ตอนที่8

1821 คำ
อลิสาปรือตาตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังแว่วมาจากหัวเตียง ศีรษะของเธอหนักหน่วงและปวดราวกับถูกทุบด้วยค้อนซ้ำๆ แขนขาไร้เรี่ยวแรง ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะขยับตัวได้นิดหน่อย เมื่อสายตาเธอปรับเข้าที่ สิ่งแรกที่เห็นคือแขนแกร่งของใครบางคนโอบกอดอยู่รอบตัว ปลายคางที่แข็งแรงพร้อมรอยเขียวจางๆของคนคุ้นเคย อลิสาตกใจรีบผลักแขนเขาออก ความเจ็บแปลบไปทั่วร่างทำให้เธอหยุดชะงัก ก่อนค่อยๆ พิงตัวพิงพนักหัวเตียงอย่างใจเย็น เสียงโทรศัพท์เครื่องเก่าของเธอยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวรีบคว้ามือถือขึ้นมาดู เมื่อเห็นชื่อผู้ที่โทรเข้าก็รีบกดรับสายทันที ​​“ฮัลโหล...” เสียงแหบพร่าของเธอแทบฟังไม่ชัด อลิสาพยายามกลืนน้ำลายที่แห้งผากลงคอ และพูดซ้ำอีกครั้ง “พี่แอล ทำไมเมื่อคืนไม่กลับมาล่ะ” เสียงน้องชายที่แฝงความเป็นห่วงและกระวนกระวาย ทำให้ใจอลิสาอ่อนลง เธอทำให้อัลันเป็นห่วงอีกแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อลิสาไม่ได้กลับบ้าน แม้จะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่ก็เกิดขึ้นบ้างเมื่อมีเหตุจำเป็น โดยเฉพาะเวลาที่ร้านค้ามีลูกค้าแน่นขนัดจนเธอเหนื่อยล้าเกินกว่าจะเดินทางกลับ ก็มักจะนอนค้างที่ห้องของพักพิง “ขอโทษนะอัน เมื่อคืนลูกค้าเยอะมาก พี่เลยนอนที่ร้าน” อลิสาพูดปดอย่างไม่ลังเล เธอไม่มีวันบอกน้องว่าที่แท้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ “แล้วจะกลับเมื่อไหร่ กลับวันนี้ใช่ไหม?” เสียงอลันทำให้อลิสาน้ำตาคลอเบ้า ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าน้องชายทั้งเหงาและหวาดกลัว กลัวว่าจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว กลัวว่าเธอจะไม่กลับไปหา เหมือนพ่อแม่ที่จากไป “อืม เดี๋ยวก็กลับแล้ว อันอยากกินอะไรไหม เดี๋ยวพี่ซื้อไปให้ เอาข้าวมันไก่ร้านเดิมไหม?” อลิสาบังคับเสียงให้สดใส ปาดน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา ส่งเสียงนุ่มนวลเอาใจกลับไป อลิสามองหน้าจอโทรศัพท์ที่แม้จะมีรอยร้าว แต่ยังใช้งานได้ดี เธอสูดหายใจลึก พยายามขยับตัวลุกออกจากเตียง เหตุการณ์เมื่อคืนยังคลุมเครือเกินกว่าจะเรียบเรียงเป็นเรื่องราวได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอพอจะมั่นใจคือ ผู้ชายที่นอนอยู่ข้างเธอไม่ใช่ใครในสองคนนั้นแน่ อลิสาไม่รู้จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร รู้แค่ว่าเธออาจถูกวางยา และถูกเขาช่วยเอาไว้ ทันทีที่เธอขยับลุกขึ้นยืน ของเหลวขาวขุ่นไหลรินตามเรียวขาเปลือยเปล่าอย่างไม่ทันตั้งตัว ความเย็นเฉียบของหยดที่ไหลซึมลงไปตามผิวทำให้เธอตัวแข็งทื่อ อลิสาก้มลง ใช้นิ้วแตะมันขึ้นมาดู แล้วชะงัก เขาไม่ป้องกัน แถมยังปลดปล่อยทั้งหมดไว้ในตัวเธออีกต่างหาก… “ของขวัญ…” เสียงทุ้มนุ่มเรียกเธอเบาๆ จากเตียง อลิสาหันขวับไปมองเขาด้วยแววตาเดือดดาล ถึงแม้เมื่อคืนเธอจะเป็นฝ่ายตอบสนอง แต่เขาไม่มีสิทธิ์ใช้ความต้องการนั้นเป็นข้ออ้างในการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ “คุณไม่ใส่ถุงยาง” เธอกล่าวเสียงแข็ง “อืม” “คุณ…คุณแตกในด้วย!” เธอแทบขึ้นเสียง “ขอโทษ ฉันลืม” เขาว่าเรียบๆ “เมื่อคืนของขวัญน่ารักมาก” คำตอบไร้เยื่อใยนั้นทำอลิสากำหมัดแน่น ความโกรธพุ่งขึ้นจนแทบระเบิดออกมา “มันไม่ควรลืม! ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาล่ะคุณจะรับผิดชอบยังไง!” “แต่ฉันสะอาด ตรวจเลือดทุกเดือนนะ” คำตอบนั้นทำเธอเงียบงันไปชั่วอึดใจ…ไม่ใช่เพราะยอมรับ แต่เพราะโกรธจนพูดไม่ออก มันไม่ใช่แค่เรื่องโรค มันคือการไม่ใส่ใจถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับเธอ เธอหันไปคว้าเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายมาสวมทีละชิ้น โดยไม่มองหน้าเขาแม้แต่นิด พอจะหยิบโทรศัพท์ ก็มีแบงก์ปึกใหญ่ถูกยื่นมาตรงหน้า “ฉันจ่ายเพิ่มให้ก็ได้” อลิสาชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรับเงินมาเงียบๆ แล้วโยนมันขึ้นกลางอากาศ ธนบัตรสีเทาหล่นลงอย่างเชื่องช้า ท่ามกลางความเงียบงันในห้อง หยดน้ำตาคลออยู่ที่ดวงตากลมของเธออย่างห้ามไม่อยู่ “ถึงหนูจะเคยขายตัวให้คุณ...แต่นั่นไม่ได้แปลว่าคุณจะมีสิทธิ์ใช้เงินฟาดหัวหนู” เธอเว้นวรรคเล็กน้อย ก้มหน้าลง หลบสายตาคมที่ยังมองมา “ถ้าคุณพูดว่า…ขอโทษ” เสียงเธอแผ่วลง “มันคงดีกว่านี้” กลิ่นข้าวมันไก่หอมฉุยอบอวลไปทั่วห้องเล็กๆ ข้าวกับเนื้อไก่ถูกจัดใส่จานเรียบร้อยบนโต๊ะไม้เก่า อลันถือถ้วยน้ำซุปมาตั้งลงข้างจานอย่างคล่องแคล่ว วันนี้เป็นวันเสาร์ เด็กชายจึงอยู่ในชุดลำลอง สีหน้าสดใสตามประสาเด็กวัยกำลังโต “กินเยอะๆ นะ” อลิสาตักเนื้อไก่ชิ้นโตจากจานของตัวเองแบ่งใส่จานน้องชาย มองเด็กหนุ่มที่กำลังกินข้าวเคี้ยวตุ้ยๆ ด้วยสายตาอบอุ่น “พี่แอล...