือเปล่าว่ามันน่าเอ็นดู
"หวานไหม?"
"หวานค่ะ น้ำซุปเขาอร่อยมากเลย"
"ขอชิมหน่อยสิ" ข้าวหอมหยุดชะงักเล็กน้อย แต่ก็เป็นเพียงเวลาอันสั้น เธอก็สามารถปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
"เดี๋ยวข้าวเปลี่ยนช้อนให้นะคะ"
"ไม่เป็นไรฉันไม่ถือหรอก ชิมแค่นิดเดียวเอง" ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างพอใจ แต่เธอเองก็ไม่รู้ว่าเขานั้นพอใจเธอเรื่องอะไร
"กะ ก็ได้ค่ะ" ข้าวหอมตักน้ำซุปเตรียมจะป้อนพายุ แต่เขากลับเอ่ยดักไว้ก่อน
"เธออยากให้มันลวกปากฉันหรือไง เป่าก่อนสิ"
อะไรของเขาอีกละเนี่ย ดูเรื่องมากจริงๆเลย ดีนะที่เขาเป็นคนจ่ายตังค์ ข้าวหอมถึงยอมทำให้หรอกน่ะ?
"ฟู่ว~ๆ "
"เอาแค่ลมพอนะ อย่าเอาน้ำลายลงไปด้วย"
ข้าวหอมหันขวับมามองคนข้างๆตาแข็งทันที รังเกียจก็ไม่ทำเองเนอะคนเรา...
"ล้อเล่นครับ"
รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมอีกครั้ง พายุยังคงจ้องมองข้าวห้อมด้วยแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน เพราะคนตรงหน้าทำให้เขารู้สึกว่าเธอน่าทะนุถนอม ความใสซื่อและความไร้เดียงสาของเด็กสาวทำให้ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นภายในจิตใจ ไม่แน่อาจจะถลำลึก ถอนตัวไม่ขึ้น หรือไม่อาจจะทำลายเส้นกันระหว่างอาจำเป็นและเด็กในการดูแลก็มีโอกาสเป็นไปได้
"อื้ม หวานจริง ฉันชอบ"
"ข้าวบอกแล้ว"
ข้าวหอมยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่รู้เลยว่าความหมายแฝงของประโยคหลังที่เขาเอ่ยขึ้นนั้น มีความหมายว่าอย่างไร...
หลังจากที่ทานมื้อเย็นซึ่งเป็นชาบูที่ดูเหมือนว่าน้ำซุปจะหวานเป็นพิเศษนั่นแล้ว ทั้งสองคนที่ต่างสวมแมสก์ปิดหน้า เดินควงคู่กันออกมาซื้อของ จริงๆก็ไม่ถึงขนาดว่าต้องปลอมตัวเหมือนกับดาราดังขนาดนั้น แต่เขาแค่ไม่ชอบที่ต้องตกเป็นข่าวซุบซิบ ยิ่งตอนนี้กำลังจะตีตลาดกับสื่อช่องใหญ่ เลยต้องระมัดระวังเล็กน้อย เพราะคนที่รู้เรื่องระหว่างเขาและข้าวหอมมีแค่ป้าผิง คิมหันต์ และครอบครัวเขาเท่านั้น ถ้าโดนเอาไปทำข่าวคนอาจจะมองข้าวหอมไม่ดีสักเท่าไร
"อุ้ย นั่นอะไรหรอคะ?"
ข้าวหอมชี้นิ้วไปที่ร้านดอกไม้ร้านหนึ่ง ซึ่งมีบางอย่างคล้ายกับหัวหอมใหญ่โชว์อยู่หน้าร้าน แต่ไม่ติดป้ายว่ามันคืออะไร ดูเหมือนว่าเขาใกล้จะปิดร้านแล้วด้วย
"ดอกทิวลิป" พายุมองแวะเดียวก็ดูออกมามันคืออะไร เขาเตรียมที่จะก้าวไปข้างหน้าแต่กลับถูกข้อมือเล็กคว้าไว้ทัน
"มันคือดอกทิวลิปจริงๆหรอคะ!? มันปลูกในไทยได้ด้วยหรอ?" ข้าวหอมดูจะสนใจเป็นพิเศษ แน่นอนสิเพราะเธอชอบดอกไม้ชนิดนั้นนี่นา...
"ได้แหละมั้ง กลับกันเถอะมันจะดึกซะก่อน"
"คุณอาคะ พาข้าวไปดูหน่อย" หญิงสาวรั้งแขนคนตัวโตกว่าไว้อีกครั้ง ก่อนจะทำท่าคล้ายกับจะลากเขาเข้าไปดูให้ได้
"ไม่เอาข้าว เห็นไหมว่าเขาจะปิดร้านแล้ว" พายุปฏิเสธเสียงแข็ง
"นะคะ ๆ ไปตอนนี้ยังทัน"
ข้าวหอมเกาะเเขนชายหนุ่มอย่างออดอ้อน เธอทำสายตาหวานเยิ้มเป็นการขอร้องตามประสาเด็กน้อยที่กำลังอยากได้ของที่ตัวเองชอบ แต่ที่เธออ้อนอยู่ไม่ใช่คนที่จะอ่อนไหวง่ายขนาดสาวน้อย เขาคือใคร…นี่ระดับเทพพายุเชียวนะ ไม่มีทางซะหรอก หมายถึงไม่มีทางปฏิเสธนะ…ก็ลองมายืนในจุดที่เขาอยู่ดูสิ แล้วจะรู้ว่าเด็กสาวที่ชื่อข้าวหอมอ้อนได้น่ารักขนาดไหน
"อะๆ ก็ได้ๆ เด็กนี่เอาแต่ใจเก่งจริงๆเลย"
พายุบ่นออดแอดแต่ก็ยังตามใจข้าวหอมอยู่ดี หญิงสาวดีใจกระโดดหย่องๆ ก่อนที่จะลากชายหนุ่มให้เดินตามเธอไป แต่ไม่วายที่จะตอบกลับคนตัวสูง
"คนแก่ก็ตามใจเก่งเหมือนกันนะคะเนี่ย ฮ่ะ ฮ่าๆ"
"เดี๋ยวเถอะ! เห็นแก่ว่าวันนี้เธอเจ็บตัวเฉยๆ ไม่งั้นไม่ตามใจแบบนี้แน่ๆ "
ข้าวหอมหาได้สนใจชายหนุ่ม เมื่อเข้ามาในร้านเธอก็ถามถึงดอกทิวลิปที่เธอชื่นชอบ แต่ดอกสดในร้านหมดแล้ว เป้าหมายของข้าวหอมคือเอาแบบที่สามารถปลูกได้ เธออยากเห็นภาพห้องนอนของตัวเอง ตรงระเบียงห้องเต็มไปด้วยดอกทิวลิปสีขาวสะอาดตา แต่คิดเธอก็รู้สึกตื่นเต้นไว้รอแล้ว ข้าวหอมจึงทำการซื้อมาเป็นจำนวนมากทีเดียว เธอชี้เอาที่ตัวเองอยากได้ โดยไม่ถามคนรอจ่ายตังค์เลยสักนิด พอได้มาแล้วคนถือยังต้องเป็นเขาอีกต่างหาก
"คุณอาว่ามันจะปลูกได้ไหมคะ" สาวน้อยเอ่ยถามคนที่เดินคู่กันมาด้านข้างอย่างสงสัย ตอนซื้อมัวแต่ดีใจเลยลืมถามพี่พนักงานซะสนิทเลย
"ปลูกได้แหละ แต่ต้องปลูกในตู้เย็นก่อน"
"โห~แล้วต้องรอนานไหมคะกว่าจะได้เห็นดอก"
"สักพัก"
ข้าวหอมเหมือนมีสีหน้าสลดลงเล็กน้อย เธออยากเห็นมันเร็วๆนี่นา...
"ถ้าอยากดูขนาดนั้นฉันพาเธอไปเที่ยวเนเธอร์เเลนด์ได้นะ ที่นั่นมีเยอะเลยแหละ"
"จริงหรอคะ!!!"ข้าวหอมตาเป็นประกายวาววับ เมื่อเขาบอกว่าจะพาเธอไปเที่ยว นี่เขาลงทุนจะพาเธอไปดูดอกไม้ถึงต่างประเทศเลยหรอ จะใจป๋าเกินไปแล้ว!
"อื้อ แต่ต้องรอฉันเคลียร์งานเสร็จโน่นแหละ" พายุเอ่ยอย่างสบายใจ แค่พาเธอไปเที่ยวไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับเขา ขอเพียงแค่มีเวลาเท่านั้น
"เย้! ขอบคุณนะคะ อาพายุใจดีที่สุดเลย^^"
ข้าวหอมลืมตัวเผลอเอาหัวมาซบไหล่ชายหนุ่มด้วยท่าทีดีใจ คล้ายกับว่าทั้งสองเป็นคู่รักกัน แต่เพียงไม่นานข้าวหอมก็กระโดดดึ๋งๆนำเขาออกไปก่อนแล้ว พายุที่เดินหิ้วของพะรุงพะรังได้แต่ถอนหายใจและอมยิ้มให้กับพฤติกรรมของคนตัวเล็ก...เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ช่างใสซื่อซะจริง..