น้ำขิงถือปิ่นโตออกไปยังโถงห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ เจอมะพร้าวที่กำลังถือไม้ปัดฝุ่น อีกฝ่ายเห็นน้ำขิงก็ปรี่เข้ามาหาด้วยรอยยิ้มกว้าง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณน้ำขิง เมื่อคืนนอนหลับสบายมั้ยคะ”
“สบายค่ะ”
เธอโกหกต่างหาก
“ดีแล้วค่า โอะ! นั่นปิ่นโตใครคะ”
“อ๋อ ขิงทำให้พี่จอมทัพไปทานมื้อเที่ยงที่ทำงานค่ะ”
มะพร้าวเบิกตาแทบถลน ก่อนจะค่อยๆ ยิ้มเจื่อนออกมา เอ็นดูในความพยายามของคุณหนูน้ำขิงซะจริงๆ ทั้งที่พวกสาวใช้ก็เตือนแล้วแท้ๆ
“แล้วพี่จอมทัพจะออกไปทำงานกี่โมงเหรอคะ”
“คุณจอมทัพจะออกประมาณเก้าโมงค่ะ”
น้ำขิงพยักหน้า นี่พึ่งจะเจ็ดโมงเช้า เธอไม่รู้เวลาที่แน่นอนเลยรีบตื่นมาก่อน เธอเอ่ยขอบคุณมะพร้าวก่อนจะเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาวสุดหรูหราในโถงห้องรับแขก ที่นี่ใหญ่โตอย่างกับวัง เธอแหงนหน้ามองไปรอบๆ ก็อดที่จะตะลึงไม่ได้
พวกเขาคงจะรวยกันมากเลยสินะ
แต่เงินพวกนั้นได้มาด้วยธุรกิจสีดำ รวมทั้งเงินที่คุณลุงเอาไปใช้หนี้ให้เธอกับแม่ด้วย น้ำขิงปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกขัดอยู่ในใจ แต่เธอจะทำยังไง ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว หญิงสาวนึกถึงแชทเมื่อคืนที่เธอคุยกับแม่...น้ำขิงส่งข้อความไปถามเรื่องอาชีพของคุณลุง และบอกอีกฝ่ายว่าสมุทรเตโชเป็นตระกูลของมาเฟีย แม่และเธอกำลังเอาตัวเข้ามาพัวพันกับพวกคนอันตราย ทว่าแม่ของเธอไม่ได้ดูตกใจ นั่นก็แปลว่าแม่รู้อยู่ตั้งแต่แรก ทำให้น้ำขิงไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป เงินห้าล้านที่เธอต้องหามาใช้คืนคุณลุงชัชวาล ไม่รู้ชาติไหนถึงจะหาครบ
ถ้านี่เป็นการตอบแทนบุญคุณอย่างหนึ่ง น้ำขิงก็จะทำ เธอนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยสลับกับสัปหงกไปหลายรอบ ในที่สุดก็เป็นเวลาเก้าโมงสักที น้ำขิงเห็นเวลาในมือถือก็รีบลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับปิ่นโตและเดินออกไปรอที่หน้าประตู ลานกว้างหน้าประตูบ้านมีแลมโบกินีคันหรูของจอมทัพมาจอดรอไว้แล้ว ยืนรอไม่นานก็เห็นร่างสูงใหญ่ในชุดสูทภูมิฐานทว่ามีใบหน้าบึ้งตึงอยู่ตลอดกำลังเดินออกมาจากด้านในของบ้าน น้ำขิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมเผชิญหน้า ทว่าจอมทัพเดินผ่านน้ำขิงไปราวกับเธอเป็นอากาศธาตุ
“พี่จอมทัพ”
น้ำขิงเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะขึ้นรถยนต์ของตัวเอง ทำให้คนตัวเล็กวิ่งไปดักหน้าเขาทันที จอมทัพหยุดสองเท้าและตวัดสายตามองเธอ ความไม่พอใจฉายชัดบนใบหน้าของมาเฟียหนุ่ม
เธอวิ่งมาดักหน้าเขาเป็นรอบที่สอง...ซึ่งจอมทัพไม่ชอบให้ใครทำแบบนี้
“มื้อเที่ยงค่ะ เอาไปทานที่ทำงานนะคะ”
เขากดสายตามองปิ่นโตสีขาวลายดอกไม้ด้วยนัยน์ตายากจะคาดเดา ก่อนจะเคลื่อนสายตามองหน้าเจ้าของปิ่นโตที่กำลังยื่นมา เธอยิ้มกว้างให้เขา ราวกับเมื่อวานที่ด่าไปไม่สะทกสะท้าน
“...”
มาเฟียหนุ่มคิดในใจว่าควรทำอย่างไรกับผู้หญิงน่ารำคาญคนนี้ดี
เพราะเขาชักจะไม่อยากทน
ทว่ามือหนารับปิ่นโตเอาไว้ จอมทัพมองมันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตั้งใจปล่อยให้ปิ่นโตตกพื้นจนอาหารในนั้นรวมทั้งบัวลอยไข่หวานกระจายเต็มพื้นเสียงดังสนั่น
เพล้ง!!!!
น้ำขิงหลับตาแน่นและห่อไหล่ด้วยความตกใจ ก่อนจะลืมตาขึ้นมองก็พบว่าอาหารน่ากินมากมายหกนองเต็มพื้นหมดแล้ว
เธอเงยหน้าจ้องจอมทัพทันที อีกฝ่ายที่มองอยู่ก่อนพร้อมกับแววตาเกลียดชังไม่ปิดบัง
“ฉันจะเตือนเธอเป็นครั้งสุดท้าย”
“...”
“ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ อย่ายุ่งกับฉัน”
จอมทัพพูดแค่นั้นก่อนจะขึ้นแลมโบกินีและขับออกไปด้วยความเร็ว น้ำขิงกระพริบตาถี่ๆ เพื่อเรียกสติตัวเองให้กลับมา เมื่อครู่เธอตกใจมาก และสายตากับน้ำเสียงของเขาที่พูดออกมา มันบ่งบอกว่าไม่ได้ล้อเล่น
“คุณน้ำขิงเป็นอะไรมั้ยคะ!”
มะพร้าววิ่งเข้ามาเมื่อเห็นว่าจอมทัพออกไปแล้ว คนรับใช้มากมายต่างแอบมองอยู่ห่างๆ เพราะไม่มีใครกล้ามาไปยุ่งกับคุณชายจอมทัพหากเจ้าตัวไม่เรียกใช้ มีแต่คนหวาดกลัวเขาทั้งสิ้น แต่ยกเว้นน้ำขิงที่พยายามเข้าหา มะพร้าวมองเนื้อตัวบอบบางว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า น้ำขิงส่ายหน้าก่อนจะมองบนพื้นที่เต็มไปด้วยอาหารหกกระจาย เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และมองออกไปทางประตูรั้วสูงใหญ่ที่จอมทัพพึ่งจะขับรถออกไป
เจ้าของใบหน้าบึ้งตึงที่กำลังแผ่กระจายรังสีอำมหิตออกมาพ่นลมหายใจก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งตัวเองในห้องทำงานชั้นบนสุดของตึก ดวงตาคมกริบยิ่งกว่ามีดแหลม เขาหยิบมือถือขึ้นมาและกดโทรออกหาบิดาทันทีด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น
ไม่นานปลายสายก็รับ ทำให้จอมทัพเอ่ยสิ่งที่ต้องการออกไปไม่พูดพร่ำทำเพลง
“เอาผู้หญิงคนนั้นออกไปให้ห่างผม”
เสียงทุ้มสะกดกลั้นอารมณ์อย่างหนัก ตอนนี้จอมทัพไม่สามารถกักเก็บมันเอาไว้ได้อีก
(หมายถึงหนูน้ำขิงเหรอ)
“...”
เขาไม่ตอบ และไม่อยากจะเอ่ยชื่อของมัน
(ใจเย็นหน่าจอมทัพ หนูน้ำขิงเป็นคนน่ารักนะ น้องอายุน้อยกว่าลูกหลายปี เอ็นดูน้องเถอะ)
จอมทัพพ่นเสียงหัวเราะเยือกเย็นในลำคอ น้องงั้นเหรอ?
“ผมไม่มีน้อง”
(ถือว่าพ่อขอเถอะนะ)
“งั้นก็อย่าหาว่าผมใจร้าย”
(...)
“ส่งมันมาให้ผมแล้ว ผมจะทำอะไรก็ได้ใช่มั้ยครับ?”
(ลูกหมายถึงอะไร)
♡♡♡
บิดาก็บิดาเถอะ เอาไม่อยู่แล้วตอนเน้!!
#รอติดตามกันได้เลยนะคะ อัพทุกวัน วันละ 1-2 ตอนจ้าา ?