เมื่อวานอาจารย์ที่โรงเรียนถามเรื่องค่าเทอมที่ค้างไว้อีกแล้ว” เสียงพูดของอลันเบาลงเล็กน้อยอย่างเกรงใจ อลิสานิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนฝืนยิ้ม บอกเสียงเรียบ “วันจันทร์พี่เลิกเรียนตอนบ่าย เดี๋ยวจะเข้าไปจ่ายให้นะ” มือของเธอยื่นไปลูบศีรษะของน้องชายเบาๆ ถึงค่าเทอมของโรงเรียนอลันจะสูงกว่าโรงเรียนวัดปกติ แต่อลิสาก็เลือกแล้วว่าจะให้อลันมีอนาคตที่ดีกว่าที่เธอเคยมี เธอจะไม่ยอมให้เรื่องเงินมากีดกันความฝันของน้องชายได้เด็ดขาด หลังมื้ออาหารจบลง อลันอาสาล้างจานเพื่อให้พี่สาวได้นอนพักบ้าง อลิสานั่งนิ่งอยู่สักพัก รอจนเสียงก๊อกน้ำด้านนอกดังขึ้น เธอจึงค่อยๆ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบซองยาที่เธอเพิ่งไปซื้อระหว่างทางกลับบ้าน ยาคุมฉุกเฉิน… เธออ่านคำแนะนำข้างซองอย่างตั้งใจ เม็ดแรกต้องกินทันทีภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ส่วนเม็ดที่สองภายในสิบสองชั่วโมงหลังจากเม็ดแรก อลิสาหยิบยาเม็ดแรกขึ้นมา กลืนน้ำตามลงไปโดยไม่ลังเล เช้าวันเสาร์ อลิสามาทำงานที่ BONITA CAFE ตามปกติ เรียกได้ว่าเธอแทบไม่มีวันหยุดเลยสักวันเดียว วันนี้เธอพาน้องชายตัวเล็กมาด้วย อลันอยู่ในชุดกีฬาตัวเก่ง แม้สีจะซีดจากการซักหลายครั้ง แต่ก็ยังเป็นชุดโปรดของเจ้าตัวอยู่ดี “สวัสดีค่ะคุณโบ” “สวัสดีครับ” เสียงทักทายพร้อมการยกมือไหว้ของพี่น้องเรียกรอยยิ้มจากโบนิต้า เจ้าของร้านสาวสวยที่กำลังยกกาแฟไปเสิร์ฟลูกค้า ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ร้านจะเปิดแค่สิบโมงเช้าถึงบ่ายสาม แม้ลูกค้าจะบางตากว่าวันธรรมดา แต่บรรยากาศก็ผ่อนคลายและอบอุ่นกว่า “สวัสดีจ้ะ อันมาก็ดีแล้ว พี่มีขนมใหม่ ทำเสร็จพอดี มาช่วยชิมหน่อยสิ” โบนิต้ายิ้มพลางหันไปพูดกับเด็กชายเสียงนุ่ม เธอเอ็นดูพี่น้องคู่นี้มากเสมอ คนพี่ก็ทุ่มเทเสียจนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ส่วนน้องชายก็น่ารักและเป็นเด็กดีเกินวัย ต่างกับพี่ชายแท้ๆของเธอ รายนั้นร้อยวันพันปีก็ไม่เห็นหน้า นานๆ จะกลับบ้านให้เธอและคุณแม่ได้เห็นหน้าบ้าง พูดคุยกันแทบนับครั้งได้ “ครับ” อลันตอบรับอย่างคล่องแคล่ว เขาชอบมาร้านกาแฟในวันหยุดสุดสัปดาห์ มาช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ อย่างล้างแก้ว หรือปัดเช็ดโต๊ะ แม้โบนิต้าจะเคยห้าม แต่อลันก็ยืนยันหนักแน่นว่าเขาอยากช่วยจริงๆ เด็กชายไม่ชอบนั่งอยู่เฉยๆ เพราะมันน่าเบื่อ และที่สำคัญ...เขาอยากแบ่งเบาภาระของพี่สาวแม้จะเล็กน้อยก็ตาม โบนิต้าเอ็นดูสองพี่น้องคู่นี้มาก จึงแอบโอนค่าแรงเล็กๆ น้อยๆ ให้ผ่านอลิสาเสมอ แม้พี่สาวจะปฏิเสธเสียงแข็ง แต่สุดท้ายเงินจำนวนนั้นก็ยังถูกโอนเข้าบัญชีเธอเหมือนเดิม รายได้เล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้น…อย่างน้อยก็พอช่วยให้สองพี่น้องกินอิ่มในมื้อต่อไป “วันนี้พี่ทำช็อกโก้มิ้นท์บานอฟฟี่ อันชิมดูสิว่าอร่อยไหม” โบนิต้ายื่นขนมสูตรใหม่ให้เด็กชายตัวน้อยอย่างใจจดใจจ่อ อลันชิมคำแรกก็ยกนิ้วโป้งให้ทันที ความหอมหวานของช็อกโกแลตเคล้าไปกับกลิ่นมิ้นท์อ่อนๆ เข้ากันอย่างน่าประหลาด เด็กชายตักกินด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ไม่บ่อยนักที่เขาจะได้ลิ้มรสของหวานราคาแพงแบบนี้ โบนิต้ามองหัวทุยที่ไว้ผมหน้าม้านิดๆ อย่างเอ็นดู เธอเองก็อยากมีน้องชายบ้างแต่ติดที่เธอเป็นลูกสาวคนเล็กของบ้านและพ่อแม่ก็แก่มากแล้วคงมีน้องให้ไม่ไหว แดดช่วงบ่ายร้อนจัดเสียจนเหมือนพระอาทิตย์กำลังโกรธใครมา แสงจ้าส่องแรงกว่าทุกวัน อลิสายืนเช็ดโต๊ะลูกค้าที่เพิ่งเช็กบิลออกไป พลางหรี่ตาเพราะแสงจ้า ต้นไม้ที่เคยให้ร่มเงาและลมเย็นจากพัดลม วันนี้กลับนิ่งสนิทไม่ช่วยบรรเทาความร้อนแม้แต่น้อย เหงื่อผุดขึ้นตามไรผมเป็นเม็ดเล็กๆ ก่อนจะรวมตัวกันเป็นหยดใหญ่ ไหลลงตามข้างแก้ม อลิสายกมือเช็ดเหงื่อด้วยความเหนื่อยล้า อาการปวดหัวที่เพิ่งทุเลาไปเมื่อช่วงเช้าเริ่มกลับมาอีกครั้ง เธอยกมือนวดขมับเบาๆ อย่างพยายามฝืนตัวเอง แต่เมื่อหมุนตัวกลับ เส้นแรงในร่างเหมือนจะหายไป ขาทั้งสองข้างไม่มีแรงพอจะพยุงร่าง เธอเซล้มลงกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว “พี่แอล!” เสียงร้องของอลันดังลั่น เด็กชายรีบวิ่งมาหาพี่สาวทันที น้ำตาเม็ดโตไหลอาบสองแก้มขณะกอดเธอแน่นด้วยความตกใจ โบนิต้าได้ยินเสียงโวยวายจากหน้าร้านก็รีบวิ่งออกมา เมื่อเห็นอลิสาร่างอ่อนอยู่ในอ้อมกอดของอลัน เธอก็รีบเข้าไปช่วย “ขอทางหน่อยค่ะ อย่ามุงนะคะ!” โบนิต้าบอกลูกค้าที่เริ่มมุงดูรอบๆ เธอรีบเรียกเด็กในร้านที่เป็นผู้ชายมาช่วยอุ้มอลิสาเข้าไปข้างใน “ขอโทษนะคะ ร้านขอปิดให้บริการก่อน ขอโทษจริงๆ ค่ะ” เธอหันไปยกมือไหว้ลูกค้าที่เหลืออยู่ไม่กี่โต๊ะอย่างสุภาพ ไม่คิดจะเก็บเงินเพราะการบริการต้องหยุดชะงัก แต่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นขาประจำ พวกเขาไม่ถือโทษ ยินดีจ่ายค่าอาหารและทยอยออกจากร้านอย่างเข้าใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม