EP.5

2830 คำ
วันต่อมา 8.12 am. ติ๊ดๆๆ "โอ๊ย อะไรกันอะไรกัน!" ฉันขยับลุกขึ้นนั่งพร้อมกับหรี่ตามองหาโทรศัพท์ตัวเองที่กำลังแผดเสียงร้องซะไม่เกรงอกเกรงใจคนกำลังพักผ่อนเลยสักนิด ฟึ้บ ฉันเอื้อมมือไปหยิบมันมาดูหน้าจอที่แสดงชื่อของจิ๊บเพื่อนที่ทำงาน ก่อนจะกดรับสายพร้อมลุกเดินไปหยิบน้ำส้มที่พี่รามเทไว้ให้ขึ้นมาดื่ม "ฮัลโหลโทรมาอะไรแต่เช้าจ๊ะเพื่อนสาว" (ฮัลโหลมึงคือกูไม่อยากกวนเวลานอนนะ แต่เมื่อกี้เจ้าแม่แม่งโทรมาปลุกให้กูเข้าไปช่วยงานบริษัทว่ะ) "ห๊ะ?" ฉันกลืนน้ำส้มลงคอและวางแก้วลงที่เดิมทันที "เดี๋ยวนี้นี่มันวันอาทิตย์ไม่ใช่ไง?" (ก็ใช่น่ะสิ แต่เหมือนว่าจะมีใครมาเราเลยต้องไปเตรียมห้องประชุมแล้วก็วิ่งเตรียมของเบรกเหมือนเดิม) "เฮ้ยมึงแบบนี้มันไม่ใช่ไหมวะ ทำไมแกไม่จัดการกันเองไม่ก็เรียกพนักงานที่เขาได้เงินเดือนมาทำสิทำไมต้องมาใช้เรา?" (เอาก่อนมึงอย่าเพิ่งวีนมึงรีบออกมาเจอกันที่บริษัทก่อน เพราะตอนนี้เจ้าแม่โทรจิกกูอีกแล้วฝากมึงโทรบอกคนที่เหลือด้วยนะ) "เออๆ" ฉันวางสายจากจิ๊บก่อนโทรบอกเพื่อนที่เหลือซึ่งแต่ละคนก็โอดโอยไม่ต่างจากฉัน แต่เพราะมันเร่งเราเลยต้องรีบวางสายและไปจัดการแต่งตัวเพื่อไปบริษัทกัน แต่ว่าก็ว่าเถอะอีเจ๊นี่แม่งเอาอีกแล้วนะเรื่องใช้งานเด็กฝึกงานเกินขอบเขตอ่ะ ทำไมเราจะต้องไปทำทุกอย่างคือว่าก็ว่าฝ่ายที่อยู่การประสานเรื่องการประชุมต่างๆนานาก็มีแต่ก็ยังมาใช้เด็กห้องการเงินนี่มันยังไงๆอยู่นะ เวลาต่อมา เอี๊ยด "ลิปแม่ลิป!" ไม่มีลิปคือตายอ่ะ ฉันรีบเปิดกระเป๋าหาลิปสีที่ตัวเองใช้ประจำมาทาริมฝีปากก่อนจะเปิดประตูลงจากรถพร้อมกับล็อกเสร็จสรรพก่อนวิ่งเข้าไปที่ทางเข้าด้านหลังบริษัทด้วยความเร่งรีบ ฉันรีบมากเชื่อสิขนาดผมยังไม่มีโอกาสได้หนีบต้องมัดมาลวกๆเนี่ย "มาสักทีนะแม่คนสวยที่สายตลอด" "สวัสดีค่ะ คือบ้านรักอยู่อีกฟากของที่ทำงานค่ะมันถึงช้าแล้วอีกอย่างวันนี้ก็ไม่ใช่วันทำงานแบบปกติด้วย" เจ๊อร หรืออรอนงค์คือคนที่ควบคุมการฝึกงานของพวกฉันเธอเป็นหัวหน้าแผนกบุคคลที่ควบคุมไปซะทุกแผนกจนทุกคนในที่ทำงานล้วนเอือมระอา แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรเธอได้เพราะเธออยู่มานาน อีกทั้งยังเป็นหลานของเจ้าของบริษัท...ก็นั่นแหละเธอเลยไม่มีใครกล้าต่อปากต่อคำอะไรกับเธอ ยิ่งพวกฉันที่มาอยู่ที่นี่ในฐานะเด็กฝึกงานนี่ยิ่งไม่ควรปากเก่ง แต่ว่าก็ว่าฉันก็พยายามมากแล้วนะที่จะไม่ต่อปากต่อคำอะไรกับเธอ แต่มันก็อดไม่ได้อ่ะ เพราะงั้นตอนนี้เธอจึงมองลอดแว่นสายตามาสบตาฉันอย่างไม่พอใจนัก "งานมันก็มีทุกวันแหละค่ะ อันที่จริงพี่ไม่อยากจะรบกวนพวกน้องๆหรอกนะแต่เพราะมันเร่ง และท่านประธานเอ่ยบอกเองว่าอยากให้เด็กฝึกงานมาช่วยพี่เลยทำอะไรไม่ได้ต้องเรียกพวกเธอมาแบบนี้" ก็บอกแล้วว่าเธอน่ะยืนหนึ่งในบริษัทนี้ แม้กระทั่งฉันยังสู้อะไรเธอไม่ได้ "ขอโทษค่ะที่มาช้า" ฉันเอ่ยเสียงเรียบก่อนเดินไปยืนเรียงหน้ากระดานกับเพื่อนอีกสามที่กำลังก้มหน้าเหลือบมองฉันอยู่ด้วยความเป็นห่วง ฉันถอนหายใจและปัดผมหางม้าตัวเองไปด้านหลังก่อนมองสบตาเจ๊อรด้วยแววตานิ่งเรียบไม่ต่างจากที่เธอกำลังมองฉันอยู่ "เอาล่ะ พี่ก็ไม่อยากดุอยากด่าอะไรพวกเราเยอะ" เจ๊อรเอ่ยด้วยรอยยิ้มก่อนเธอจะเดินมายืนตรงหน้าพวกฉันด้วยรอยยิ้ม "พรุ่งนี้เช้าพวกเธอต้องมาที่นี่เพื่อดูแลแขกที่จะมาตอนหกโมงเช้า" "หกโมงเช้าเลยเหรอคะพี่อร!?" แพรวเพรวถามด้วยสีหน้าตกใจไม่ต่างจากเราทุกคนหรอกเพียงแค่ตอนนี้ฉันตกใจจนพูดไม่ออกเท่านั้นเอง หกโมงเช้าเนี่ยนะแขกเป็นพระรึไงถึงต้องออกมาเช้าพร้อมพระออกบิณฑบาตขนาดนั้น!? "แขกเราจะมาถึงนี่แปดโมงเช้า เพราะงั้นพี่เลยนัดน้องๆมาก่อนเลยเผื่อมีอะไรขาดตกบกพร่องจะได้ดูแลช่วยกัน" "ใครมาเหรอคะ?" ฉันถามเจ๊อรหลังเธอตอบเสร็จ เธอหันมามองฉันก่อนจะยิ้มให้บางๆ "หุ้นส่วนคนสำคัญจะเข้ามาประชุม เขาบินมาจากเกาหลีเลยนะเพราะงั้นต้องดูแลอย่างดีถ้าเขาไม่พอใจนี่แย่แน่" ฉันเหลือบมองหญิงที่ยืนอยู่ข้างๆกันก่อนหญิงจะยักไหล่อย่างขอไปทีไม่ต่างจากฉันที่กำลังเซ็งสุดๆ มันใช่เรื่องจริงๆใช่ไหมเนี่ยที่ต้องมาทำงานอะไรแบบนี้ในวันที่คนอื่นหยุดแบบนี้ "พี่แบ่งงานเลยนะคะให้น้องจิ๊บน้องหญิงไปจัดการห้องประชุม แล้วก็รอทางเลขาประธานว่าเขาจะส่งไฟล์มาให้เปิดเช็กสไลด์ด้วย ส่วนแพรวพราวกับหนูรักออกไปซื้อของแล้วก็จองร้านอาหารให้พร้อมนะคะ พรุ่งนี้ทานประธานจะเลี้ยงหุ้นส่วนเอาตามสเต็ปเดิม" "รักต้องออกไปอีกแล้วเหรอคะ?" "ใช่สิคะก็น้องมีรถรึจะให้น้องแพรวพราวไปจัดการแทน โหคงเหนื่อยแย่นะรถเมล์คนก็คงเต็มอ่ะ" แล้วทำไมมึงไม่ออกไปหาเองก่อนอีอร?? ฉันเม้มปากถอนหายใจอย่างเอือมระอาก่อนแพรวพราวจะเอื้อมมือมาจับแขนฉันไว้ให้ใจเย็น คือถ้ามีการประชุมอะไรแบบนี้ฉันมักจะได้ออกไปติดต่อร้านอาหาร และซื้อพวกของเบรกตลอดอ่ะ แล้วพอถามมันก็อ้างแต่ว่าฉันมีรถนี่แหละ "ถ้าอย่างนั้นรักขอเบิกค่าน้ำมันเลยนะคะเมื่อเช้าไม่ได้เติมมา" เจ๊อรที่กำลังจะเดินหนีไปในห้องตัวเองหันมามองฉันที่แบมือตรงหน้าเธอพร้อมกับยิ้มหวานอย่างมีจริต "รักไม่มีเงินมาไว้เติมน้ำมันเลยอ่ะค่ะพี่อร ดูสิแค่นี้ก็เกือบจะไม่ถึงที่ทำงานอยู่แล้ว" ฉันตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จจนเจ๊อรถอนหายใจใส่ และควักเงินมาให้หนึ่งพัน "ทีหลังเธอก็รู้จักเติมบ้างสิย่ะขับตั้งเบนซ์แต่ไม่มีเงินเติมนี่ไม่ใช่แล้ว" "แฟนซื้อให้แค่รถนะคะพี่อรน้ำมันเขาเติมให้ซะที่ไหนเล่า" ฉันหัวเราะขำอย่างกวนๆก่อนจะเบิกตามองเจ๊อรด้วยความตกใจพร้อมยกมือปิดปากมองเธออย่างรู้สึกผิด "ขอโทษนะคะพี่อรที่เผลอขิงแฟนให้พี่อรฟัง แฮะๆ" "เฮอะ ไปได้แล้วๆ" เจ๊อรสะบัดมือไล่ฉันกับแพรวพราวฉันจึงต้องเดินตามแรงดึงจากแพรวมาขึ้นลิฟต์ด้วยใบหน้าบึ้งตึงขณะที่แพรวกำลังมองมาด้วยความเพลียจิตไม่ต่างกัน ก็บอกแล้วว่ามีแต่คนเอือมระอานางอ่ะ "มึงก็รู้ว่าเจ๊แกประสาทยังจะไปหาเรื่องพูดให้แกเหม็นขี้หน้าเพิ่มอีก" "ก็กูไม่ชอบอ่ะเรียกมาใช้ไม่พอยังจะมาทำแบบนี้ใส่อีก กูรู้เลยทำไมไม่มีใครมาช่วยอ่ะ" "กูก็คิดว่างั้นนะเพราะตอนที่มาไอ้จิ๊บมันเล่าให้ฟังว่าแกโทรหาเด็กในแผนกแล้ว แต่ไม่มีใครรับบ้างก็บอกว่าอยู่ต่างจังหวัดแกเลยเรียกเราใช้เนี่ย" "เฮ้อ กูจะบ้าตายรายวัน" ฉันส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจ และมันเหนื่อยจริงๆนะแทนที่จะได้พักเต็มที่วันนี้กลับได้มาจัดเบรกเนี่ยฉันสุดจะทนจริงๆ 2.23 pm. "โอเคพรุ่งนี้อย่ามาสายนะเด็กๆ" "ค่ะ สวัสดีค่ะพี่อร" แพรวพราวเป็นคนยกมือไหว้เจ๊อรก่อนพวกเราจะออกมาจากห้องของนาง หลังจากเข้าไปลากลับแต่ที่ต้องเข้าไปหาเนี่ยไม่ใช่อะไร คือนางเข้าไปนอนหลับในห้องรอพวกฉันทำงานอ่ะเชื่อเลย "เจอกันพรุ่งนี้นะสาวๆ" ฉันโบกมือลาเพื่อนๆที่ต่างคนต่างเดินออกจากบริษัทคลายมีแต่ร่างที่ไร้วิญญาณ ส่วนฉันก็ไม่ต่างกันฉันเดินแยกกับเพื่อนที่ต้องเดินไปรอขึ้นรถเมล์กลับที่พักที่อยู่คนละทางกับคอนโดฉันกับพี่ราม ดีนะที่คอนโดพวกเธอมันใกล้อ่ะพวกเพื่อนฉันเลยเลือกที่จะนั่งรถเมล์มาทำงานเอา "เชื่อเขาเลยนี่เงียบไปแต่เช้าขนาดนี้ยังไม่คิดจะทักมาหากัน" ขัดใจอีกแล้วอ่ะ ฉันถือโทรศัพท์กดไล่ดูแชทของพี่รามที่ไม่มีอะไรตอบกลับมาเลยตั้งแต่ที่ฉันบอกว่าจะออกไปบริษัทตั้งแต่เช้า มีแต่อ่านไม่ตอบและไม่โทรมาหาด้วย "ตอนเที่ยงก็จะไม่จับโทรศัพท์เลยรึไงพ่อคุณ" ฉันทิ้งโทรศัพท์ไปที่เบาะคนนั่งก่อนจะขับรถออกจากบริษัทตรงไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางกลับคอนโด และไม่ใช่ทางที่ไปบริษัทพี่ราม ฉันเลี้ยวเข้าซอยคุ้นเคยก่อนจะจอดรถไว้ที่หน้าร้านของตะวันและเดินเข้าร้านด้วยใบหน้าบึ้งตึงจนเจ้าของร้านคนสวยสังเกตเห็น "มาร้านกูแต่ล่ะครั้งไม่เคยหรอกที่จะยิ้มเข้ามาน่ะ" "คาปูชิโน่เย็นหวานน้อยกินนี้นะคะ" อีตะวันกลอกตาใส่ในตอนที่ฉันหันไปสั่งมันและเดินไปนั่งที่ประจำที่เดิมขณะที่มือก็กดดูแชทพี่รามอีกครั้ง งอนอ่ะแต่เขาก็เงียบไปจนผิดปกติจริงๆนะแต่ถ้าทักไปอีกมันก็ดูง้อเขาเกินไปไหมอ่ะสังคม "ได้แล้วค่ะคุณลูกค้า" "ขอบใจมาจ่ะสา นั่งกับฉันก่อนสิคนไม่เยอะนิ" ฉันเชิ่ดหน้าคุยกับเพื่อนจริตคุณหญิงวทานิกาจนอีตะวันถอนหายใจใส่ และวางจานครัวซองให้ "เอ้า อันนี้แม่ไม่ได้สั่งนะคะหนู" "สรรพนามมึงเรียกคนนี่เยอะจริงนะอีรัก" อีตะวันหัวเราะขำก่อนมันจะใช้มีดหั่นครัวซองมาป้อนให้ฉันชิม "สูตรใหม่เป็นไงบ้าง?" "อื้ม" พอเข้าปากแล้วหอมเลย ทั้งหอมนมทั้งนุ่มจนแทบจะละลาย ฉันยกนิ้วโป้งให้เพื่อนสาวพร้อมยิ้มกว้าง "อร่อยมากมันหอมอัลมอนด์ป่ะ มึงขายเลยเพื่อน" "ใช่กูใส่อัลมอนด์ด้วย แล้วเป็นไงมาไงถึงมาถึงนี่วันอาทิตย์มึงไม่น่าจะออกจากรังรักนะ?" ฉันหยิบแก้วคาปูชิโน่มาดูดก่อนจะวางลงตรงหน้าพร้อมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง "กูน่ะไม่อยากออกแต่อีแม่ใจมารแม่งโทรมาจิกให้ออกไปทำงาน เพราะงานมันเร่ง" "เอ้า มันไม่มีพนักงานประจำเหรอ?" "มีแต่เขาไม่มีไงมึงเลยเหลือแค่พวกกูเนี่ยที่แกใช้ได้" "ใช่เรื่องไหมเนี่ยเป็นแค่เด็กฝึกงานเอง" "กูไม่มีอะไรจะด่าแล้วตะวันกูเหนื่อยเหลือเกิน นี่ก็เพราะจะฝึกจบแล้วเลยอดทนเอา" "มันก็ต้องแบบนั้นแหละมึงอดทนอีกนิดนะ" "แงง กูล่ะอิจฉามึงที่ได้ฝึกกับที่ดีๆ" "บุญกูแหละส่วนมึงน่ะบาปเยอะพระเจ้าเลยส่งเจ๊อรมาไถ่บาปให้มึง" "เดี๋ยวตบปากแตกเลยอีนี่!" "ฮ่าๆ" ฉันยิ้มออกมาอย่างขำๆหลังจากที่ได้ระบายให้เพื่อนรักอย่างตะวันฟัง เอาจริงๆเลยตะวันอาจพูดถูกที่เจ๊อรมาเพื่อเป็นมารในชีวิตฉัน แต่มันดีมากที่อย่างน้อยฉันก็มีเพื่อนที่รู้ใจอย่างตะวันคอยรับฟังอยู่ข้างๆอ่ะ "แล้วพี่จอนไปไหนล่ะ?" "วันนี้มีประชุมน่ะ พี่รามไม่ได้บอกมึงเหรอว่าเขาประชุมด้วยกัน" "ห๊ะ?" ฉันหรี่ตามองตะวันด้วยความสงสัย ขณะที่ตะวันกำลังยิ้มแห้ง "ก็พี่จอนบอกว่าวันนี้เขามีประชุมร่วมกับพี่รามกูเลยคิดว่ามึงจะรู้อยู่แล้ว" "เฮอะ ผัวกูไม่เคยบอกอะไรกูเลยนอกจากตื่นมาแล้วเทน้ำส้มไว้ให้กูแดก" ครั้งนี้ตะวันหัวเราะแห้งและลูบแขนฉันแทน เพราะมันคงรู้เหตุผลที่ทำให้ฉันหงุดหงิดตั้งแต่มาแล้ว "เข้าใจแล้วว่าทำไมมึงงอนพี่รามบ่อย" "เออดิ ขนาดวันนี้กูทักไปบอกตอนเช้าว่าจะออกไปบริษัทยังไม่คิดจะถามว่าไปทำอะไร จะกลับตอนไหน กินอะไรก่อนไปรึยัง แม่งมีแต่กูเนี่ยที่ถามถามจนจะเป็นคอลเซ็นเตอร์อยู่แล้วอีเหี้ย!" "ใจเย็นแม่ มึงไม่ได้นั่งในร้านกูคนเดียว" "ซอรี่" ฉันจับผมทัดหูอย่างอายๆในตอนที่เงยหน้าแล้วเห็นลูกค้าร้านตะวันกำลังหันมองเราอยู่ จริงๆก็คงมองฉันที่เผลอสบถซะน่ารักนั่นแหละ "ลูกค้าร้านมึงนี่งานดีนะอีตะวันมีแต่เด็กน้อยหัวเกรียนๆ" "เขาเรียนรดไงมึง" "เรียนไปเถอะดีกว่าไปจับใบดำใบแดงอ่ะกูว่า เสียเวลาชีวิตฉิบหายมึงว่าป่ะ" "เออ มึงนั่งไปก่อนนะเดี๋ยวกูไปรับลูกค้าช่วยพนักงานก่อน" "จ้าตามสบายเพื่อน" ตะวันหันมองฉัน เพราะคำเมื่อกี้ควรเป็นมันที่พูดแต่ฉันดันพูดก่อนอ่ะ แต่ว่าก็ว่าฉันไม่อะไรหรอกที่เพื่อนจะไปขายของ เพราะนั้นมันงานมันฉันก็เหมือนลูกค้าแหละ "ขอโทษนะครับพี่สาว" หลังจากที่นั่งดูดคาปูชิโน่ไปสักพักจนเกือบจะหมดแก้วก็มีเด็กน้อยคนนึงเดินเข้ามาหาด้วยท่าทีขวยเขินจนฉันอดจะกลั้นยิ้มไม่อยู่ น้องที่อยู่กลุ่มเด็กหัวเกรียนนั้นเองแต่น้องคนนี้หล่อนะ ยิ่งใส่ชุดรด.เข้านี่เริดมาก.. "ว่าไงคะ?" "พี่ชื่ออะไรเหรอครับ ผมชื่อคิง" "พี่ชื่อที่รักค่ะ" "แล้วพะพี่มีแฟนยังครับ?" เฮ้อ เด็กสมัยนี้โตไวเนาะฉันยิ้มกว้างจนน้องผู้ชายตรงหน้าเกือบจะเสียหลัก เขาหันไปหากลุ่มเพื่อนตัวเองที่นั่งเชียร์อยู่ขณะที่เพื่อนก็ยกมือช่วยเป็นกำลังใจให้จนฉันอดจะเอ็นดูไม่ได้จริงๆ "มีแล้วค่ะ" ฉันตอบไปตามตรงจนน้องเขาหน้าเสีย "ขอโทษทีน๊า" "คือผมอยากขอไลน์พี่ได้ไหมครับ?" "คะ?" "รู้แล้วน่ะครับว่าพี่มีแฟนแล้ว แต่เพื่อนพนันกับผมถ้าผมไม่ได้ไลน์พี่ผมต้องเลี้ยงเพื่อนอ่ะ" น่าสงสาร! ฉันเม้มปากมองเด็กน้อยตรงหน้าที่กำลังทำหน้าคล้ายกำลังจะร้องไห้จนอดจะเอ็นดูไม่ได้จริงๆ ฉันเหลือบมองไปทางเพื่อนเขาก่อนจะยิ้มให้เด็กๆที่กำลังนั่งมองจนพวกเขารีบหันหน้าหนี เพราะความเขิน ช่วยไม่ได้จริงๆที่พี่สาวคนนี้ฮอตมาก "เอาโทรศัพท์มาเร็ว" "ครับ?" "เดี๋ยวพี่ช่วยไง" ฟึ้บ น้องคิงรีบยื่นโทรศัพท์มาให้ฉันทันทีฉันจึงใส่ไอดีไลน์ให้ และยิ้มส่งท้ายในตอนที่ยื่นโทรศัพท์คืน "นี่จ้า" "ขอบคุณนะครับพี่ที่รัก" "เอาไปอวดเพื่อนเร็ว" ฉันว่าอย่างขำๆพร้อมกับมองน้องคิงที่เดินไปหาเพื่อนตัวเองพร้อมกับไลน์ของฉัน ฉันยิ้มอย่างๆขำๆจนตะวันเดินมาหา "มีอะไรกัน?" "ไม่มีไรมากก็แค่เด็กน้อยเดินมาขอไลน์" ตะวันขมวดคิ้วใส่ก่อนจะเหลือบมองเด็กๆที่กำลังนั่งตื่นเต้นกับไลน์ฉันกันอยู่ "มึงก็ให้เนี่ยนะ?" "ใช่สิ" "ไม่กลัวพี่รามด่ารึไง?" "กลัวทำไมก่อนแค่ตอบไลน์เมียมันยังไม่สละเวลามาตอบ แล้วจะมาเห็นไลน์เด็กๆนี่คือไปนอนจ้า" "เฮ้อกูล่ะเหนื่อยกับมึงจริงๆ" "คนสวยอ่ะมึงทำไงได้" ฉันหัวเราะอย่างขำๆ พร้อมกับแชทที่เด้งขึ้นมาซึ่งไม่ใช่จากผัวแต่อย่างใด เพราะมันถูกส่งมาจากน้องคิงนี่แหละ...เฮ้อ ผัวกูนี่ก็หายหัวเก่งจริงๆนะยอมใจเลยจริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม