แสงไฟของรถที่ขับเข้ามาจอด ทำให้รับรู้ว่า เวลาหมดลงแล้ว มือบางรับสร้อยเส้นนั้นมา ใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเองเอาไว้
“เข้าไปดูดีเอ็มในไอจีนะ แล้วใหญ่จะนัดเวลาอีกครั้ง “
เค้าบอกเสียงอ้อน แล้วจูบแก้มของเธออีกที ก่อนจะผละเข้าห้องไป ไม่ให้เพื่อนสนิทรู้ว่า เค้าตั้งใจมาหาเธอ
สร้อยเส้นเล็กระยิบระยับเปล่งประกายท่ามกลางแสงไฟในห้องน้ำ ของราคาแพงแบบนี้ เป็นของขวัญแทนใจหรือเปล่า รอยยิ้มกว้าง ยิ้มออกมา อย่างไม่ทันรู้ตัว มือบางลูบจี้อันเล็ก ที่เป็นตัวพี หมุนวนไป เป็นวงกลม
“อ้าว ไง รีบมา กูบอกว่ากูช้า มึงทำให้กูรีบ “
“กูก็เบื่อๆเซ็งๆ เลยขับรถออกมา ไม่มีอะไร “
คนที่ตั้งใจ กดเงินสดออกมา ทีละสองสามพัน หลายวันอย่างไม่ให้ผิดสังเกต หอบเงินหลายหมื่นบาท ไปซื้อสร้อยราคาแพง โดยที่ไม่ให้ใครรู้ แล้วตรงดิ่งมาหาเธอที่นี่ อีกไม่กี่วันแล้ว ที่เค้าจะต้องไป
“กินข้าวมายัง มาม่าไหม เดี๋ยวกูสั่งให้เค้าทำ “
“อือ มาม่าก็ได้ ใส่หมูกรอบกับกุ้ง “
“เรื่องมากชิบหาย “ เจ้าของบ้านบ่น แล้วก็กดโทรศัพท์ไปสั่งแม่ครัว ที่อยู่ห้องครัว ตามคำสั่งของเพื่อนรัก
“เออ มาลิน ตกลง สอบเข้าที่ไหน “
เสียงถามไถ่ ของคนที่นั่งอยู่ ทำให้เธอ ต้องเงยหน้าขึ้นมองเค้า คนที่ทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนไม่สนใจอะไร นอกจาก มาม่าชามใหญ่ตรงหน้า
“บัญชีค่ะ มาลินได้บัญชี “ เธอตอบไปเท่านั้น แล้วก็ตั้งใจจะเดินถอยออกมา
“อะ ของขวัญ “ ถุงสีดำ ที่ยื่นให้ บอกให้รู้ถึงของภายใน
“ไอ้เจมส์ ซื้อนาฬิกาให้ด้วย สวยไหมวะ “
มือที่จับช้อนอยู่ วางลงบนถ้วยทันที แล้วดึงถุงมาอย่างเสียมารยาท
“พ่อแม่กู สั่งเอาไว้ กูเปล่า “ คนที่ไปธุระมา รับของมาให้ โดยบังเอิญ ไม่ได้เป็นคนออกเงินเองแม้แต่สลึง
“อ่อ กูก็คิดว่ามึงใจดี ซื้อให้เค้า “
“เปล่าโว้ย กูจะซื้อให้ทำไม คนพิเศษก็ไม่ใช่ เพื่อนก็ไม่ใช่ คนที่ได้ของขวัญ เค้าต้องพิเศษโว้ย”
ภากร ยื่นถุงกลับคืนให้ แล้วพูดเสียงเบา
“นั่นสิ คนที่ได้ของขวัญ ก็ต้องเป็นคนพิเศษ สินะจริงไหม “