BAD FRIENDSHIP #1

2988 คำ
BAD FRIENDSHIP #1 “ฉันสั่งองุ่นเขียวไปไม่ใช่หรอ แต่ทำไมถึงได้องุ่นแดงมา” “องุ่นเขียวหมดค่ะคุณหนู” “ได้ไปดูที่ห้างฯอื่นรึยัง” ซัมเมอร์กอดอกมองหน้าแม่บ้านราวกับกำลังคาดคั้นคำตอบ “ไม่ได้ยินที่ฉันถามหรอ ได้ไปดูที่ห้างฯอื่นมารึยัง” “ยะ ยังค่ะคุณซัมเมอร์” “แล้วมาตอบฉันได้ยังไงว่าไม่มี” “ขอโทษค่ะ” “ฉันอยากกินองุ่นเขียว ไม่ใช่องุ่นแดง ถ้ามันเหมือนกันฉันจะเลือกทำไม ทำไมต้อง...” “เจ้” เสียงหวานเอ่ยเรียกพี่สาวดังมาจากประตูบ้าน “องุ่นเขียวค่ะ โซลซื้อมาให้” ซัมเมอร์หันไปมองใบหน้าหวานของน้องสาวด้วยแววตาอ่อนลง “ไปหาซื้อมาหรอโซล มันใช่หน้าที่เราหรอไง” “ไม่ใช่หน้าที่ค่ะ แต่ถ้าเจ้สุดสวยของโซลอยากทาน โซลก็จะไปหามาให้จนได้” โซลเดินเข้าไปสวมกอดพี่สาวไว้แน่น “อย่าหงุดหงิดสิคะ วันนี้เรามีนัดทานข้าวกับบ้านอามังกรนะคะ เดี๋ยวก็ไม่สวยหรอก” “ก็ทานกันทุกอาทิตย์ ต้องสวยด้วยหรอไง” “ต้องสวยสิคะ วันนี้ป๊าบอกว่าเรามีแขกพิเศษด้วย” “หื้มม?” ซัมเมอร์หันไปสบตาน้องสาว “แขกจากไหน” “คงเป็นเพื่อนๆนักธุรกิจของป๊านั่นแหละ” “เห้อ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว ต้องไปนั่งปั้นหน้าอีก” “มันไม่ขนาดนั้นสักหน่อย เจ้อาจจะสนุกก็ได้ เห็นว่ามีเด็กรุ่นเดียวกับพวกเราด้วยนะ” “เหอะ” ซัมเมอร์ทำหน้าเบื่อหน่าย “รู้เลยว่าป๊าจะทำอะไร จับคู่ให้เจ้อีกตามเคย” “ลองดูก็ไม่เสียหายนี่นา โซลยังไม่เคยเห็นเจ้คบใครเป็นจริงเป็นจังเลยนะ” “อยู่คนเดียวสบายกว่าเยอะ” “ยังไม่เจอใครที่ถูกใจก็บอก” โซลยิ้มแล้วหันไปสั่งแม่บ้าน “ฝากล้างแล้วเอาองุ่นขึ้นไปให้เจ้บนห้องนะคะ” “แล้วนมร้อนของคุณโซลล่ะคะ” “เอาไปที่ห้องเจ้เลยค่ะ โซลอยู่ที่ห้องเจ้” “แล้วจะมาอยู่ห้องเจ้ทำไม” ซัมเมอร์หันไปบ่นน้องสาวที่เดินควงแขนตนเองเดินขึ้นไปยังห้องนอนชั้นบนของคฤหาสน์หรู “เจ้ทำผมให้โซลหน่อยสิ โซลลอนผมไม่เก่ง” “เจ้สอนไปหลายรอบแล้วนะ” “ก็สวยไม่เท่าที่เจ้ทำให้อยู่ดีอะ” โซลอ้อนพี่สาว ก่อนที่ทั้งคู่จะหายเข้าไปในห้องนอนของซัมเมอร์ “เห้อ เกือบแล้วมั้ยล่ะ บอกแล้วไงว่าให้ไปหาที่ห้างอื่นด้วย” แม่บ้านเอามือทาบอกแล้วหันไปบ่นคนขับรถ “ถ้าคุณโซลไม่ได้องุ่นเขียวมาล่ะก็ มีหวังหัวหลุดจากบ่าแน่” “ทีหลังจำใส่กะโหลกแกไว้เลยถ้าเป็นของที่คุณซัมเมอร์สั่ง จะให้หายากยังไงก็ต้องหามาให้ได้ เข้าใจมั้ย” “เออ เข้าใจแล้ว ฉันก็กลัวว่ารถจะติด” คนขับรถพูดด้วยสีหน้าโล่งใจ “ดีนะที่คุณโซลซื้อมาพอดี คุณหนูเล็กช่วยชีวิตไว้แท้ๆเลย” “ฉันไปเตรียมองุ่นเขียวกับนมอุ่นให้คุณหนูๆท่านก่อน แกก็ไปเตรียมรถให้เรียบร้อยละ” “อื้ม” คนขับรถพยักหน้ารับก่อนที่ทั้งคู่จะแยกกันไปจัดการหน้าที่ของตนเอง -หนึ่งชั่วโมงต่อมา- [Summer’s part] ฉันนั่งมองตัวเองอยู่หน้ากระจกหลังจากที่เดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะบรรจงลงครีมบำรุงเหมือนทุกทุกวัน ระหว่างนี้ฉันต้องแนะนำตัวเองกับทุกคนก่อนใช่มั้ย ฉันชื่อ ซัมเมอร์ แล้วอย่างที่ทุกคนรู้ ฉันมีน้องสาวชื่อว่า โซล ป๊าบอกว่าชื่อของเราทั้งคู่หมายถึงฤดูร้อนนะ เอาง่ายๆคือป๊ากับม้ามีฉันกับน้องช่วงฤดูร้อน เราทั้งสองคนเลยได้ชื่อนี้มา “วันนี้อามังกรจะเอาช็อกโกแลตมาให้เจ้ด้วยนะ” “อามังกรไปสวิตเซอร์แลนด์มาหรอ” “ใช่ค่ะ ม้าบอกว่าแทบจะเหมามาหมดเมือง” ฉันพยักหน้ารับด้วยสิ่งหน้านิ่งเรียบ ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกขอบคุณนะ แต่มันเป็นปกติของพวกเราทั้งสองบ้าน เกริ่นก่อนละกันว่าป๊ากับอามังกรเป็นเสมือนพี่น้องกันแท้ๆ ที่พูดแบบนั้นเพราะว่าอากงรับอามังกรมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก จริงๆมันมีสตอรี่มากกว่านั้นเยอะมาก ป๊าเล่าว่าเมื่อก่อนอากงทำธุรกิจค่อนไปทางสีดำจนกระทั่งอามังกรเจออาเรนนี่ ทั้งสองคนเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้องกงกับปะป๊าอยากหันมาทำอะไรที่ถูกต้องเพราะว่าตอนนั้นตระกูลพวกเรากำลังจะมีหลานคนแรก นั่นคือ เฮียภูผานั่นเอง ต่อจากนั้นฝั่งอามังกรก็มีนักรบ และปะป๊าเองก็มีฉัน ตามมาด้วยโซลซึ่งเป็นน้องคนสุดท้อง ฉันจำไม่ได้เหมือนกันว่าพวกเราทั้งสองครอบครัวต้องมาทานอาหารร่วมกันทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะตั้งแต่จำความได้ฉันก็จะเจอทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากันทุกวันอาทิตย์แล้ว เอาจริงๆมันดีมากนะ โดนเฉพาะกับพวก Introvert แบบฉัน “เจ้ลอนผมหรอคะ โซลเปลี่ยนใจแล้วอยากทำผมตรงมากกว่า” “แล้วแต่ มา เดี๋ยวเจ้ไดร์ฟผมให้” ฉันเดินไปหยิบไดร์ฟมาไดร์ฟให้โซลที่นั่งยิ้มอยู่หน้ากระจก ฉันมองรอยยิ้มของน้องสาวและพาลยิ้มตาม ฉันกับโซลไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ยัยเด็กน้อยนี่พูดเก่ง เข้ากับคนง่าย เห็นอกเห็นใจคนอื่นก่อนเสมอแตกต่างกับฉันที่แทบจะไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ค่อยยิ้ม แถมยังมีเพื่อนไปถึง 5 คนด้วยซ้ำ “เจ้คิดอะไรอยู่ค่ะ ขมวดคิ้วทำไม” “คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย นี่จะใส่ชุดอะไรไป” “นั่นไง ชมพูพาสเทลแบบสาวสายหวาน” “พอเห็นชุดโซลแล้วเจ้อิ่มของหวานเลย” โซลยิ้มขำออกมา “เจ้อะ ลองมาใส่สีชมพูแบบโซลดูบ้างมั้ย รับรองผู้ชายหันมองเป็นแถว” “ตามสบายเลย” ฉันส่ายหน้าแล้วไดร์ฟผมให้น้องสาวไปเรื่อยๆ “อะ เสร็จแล้ว ไปแต่งหน้าแต่งตัวซะ” “โอเคค่ะ เดี๋ยวโซลไปหยิบลิปสติกสีใหม่มาก่อน จะเอามาอวด สีละมุนมากกกก” โซลลากเสียงยาวแล้วส่งยิ้มมาให้ฉันด้วยแววตาภาคภูมิใจ “จ้า ตามสบาย” ฉันพยักหน้านิ่งก่อนจะหันมาจัดการกับหัวของตนเองพร้อมกับเหลือบมองเวลาไปด้วย “เรามีเวลาอีก 1 ชั่วโมงนะโซล อย่าเลท” “รับทราบค่า” [End] “เจ้คะ” “คะ?” ซัมเมอร์สบตาน้องสาวผ่านกระจกบานใหญ่ “ยิ้มแบบนี้อยากจะได้อะไรอีก” “ปิดเทอมช่วงขึ้นปี 2 โซลอยากไปฮ่องกงกับเพื่อนค่ะ เจ๊ขอป๊าให้หน่อยสิ” โซลนอนส่งยิ้มให้พี่สาวอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ “ไปกับใคร” ซัมเมอร์เอ่ยถามน้องสาวพร้อมกับดัดผมไปด้วย “ไว้ใจได้รึเปล่า” “ไว้ใจได้สิคะ เพื่อนของโซลเอง” “อีกตั้งหลายเดือน ทำไมรีบขอล่ะ” “ก็ต้องเตรียมพร้อมสิคะ กลัวป๊าไม่ให้ไปอะ” “เดี๋ยวเจ้ช่วยขอล่ะกัน แต่ไม่รับปากนะ เราก็รู้ว่าป๊าเราเค้าคิดมากขนาดไหน ถ้าได้ไปก็อาจจะต้องมีบอดี้การ์ดคอยตาม เราโอเคมั้ยล่ะ” “ไม่ค่ะ” โซลส่ายหน้า “ไม่โอเค เพื่อนโซลได้พากันกดดันจนเที่ยวไม่สนุกแน่ๆ” “นึกว่าเพื่อนเราจะชินแล้วซะอีก” โซลทำหน้าซึมสบตากับพี่สาว “เจ้คุยกับป๊าให้โซลหน่อยนะ” “รู้แล้ว ยังไม่ต้องทำหน้าซึมขนาดนั้น เดี๋ยวเจ้ลองคุยให้ก่อน ถ้าป๊าไม่ยอมก็ค่อยให้ม้าช่วย” “โอเคค่ะ” โซลยิ้มกว้างมองพี่สาวตนเองด้วยรอยยิ้มกว้าง “เจ้สวยจังเลย” “หึ อารมณ์ไหน” “อารมณ์หลงพี่สาวไง” โซลเดินเข้าไปสวมกอดซัมเมอร์ไว้แน่น “โซลโชคดีจังที่มีเจ้” “ยิ่งโตยิ่งอ้อนเก่งนะ ไปดื่มนมให้หมดซะ อีก 10 นาทีต้องออกแล้ว ในเมืองรถติด” “วันนี้เราไปทานข้าวกันที่ไหนคะ” “ป๊าแชร์โลเคชั่นไว้ในกลุ่มแล้ว เป็นโรงแรมในเมืองอะ แต่ชื่ออะไรไม่รู้เจ้จำไม่ได้” “เอ้าหรอ ตอนแรกโซลคิดว่าเราจะทานข้าวกันที่บ้านอามังกรซะอีก” “คงอยากเปลี่ยนบรรยากาศมั้ง เออใช่ เราบอกเองไม่ใช่หรอว่าป๊ามีแขก” “จริงด้วย คงเพราะว่ามีแขกเลยพากันไปทานที่โรงแรม” “อืม” ซัมเมอร์พยักหน้ารับพร้อมกับก้มลงมองข้อความที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอ “อยู่ไหนแล้ว” ซัมเมอร์ทำหน้านิ่งแล้วเดินไปคว้ากระเป๋ามาสะพายแล้วถือโทรศัพท์เดินเข้าไปหาน้องสาว “ไปเลยมั้ย” “ค่ะ” โซลพยักหน้ารับแล้วเดินลงไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านหลังพร้อมกับพี่สาว ส่วนพ่อกับแม่ของทั้งคู่จะไปเจอกันที่โรงแรมเลยทีเดียว . . “สวัสดีครับคุณหนู รอสักครู่นะครับ” ลูกน้องคนสนิทของหยางเดินมารับคุณหนูทั้งสองทันทีที่ลงจากรถ ”จองไว้ในชื่อคุณหยาง” “ห้องวีไอพีชั้นดาดฟ้าค่ะ เดี๋ยวจะให้คนพาขึ้นไปนะคะ” “อืม” ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วเดินพาคุณหนูทั้งสองไปยังห้องวีไอพีชั้นบนทันที “โครงการของกรมชลประทานเป็นยังบ้าง ประมูลผ่านมั้ย?” ซัมเมอร์เอ่ยถามลูกน้องคนสนิทของพ่อ “ผ่านครับคุณหนู เซ็นต์สัญญาอาทิตย์หน้าครับ” “แล้วใครดูโครงการนี้” “คุณนฤบดินทร์ครับ” “ทำไม” “งานค่อนข้างซับซ้อนเราเลยต้องใช้วิศวกรที่มีประสบการณ์สูงครับ” “แล้วถ้าเค้าลาออก บริษัทฯจะทำยังไงต่อ” “....” “เดี๋ยวฉันคุยกับพ่อเอง” ซัมเมอร์เอ่ยเสียงนิ่งแล้วเดินออกจากลิฟต์ตรงเข้าไปยังห้องอาหารทันที “ป๊า ม้า” “ซัมเมอร์ โซล” หยางยิ้มให้ลูกสาว “นั่งสิลูก หรืออยากไปเดินดูอาหารก่อนก็ได้” “วันนี้มาแนวบุฟเฟ่ต์หรอคะ” ซัมเมอร์มองไปรอบๆ ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นน้องสาววิ่งตรงไปยังบาร์ขนมหวาน “วันนี้ลูกสาวของหม่าม้าสวยจังเลยค่ะ” ทับทิมหยิกแก้มลูกสาวคนโตด้วยแววตาเอ็นดู “หม่าม้าก็สวยค่ะ” ซัมเมอร์ยิ้มตอบ “ทานอะไรรึยังคะ” “ไม่ต้องห่วงลูก เดี๋ยวของป๊า ม้าจัดการให้ หนูไปตักอาหารที่หนูอยากทานเลย” “งั้นระหว่างที่หม่าม้าไปตักอาหาร หนูขอคุยกับแฟนหม่าม้าหน่อยนะคะ” “เรื่องงานอีกล่ะสิ” ทับทิมเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทัน “อย่าคุยกันนานล่ะ นี่เวลาทานอาหาร เข้าใจใช่มั้ยลูก” “เข้าใจค่ะหม่าม้า” ซัมเมอร์พยักหน้ารับแล้วหันไปหาพ่อตนเองที่มองมาราวกับรับรู้ว่าลูกสาวคนโตจะพูดเรื่องอะไร “ป๊า...” “ป๊ารู้ หนูไม่เห็นด้วยที่ป๊าส่งวิศวกรซีเนียร์เข้าไปดูโครการที่เรากำลังจะเซ็นต์สัญญาอาทิตย์หน้า” “ใช่ค่ะ หนูคิดว่าเราควรกระจายความเสี่ยงนะคะ คนกลุ่มนี้ต้องลาออกหรือเกษียณไปในสักวัน เราจะเอาความเสี่ยงไปทิ้งไว้กับเค้าไม่ได้” “ป๊ารู้” “รู้? รู้แล้วยังไงคะป๊า” “นี่ไง ป๊าจะส่งหนูเข้าไปดูพร้อมกับลูกของเพื่อนป๊า พี่เค้าเป็นวิศวกรที่เข้ามาร่วมโครงการนี้ด้วย” “ป๊า” ซัมเมอร์เอ่ยขึ้นอย่างรู้ทัน “คิดจะทำอะไรคะ หนูรู้ทันนะ” “ดีเลย งั้นป๊าจะได้ไม่ต้องอธิบายเยอะ” “ป๊า หนูยังไม่อยากมีใครตอนนี้” ซัมเมอร์งอแงใส่พ่อของตนเอง “หนูก็บอกป๊าไปแล้วไงคะ” “แล้วหนูจะมีตอนไหน ศึกษากันไปก่อนก็ได้หนิลูก” “หนูอยากใช้ชีวิต” “ป๊าก็ไม่ได้จะให้หนูแต่งเดือนหน้าสักหน่อย” “หนูไปหาอะไรทานดีกว่า ไม่คุยกับป๊าแล้ว” ซัมเมอร์ทำหน้างอแล้วหันลุกลุกขึ้นแต่ไปชนกับแผงอกกับใครบางคะซะก่อน “ทำหน้างอทำไม” “ไม่ใช่เรื่องของนาย ถอยไป” ซัมเมอร์ผลักอกคนตรงหน้าออกไม่แรงนักแต่คนตรงหน้ากลับกวนประสาทไม่ยอมหลบให้พ้นทางของเธอ “นักรบ ถอยไป” “มานี่ เดี๋ยวพาไปตักอาหาร” นักรบคว้าแขนซัมเมอร์ไว้แล้วหันไปทักทายหยางกับทับทิม “คุณลุง คุณป้า สวัสดีครับ” “หวัดดีลูก พาไปตักอาหารหน่อยไป งอแงใส่ลุงใหญ่แล้ว ฝากจัดการหน่อย” “ได้ครับ” นักรบยิ้มกว้างแล้วลากแขนซัมเมอร์ให้เดินไปกับตนเอง “งอแงอะไร” “ไม่ได้งอแง” ซัมเมอร์หันไปตอบชายหนุ่ม “แล้วส่งข้อความไปทำไมไม่ตอบ” “มีอะไร?” “จะให้หยิบเสื้อคลุมที่ลืมไว้บนรถมาให้ด้วย” “เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาไปให้ที่มหาลัย” “มีเรียนด้วยหรอ” “มีเข้าไปคุยโปรเจ็กท์กับที่ปรึกษา” “เริ่มทำแล้วหรอ” “อือ ฉันกับแพรคุยกันแล้วว่าอยากรีบทำรีบจบ” “ดี เอาไว้ฉันค่อยลอกเธอ” “โตแล้วนะ ยังมาลอกอะไรอีก” ซัมเมอร์เดินไปคว้าจานแล้วตักอาหารด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ต่างกับนักรบที่เดินเลยไปยังบาร์เครื่องดื่ม “เอาวิสกี้มาแก้ว” “ครับ” บาร์เทนเดอร์พยักหน้ารับ นักรบนั่งลงบนเก้าอี้บาร์แล้วหันไปมองรอบๆก่อนจะคว้าเครื่องดื่มมาดื่มอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่การมาของใครบางคนจะมาดึงความสนใจไปจากชายหนุ่ม “ใครวะ” ซัมเมอร์ที่ได้ยินเสียงบ่นพึมพัมของนักรบก็หันไปมองที่โต๊ะอาหาร ซึ่งตอนนี้มีแขกของพ่อตนเองมาเพิ่มแต่หญิงสาวเลือกที่จะหันไปตักอาหารต่ออย่างไม่สนใจ “สวัสดีครับ” ซัมเมอร์หันไปมองชายหนุ่มที่ส่งยิ้มกว้างมาให้เธอ “ค่ะ” “พี่ชื่อต้นน้ำนะ อาหยางน่าจะบอกน้องซัมเมอร์ไว้แล้วว่าเราจะดูโปรเจ็กท์ของชลประทานด้วยค่ะ” “ค่ะ ป๊าเกริ่นไว้บ้านแล้วค่ะ” ซัมเมอร์ตอบอย่างไม่ใน่ใจอะไรชายหนุ่มมากนัก “ครับ” ต้นน้ำยิ้มให้หญิงสาว “พี่ช่วยถือจานอาหารมั้ย” “ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวขยับจานหนี “พี่ต้นน้ำตักอาหารเลยก็ได้ค่ะ” “ไม่เป็นไรครับ พี่ช่วยถือก่อนดีกว่า มันร้อน” ต้นน้ำคว้าจานในมือซัมเมอร์มาถือไว้ “เลือกต่อได้เลยนะ” “ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็พอแล้ว” ซัมเมอร์หันไปทำหน้านิ่งให้คนตรงหน้าแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะโดยมีสายตาของนักรบมองตามไม่ห่าง -ผ่านไปสักพัก- “นักรบ มาเร็วนี่เร็วลูก” เรนนี่กวักมือเรียกลูกชายคนเล็กของตนเอง นักรบพยักหน้าแล้วคว้าแก้วเหล้าเดินตรงไปยังโต๊ะอาหารที่ตอนนี้เต็มไปด้วยสมาชิกที่มาร่วมทานอาหารวันนี้ “นี่นักรบครับ ลูกชายคนเล็กของผมเอง” มังกรหันไปแนะนำลูกชาคนเล็กให้กับแขกของหยาง “นี่ลุงวินัย หุ้นส่วนของลุงหยางและป๊า” “ครับ” นักรบยิ้มตอบแล้วหันไปมองชายหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่ข้างซัมเมอร์ “ลุงลืมแนะนำ นี่ต้นน้ำ ลูกชายลุงเอง” นักรบพยักหน้ารับแล้วมองไปยังชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตานิ่งนิ่งเรียบ “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” “ครับ” นักรบพยักหน้ารับแล้วหันไปมองซัมเมอร์ที่กำลังนั่งทานอาหารเงียบๆอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง “ของหวานที่นี่อร่อยมากนะครับ พี่ต้นน้ำได้ลองทานดูรึยังครับ” “ยังเลยครับ ผมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่” “ซัมเมอร์” นักรบเอ่ยเรียกหญิงสาวที่นั่งทานอาหารอยู่ฝั่งตรงข้ามตนเอง “หื้มม?” “พาพี่ต้นน้ำไปตักของหวานหน่อยสิ” ซัมเมอร์ทำหน้านิ่ง “ทำไมนายไม่พาไปเองล่ะ” “ฉันไม่ถนัดเรื่องของหวาน” “แล้วฉันดูถนัดหรอ?” “ไม่เป็นไรครับ” ต้นน้ำหันไปบอกซัมเมอร์ด้วยสีหน้าเกรงใจ ซัมเมอร์นั่งนิ่งแล้วหันไปมองนักรบที่ส่งยิ้มกวนให้กับตนเอง “ไม่เป็นไรค่ะพี่ต้นน้ำ แต่ไม่รู้ว่าขนมหวานแบบที่ซัมชอบพี่จะชอบรึเปล่า” “ชอบอยู่แล้วครับ พี่ทานอะไรก็ได้” ต้นน้ำยิ้มกว้างแล้วลุกเดินตามซัมเมอร์ไปยังบาร์ขนมหวานทันที นักรบมองตามซัมเมอร์พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี ชายหนุ่มรู้นิสัยของซัมเมอร์ดี รายนี้ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครเท่าไหร่นัก “แย่หน่อยนะไอ้หน้าจืด จีบให้ตายยังไงก็ไม่ติด” “เฮีย อย่าทำลายความหวังพี่เค้าสิ” โซลหันมาทำหน้างอใส่นักรบ “นี่เราเชียร์ไอ้หน้าจืดเนี่ยหรอโซล” “พี่เค้าก็ดูน่ารักดีนะคะ เฮียว่าไงอะ” “ไม่ชอบอะ ดูอ่อนแอ จะไปปกป้องเจ้ของเราได้ไง” “ให้โอกาสพี่เค้าก่อนสิคะ” โซลพยายามแก้ต่างให้ต้นน้ำ “เจ้ซัมเมอร์อาจจะไม่ชอบแต่โซลว่าพี่ต้นน้ำชอบเจ้หมดใจ สายตานี่หวานเยิ้มจนน้ำตาลจะหยดออกมาอยู่แล้ว” “คำเปรียบเทียบอะไร” นักรบลูบศีรษะน้องสาวคนเล็กด้วยความเอ็นดู “รอดูต่อไปละกัน อย่างที่เราว่าบางที่เจ้เราเค้าอาจจะใจอ่อนก็ได้” “แล้วเฮียโอเคมั้ยอะ” “ทำไมเฮียต้องโอเคหรือไม่โอเคล่ะ” “เอ้า ถ้าเจ้ชอบเค้าจริงๆเค้าก็จะกลายมาเป็นครอบครัวเรา ก็ต้องถามเฮียนักรบกับเฮียภูผาด้วยสิว่าโอเครึเปล่า” “โอเคอยู่แล้ว” นักรบตอบแล้วหันไปมองซัมเมอร์ที่กำลังคุยอะไรบางอย่างกับต้นน้ำอยู่ที่หน้าบาร์ขนม “ทำไมจะไม่โอเคล่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม