วันต่อมา
8.12 am.
ติ๊ดๆๆ
"โอ๊ย อะไรกันอะไรกัน!"
ฉันขยับลุกขึ้นนั่งพร้อมกับหรี่ตามองหาโทรศัพท์ตัวเองที่กำลังแผดเสียงร้องซะไม่เกรงอกเกรงใจคนกำลังพักผ่อนเลยสักนิด
ฟึ้บ
ฉันเอื้อมมือไปหยิบมันมาดูหน้าจอที่แสดงชื่อของจิ๊บเพื่อนที่ทำงาน ก่อนจะกดรับสายพร้อมลุกเดินไปหยิบน้ำส้มที่พี่รามเทไว้ให้ขึ้นมาดื่ม
"ฮัลโหลโทรมาอะไรแต่เช้าจ๊ะเพื่อนสาว"
(ฮัลโหลมึงคือกูไม่อยากกวนเวลานอนนะ แต่เมื่อกี้เจ้าแม่แม่งโทรมาปลุกให้กูเข้าไปช่วยงานบริษัทว่ะ)
"ห๊ะ?" ฉันกลืนน้ำส้มลงคอและวางแก้วลงที่เดิมทันที "เดี๋ยวนี้นี่มันวันอาทิตย์ไม่ใช่ไง?"
(ก็ใช่น่ะสิ แต่เหมือนว่าจะมีใครมาเราเลยต้องไปเตรียมห้องประชุมแล้วก็วิ่งเตรียมของเบรกเหมือนเดิม)
"เฮ้ยมึงแบบนี้มันไม่ใช่ไหมวะ ทำไมแกไม่จัดการกันเองไม่ก็เรียกพนักงานที่เขาได้เงินเดือนมาทำสิทำไมต้องมาใช้เรา?"
(เอาก่อนมึงอย่าเพิ่งวีนมึงรีบออกมาเจอกันที่บริษัทก่อน เพราะตอนนี้เจ้าแม่โทรจิกกูอีกแล้วฝากมึงโทรบอกคนที่เหลือด้วยนะ)
"เออๆ"
ฉันวางสายจากจิ๊บก่อนโทรบอกเพื่อนที่เหลือซึ่งแต่ละคนก็โอดโอยไม่ต่างจากฉัน แต่เพราะมันเร่งเราเลยต้องรีบวางสายและไปจัดการแต่งตัวเพื่อไปบริษัทกัน แต่ว่าก็ว่าเถอะอีเจ๊นี่แม่งเอาอีกแล้วนะเรื่องใช้งานเด็กฝึกงานเกินขอบเขตอ่ะ ทำไมเราจะต้องไปทำทุกอย่างคือว่าก็ว่าฝ่ายที่อยู่การประสานเรื่องการประชุมต่างๆนานาก็มีแต่ก็ยังมาใช้เด็กห้องการเงินนี่มันยังไงๆอยู่นะ
เวลาต่อมา
เอี๊ยด
"ลิปแม่ลิป!"
ไม่มีลิปคือตายอ่ะ ฉันรีบเปิดกระเป๋าหาลิปสีที่ตัวเองใช้ประจำมาทาริมฝีปากก่อนจะเปิดประตูลงจากรถพร้อมกับล็อกเสร็จสรรพก่อนวิ่งเข้าไปที่ทางเข้าด้านหลังบริษัทด้วยความเร่งรีบ ฉันรีบมากเชื่อสิขนาดผมยังไม่มีโอกาสได้หนีบต้องมัดมาลวกๆเนี่ย
"มาสักทีนะแม่คนสวยที่สายตลอด"
"สวัสดีค่ะ คือบ้านรักอยู่อีกฟากของที่ทำงานค่ะมันถึงช้าแล้วอีกอย่างวันนี้ก็ไม่ใช่วันทำงานแบบปกติด้วย"
เจ๊อร หรืออรอนงค์คือคนที่ควบคุมการฝึกงานของพวกฉันเธอเป็นหัวหน้าแผนกบุคคลที่ควบคุมไปซะทุกแผนกจนทุกคนในที่ทำงานล้วนเอือมระอา แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรเธอได้เพราะเธออยู่มานาน อีกทั้งยังเป็นหลานของเจ้าของบริษัท...ก็นั่นแหละเธอเลยไม่มีใครกล้าต่อปากต่อคำอะไรกับเธอ ยิ่งพวกฉันที่มาอยู่ที่นี่ในฐานะเด็กฝึกงานนี่ยิ่งไม่ควรปากเก่ง แต่ว่าก็ว่าฉันก็พยายามมากแล้วนะที่จะไม่ต่อปากต่อคำอะไรกับเธอ แต่มันก็อดไม่ได้อ่ะ เพราะงั้นตอนนี้เธอจึงมองลอดแว่นสายตามาสบตาฉันอย่างไม่พอใจนัก
"งานมันก็มีทุกวันแหละค่ะ อันที่จริงพี่ไม่อยากจะรบกวนพวกน้องๆหรอกนะแต่เพราะมันเร่ง และท่านประธานเอ่ยบอกเองว่าอยากให้เด็กฝึกงานมาช่วยพี่เลยทำอะไรไม่ได้ต้องเรียกพวกเธอมาแบบนี้"
ก็บอกแล้วว่าเธอน่ะยืนหนึ่งในบริษัทนี้ แม้กระทั่งฉันยังสู้อะไรเธอไม่ได้
"ขอโทษค่ะที่มาช้า"
ฉันเอ่ยเสียงเรียบก่อนเดินไปยืนเรียงหน้ากระดานกับเพื่อนอีกสามที่กำลังก้มหน้าเหลือบมองฉันอยู่ด้วยความเป็นห่วง ฉันถอนหายใจและปัดผมหางม้าตัวเองไปด้านหลังก่อนมองสบตาเจ๊อรด้วยแววตานิ่งเรียบไม่ต่างจากที่เธอกำลังมองฉันอยู่
"เอาล่ะ พี่ก็ไม่อยากดุอยากด่าอะไรพวกเราเยอะ" เจ๊อรเอ่ยด้วยรอยยิ้มก่อนเธอจะเดินมายืนตรงหน้าพวกฉันด้วยรอยยิ้ม "พรุ่งนี้เช้าพวกเธอต้องมาที่นี่เพื่อดูแลแขกที่จะมาตอนหกโมงเช้า"
"หกโมงเช้าเลยเหรอคะพี่อร!?"
แพรวเพรวถามด้วยสีหน้าตกใจไม่ต่างจากเราทุกคนหรอกเพียงแค่ตอนนี้ฉันตกใจจนพูดไม่ออกเท่านั้นเอง หกโมงเช้าเนี่ยนะแขกเป็นพระรึไงถึงต้องออกมาเช้าพร้อมพระออกบิณฑบาตขนาดนั้น!?
"แขกเราจะมาถึงนี่แปดโมงเช้า เพราะงั้นพี่เลยนัดน้องๆมาก่อนเลยเผื่อมีอะไรขาดตกบกพร่องจะได้ดูแลช่วยกัน"
"ใครมาเหรอคะ?"
ฉันถามเจ๊อรหลังเธอตอบเสร็จ เธอหันมามองฉันก่อนจะยิ้มให้บางๆ
"หุ้นส่วนคนสำคัญจะเข้ามาประชุม เขาบินมาจากเกาหลีเลยนะเพราะงั้นต้องดูแลอย่างดีถ้าเขาไม่พอใจนี่แย่แน่"
ฉันเหลือบมองหญิงที่ยืนอยู่ข้างๆกันก่อนหญิงจะยักไหล่อย่างขอไปทีไม่ต่างจากฉันที่กำลังเซ็งสุดๆ มันใช่เรื่องจริงๆใช่ไหมเนี่ยที่ต้องมาทำงานอะไรแบบนี้ในวันที่คนอื่นหยุดแบบนี้
"พี่แบ่งงานเลยนะคะให้น้องจิ๊บน้องหญิงไปจัดการห้องประชุม แล้วก็รอทางเลขาประธานว่าเขาจะส่งไฟล์มาให้เปิดเช็กสไลด์ด้วย ส่วนแพรวพราวกับหนูรักออกไปซื้อของแล้วก็จองร้านอาหารให้พร้อมนะคะ พรุ่งนี้ทานประธานจะเลี้ยงหุ้นส่วนเอาตามสเต็ปเดิม"
"รักต้องออกไปอีกแล้วเหรอคะ?"
"ใช่สิคะก็น้องมีรถรึจะให้น้องแพรวพราวไปจัดการแทน โหคงเหนื่อยแย่นะรถเมล์คนก็คงเต็มอ่ะ"
แล้วทำไมมึงไม่ออกไปหาเองก่อนอีอร?? ฉันเม้มปากถอนหายใจอย่างเอือมระอาก่อนแพรวพราวจะเอื้อมมือมาจับแขนฉันไว้ให้ใจเย็น คือถ้ามีการประชุมอะไรแบบนี้ฉันมักจะได้ออกไปติดต่อร้านอาหาร และซื้อพวกของเบรกตลอดอ่ะ แล้วพอถามมันก็อ้างแต่ว่าฉันมีรถนี่แหละ
"ถ้าอย่างนั้นรักขอเบิกค่าน้ำมันเลยนะคะเมื่อเช้าไม่ได้เติมมา"
เจ๊อรที่กำลังจะเดินหนีไปในห้องตัวเองหันมามองฉันที่แบมือตรงหน้าเธอพร้อมกับยิ้มหวานอย่างมีจริต
"รักไม่มีเงินมาไว้เติมน้ำมันเลยอ่ะค่ะพี่อร ดูสิแค่นี้ก็เกือบจะไม่ถึงที่ทำงานอยู่แล้ว"
ฉันตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จจนเจ๊อรถอนหายใจใส่ และควักเงินมาให้หนึ่งพัน
"ทีหลังเธอก็รู้จักเติมบ้างสิย่ะขับตั้งเบนซ์แต่ไม่มีเงินเติมนี่ไม่ใช่แล้ว"
"แฟนซื้อให้แค่รถนะคะพี่อรน้ำมันเขาเติมให้ซะที่ไหนเล่า"
ฉันหัวเราะขำอย่างกวนๆก่อนจะเบิกตามองเจ๊อรด้วยความตกใจพร้อมยกมือปิดปากมองเธออย่างรู้สึกผิด
"ขอโทษนะคะพี่อรที่เผลอขิงแฟนให้พี่อรฟัง แฮะๆ"
"เฮอะ ไปได้แล้วๆ"
เจ๊อรสะบัดมือไล่ฉันกับแพรวพราวฉันจึงต้องเดินตามแรงดึงจากแพรวมาขึ้นลิฟต์ด้วยใบหน้าบึ้งตึงขณะที่แพรวกำลังมองมาด้วยความเพลียจิตไม่ต่างกัน ก็บอกแล้วว่ามีแต่คนเอือมระอานางอ่ะ
"มึงก็รู้ว่าเจ๊แกประสาทยังจะไปหาเรื่องพูดให้แกเหม็นขี้หน้าเพิ่มอีก"
"ก็กูไม่ชอบอ่ะเรียกมาใช้ไม่พอยังจะมาทำแบบนี้ใส่อีก กูรู้เลยทำไมไม่มีใครมาช่วยอ่ะ"
"กูก็คิดว่างั้นนะเพราะตอนที่มาไอ้จิ๊บมันเล่าให้ฟังว่าแกโทรหาเด็กในแผนกแล้ว แต่ไม่มีใครรับบ้างก็บอกว่าอยู่ต่างจังหวัดแกเลยเรียกเราใช้เนี่ย"
"เฮ้อ กูจะบ้าตายรายวัน"
ฉันส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจ และมันเหนื่อยจริงๆนะแทนที่จะได้พักเต็มที่วันนี้กลับได้มาจัดเบรกเนี่ยฉันสุดจะทนจริงๆ
2.23 pm.
"โอเคพรุ่งนี้อย่ามาสายนะเด็กๆ"
"ค่ะ สวัสดีค่ะพี่อร"
แพรวพราวเป็นคนยกมือไหว้เจ๊อรก่อนพวกเราจะออกมาจากห้องของนาง หลังจากเข้าไปลากลับแต่ที่ต้องเข้าไปหาเนี่ยไม่ใช่อะไร คือนางเข้าไปนอนหลับในห้องรอพวกฉันทำงานอ่ะเชื่อเลย
"เจอกันพรุ่งนี้นะสาวๆ"
ฉันโบกมือลาเพื่อนๆที่ต่างคนต่างเดินออกจากบริษัทคลายมีแต่ร่างที่ไร้วิญญาณ ส่วนฉันก็ไม่ต่างกันฉันเดินแยกกับเพื่อนที่ต้องเดินไปรอขึ้นรถเมล์กลับที่พักที่อยู่คนละทางกับคอนโดฉันกับพี่ราม ดีนะที่คอนโดพวกเธอมันใกล้อ่ะพวกเพื่อนฉันเลยเลือกที่จะนั่งรถเมล์มาทำงานเอา
"เชื่อเขาเลยนี่เงียบไปแต่เช้าขนาดนี้ยังไม่คิดจะทักมาหากัน"
ขัดใจอีกแล้วอ่ะ ฉันถือโทรศัพท์กดไล่ดูแชทของพี่รามที่ไม่มีอะไรตอบกลับมาเลยตั้งแต่ที่ฉันบอกว่าจะออกไปบริษัทตั้งแต่เช้า มีแต่อ่านไม่ตอบและไม่โทรมาหาด้วย
"ตอนเที่ยงก็จะไม่จับโทรศัพท์เลยรึไงพ่อคุณ"
ฉันทิ้งโทรศัพท์ไปที่เบาะคนนั่งก่อนจะขับรถออกจากบริษัทตรงไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางกลับคอนโด และไม่ใช่ทางที่ไปบริษัทพี่ราม ฉันเลี้ยวเข้าซอยคุ้นเคยก่อนจะจอดรถไว้ที่หน้าร้านของตะวันและเดินเข้าร้านด้วยใบหน้าบึ้งตึงจนเจ้าของร้านคนสวยสังเกตเห็น
"มาร้านกูแต่ล่ะครั้งไม่เคยหรอกที่จะยิ้มเข้ามาน่ะ"
"คาปูชิโน่เย็นหวานน้อยกินนี้นะคะ"
อีตะวันกลอกตาใส่ในตอนที่ฉันหันไปสั่งมันและเดินไปนั่งที่ประจำที่เดิมขณะที่มือก็กดดูแชทพี่รามอีกครั้ง งอนอ่ะแต่เขาก็เงียบไปจนผิดปกติจริงๆนะแต่ถ้าทักไปอีกมันก็ดูง้อเขาเกินไปไหมอ่ะสังคม
"ได้แล้วค่ะคุณลูกค้า"
"ขอบใจมาจ่ะสา นั่งกับฉันก่อนสิคนไม่เยอะนิ"
ฉันเชิ่ดหน้าคุยกับเพื่อนจริตคุณหญิงวทานิกาจนอีตะวันถอนหายใจใส่ และวางจานครัวซองให้
"เอ้า อันนี้แม่ไม่ได้สั่งนะคะหนู"
"สรรพนามมึงเรียกคนนี่เยอะจริงนะอีรัก"
อีตะวันหัวเราะขำก่อนมันจะใช้มีดหั่นครัวซองมาป้อนให้ฉันชิม
"สูตรใหม่เป็นไงบ้าง?"
"อื้ม"
พอเข้าปากแล้วหอมเลย ทั้งหอมนมทั้งนุ่มจนแทบจะละลาย ฉันยกนิ้วโป้งให้เพื่อนสาวพร้อมยิ้มกว้าง
"อร่อยมากมันหอมอัลมอนด์ป่ะ มึงขายเลยเพื่อน"
"ใช่กูใส่อัลมอนด์ด้วย แล้วเป็นไงมาไงถึงมาถึงนี่วันอาทิตย์มึงไม่น่าจะออกจากรังรักนะ?"
ฉันหยิบแก้วคาปูชิโน่มาดูดก่อนจะวางลงตรงหน้าพร้อมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
"กูน่ะไม่อยากออกแต่อีแม่ใจมารแม่งโทรมาจิกให้ออกไปทำงาน เพราะงานมันเร่ง"
"เอ้า มันไม่มีพนักงานประจำเหรอ?"
"มีแต่เขาไม่มีไงมึงเลยเหลือแค่พวกกูเนี่ยที่แกใช้ได้"
"ใช่เรื่องไหมเนี่ยเป็นแค่เด็กฝึกงานเอง"
"กูไม่มีอะไรจะด่าแล้วตะวันกูเหนื่อยเหลือเกิน นี่ก็เพราะจะฝึกจบแล้วเลยอดทนเอา"
"มันก็ต้องแบบนั้นแหละมึงอดทนอีกนิดนะ"
"แงง กูล่ะอิจฉามึงที่ได้ฝึกกับที่ดีๆ"
"บุญกูแหละส่วนมึงน่ะบาปเยอะพระเจ้าเลยส่งเจ๊อรมาไถ่บาปให้มึง"
"เดี๋ยวตบปากแตกเลยอีนี่!"
"ฮ่าๆ"
ฉันยิ้มออกมาอย่างขำๆหลังจากที่ได้ระบายให้เพื่อนรักอย่างตะวันฟัง เอาจริงๆเลยตะวันอาจพูดถูกที่เจ๊อรมาเพื่อเป็นมารในชีวิตฉัน แต่มันดีมากที่อย่างน้อยฉันก็มีเพื่อนที่รู้ใจอย่างตะวันคอยรับฟังอยู่ข้างๆอ่ะ
"แล้วพี่จอนไปไหนล่ะ?"
"วันนี้มีประชุมน่ะ พี่รามไม่ได้บอกมึงเหรอว่าเขาประชุมด้วยกัน"
"ห๊ะ?"
ฉันหรี่ตามองตะวันด้วยความสงสัย ขณะที่ตะวันกำลังยิ้มแห้ง
"ก็พี่จอนบอกว่าวันนี้เขามีประชุมร่วมกับพี่รามกูเลยคิดว่ามึงจะรู้อยู่แล้ว"
"เฮอะ ผัวกูไม่เคยบอกอะไรกูเลยนอกจากตื่นมาแล้วเทน้ำส้มไว้ให้กูแดก"
ครั้งนี้ตะวันหัวเราะแห้งและลูบแขนฉันแทน เพราะมันคงรู้เหตุผลที่ทำให้ฉันหงุดหงิดตั้งแต่มาแล้ว
"เข้าใจแล้วว่าทำไมมึงงอนพี่รามบ่อย"
"เออดิ ขนาดวันนี้กูทักไปบอกตอนเช้าว่าจะออกไปบริษัทยังไม่คิดจะถามว่าไปทำอะไร จะกลับตอนไหน กินอะไรก่อนไปรึยัง แม่งมีแต่กูเนี่ยที่ถามถามจนจะเป็นคอลเซ็นเตอร์อยู่แล้วอีเหี้ย!"
"ใจเย็นแม่ มึงไม่ได้นั่งในร้านกูคนเดียว"
"ซอรี่"
ฉันจับผมทัดหูอย่างอายๆในตอนที่เงยหน้าแล้วเห็นลูกค้าร้านตะวันกำลังหันมองเราอยู่ จริงๆก็คงมองฉันที่เผลอสบถซะน่ารักนั่นแหละ
"ลูกค้าร้านมึงนี่งานดีนะอีตะวันมีแต่เด็กน้อยหัวเกรียนๆ"
"เขาเรียนรดไงมึง"
"เรียนไปเถอะดีกว่าไปจับใบดำใบแดงอ่ะกูว่า เสียเวลาชีวิตฉิบหายมึงว่าป่ะ"
"เออ มึงนั่งไปก่อนนะเดี๋ยวกูไปรับลูกค้าช่วยพนักงานก่อน"
"จ้าตามสบายเพื่อน"
ตะวันหันมองฉัน เพราะคำเมื่อกี้ควรเป็นมันที่พูดแต่ฉันดันพูดก่อนอ่ะ แต่ว่าก็ว่าฉันไม่อะไรหรอกที่เพื่อนจะไปขายของ เพราะนั้นมันงานมันฉันก็เหมือนลูกค้าแหละ
"ขอโทษนะครับพี่สาว"
หลังจากที่นั่งดูดคาปูชิโน่ไปสักพักจนเกือบจะหมดแก้วก็มีเด็กน้อยคนนึงเดินเข้ามาหาด้วยท่าทีขวยเขินจนฉันอดจะกลั้นยิ้มไม่อยู่ น้องที่อยู่กลุ่มเด็กหัวเกรียนนั้นเองแต่น้องคนนี้หล่อนะ ยิ่งใส่ชุดรด.เข้านี่เริดมาก..
"ว่าไงคะ?"
"พี่ชื่ออะไรเหรอครับ ผมชื่อคิง"
"พี่ชื่อที่รักค่ะ"
"แล้วพะพี่มีแฟนยังครับ?"
เฮ้อ เด็กสมัยนี้โตไวเนาะฉันยิ้มกว้างจนน้องผู้ชายตรงหน้าเกือบจะเสียหลัก เขาหันไปหากลุ่มเพื่อนตัวเองที่นั่งเชียร์อยู่ขณะที่เพื่อนก็ยกมือช่วยเป็นกำลังใจให้จนฉันอดจะเอ็นดูไม่ได้จริงๆ
"มีแล้วค่ะ"
ฉันตอบไปตามตรงจนน้องเขาหน้าเสีย
"ขอโทษทีน๊า"
"คือผมอยากขอไลน์พี่ได้ไหมครับ?"
"คะ?"
"รู้แล้วน่ะครับว่าพี่มีแฟนแล้ว แต่เพื่อนพนันกับผมถ้าผมไม่ได้ไลน์พี่ผมต้องเลี้ยงเพื่อนอ่ะ"
น่าสงสาร! ฉันเม้มปากมองเด็กน้อยตรงหน้าที่กำลังทำหน้าคล้ายกำลังจะร้องไห้จนอดจะเอ็นดูไม่ได้จริงๆ ฉันเหลือบมองไปทางเพื่อนเขาก่อนจะยิ้มให้เด็กๆที่กำลังนั่งมองจนพวกเขารีบหันหน้าหนี เพราะความเขิน
ช่วยไม่ได้จริงๆที่พี่สาวคนนี้ฮอตมาก
"เอาโทรศัพท์มาเร็ว"
"ครับ?"
"เดี๋ยวพี่ช่วยไง"
ฟึ้บ
น้องคิงรีบยื่นโทรศัพท์มาให้ฉันทันทีฉันจึงใส่ไอดีไลน์ให้ และยิ้มส่งท้ายในตอนที่ยื่นโทรศัพท์คืน
"นี่จ้า"
"ขอบคุณนะครับพี่ที่รัก"
"เอาไปอวดเพื่อนเร็ว"
ฉันว่าอย่างขำๆพร้อมกับมองน้องคิงที่เดินไปหาเพื่อนตัวเองพร้อมกับไลน์ของฉัน ฉันยิ้มอย่างๆขำๆจนตะวันเดินมาหา
"มีอะไรกัน?"
"ไม่มีไรมากก็แค่เด็กน้อยเดินมาขอไลน์"
ตะวันขมวดคิ้วใส่ก่อนจะเหลือบมองเด็กๆที่กำลังนั่งตื่นเต้นกับไลน์ฉันกันอยู่
"มึงก็ให้เนี่ยนะ?"
"ใช่สิ"
"ไม่กลัวพี่รามด่ารึไง?"
"กลัวทำไมก่อนแค่ตอบไลน์เมียมันยังไม่สละเวลามาตอบ แล้วจะมาเห็นไลน์เด็กๆนี่คือไปนอนจ้า"
"เฮ้อกูล่ะเหนื่อยกับมึงจริงๆ"
"คนสวยอ่ะมึงทำไงได้"
ฉันหัวเราะอย่างขำๆ พร้อมกับแชทที่เด้งขึ้นมาซึ่งไม่ใช่จากผัวแต่อย่างใด เพราะมันถูกส่งมาจากน้องคิงนี่แหละ...เฮ้อ ผัวกูนี่ก็หายหัวเก่งจริงๆนะยอมใจเลยจริงๆ