EP:06 รักษาระยะห่าง

1249 คำ
เวลาผ่านไปนานพอสมควร วานิลไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอสนิทกับเด็กเสิร์ฟคนนั้นตอนไหน เหมือนจะเผลอใจไปแค่วูบเดียว จนตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะลงลึกถอนตัวไม่ขึ้นไปแล้ว ก็มีไม่น้อยที่มีคนมาทำดีกับเธอ แต่มันก็ไม่ใช่ความรู้สึกแบบนี้จริงๆ มันเป็นแค่ความชอบ รู้สึกดี เพียงเพราะมีคนที่ไม่เคยรู้จักเธอมาก่อนปฏิบัติกับเธอดี ไม่ได้มองว่าเธอหยิ่งหรือไม่น่าเข้าใกล้ เหมือนที่มีคนพูดก่อนหน้านี้ ก๊อกๆๆๆ "ขออนุญาตครับ" "เข้ามาสิ" "เครื่องดื่มที่สั่งครับ" "พักนี้นายมาบ่อยนะ ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาบริการด้านบนแล้วหรือไง" "ครับ ก็ขึ้นๆ ลงๆ ครับ" "ขอบใจ วางไว้ที่เดิมแหละ" "ครับ" "....." วานิลก้มหน้าทำงานต่อ เธอไม่อยากจะทำเหมือนว่าสนใจอะไรมากเพราะไม่อยากทำตัวสนิทสนมไปมากกว่านี้ สำหรับเธอสถานะมันไม่เกี่ยวเลย เพราะเธอไม่เคยลืมว่าเคยเป็นใครมาก่อน แต่เพราะเธอไม่อยากเจ็บ ความรักมันทำให้คนอ่อนแอในความคิดของเธอ และเธอก็ไม่อยากอ่อนแอมีน้ำตา "คุณวานิลครับ" "มีอะไร?" "ผมจะชวน...ไปเที่ยวหลังเลิกงานครับ" "ดูก่อนละกัน ฉันมีงานเยอะ อาจจะไม่ไป นายเองก็เอาเวลาไปตั้งใจทำงาน ฉันช่วยไม่ได้นะ ถ้าไม่สนใจงานแล้วถูกไล่ออกน่ะ" "ครับ ผมจะตั้งใจทำงานครับ" ชายหนุ่มก้มหน้าต่ำลงก่อนจะหันหลังเดินออกไปอย่างเงียบๆ ทันทีที่มีเสียงประตูปิด วานิลก็เงยหน้าขึ้นทันที ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อรักษาระยะห่างก็เท่านั้นเอง ต่อให้อีกฝ่ายจะพยายามเข้าหามากแค่ไหน แต่เธอก็ยังปิดกั้นอยู่เหมือนเดิม ถึงจะพูดคุยกันอยู่หลายครั้งแต่เธอก็ยังไม่เคยบอกว่าเธอเคยเป็นใครและเจออะไรมาก่อน ตกดึกวันเดียวกัน "นายอีกแล้วเหรอ" เธอพูดขึ้น เมื่อเดินออกมาเจอกับศรัณย์กำลังยืนรออยู่ที่เดิม "ครับ" "วันนี้ฉันเหนื่อย ฉันอยากพัก" เหนื่อยงานเหนื่อยใจแปลกๆ และไม่อยากไปกับใครทั้งนั้น อยากพักแล้ว วันนี้เหนื่อยจริงๆ งานเยอะแบบมากๆ "ให้ผมไปส่งนะครับ" "ฉันกลับเองได้" "ให้ผมไปส่ง...เถอะนะครับ" ยังคงตามตื๊อไม่เลิก มันเริ่มน่ารำคาญสำหรับเธอแล้วล่ะ ทำไมถึงได้เซ้าซี้ขนาดนี้ ไม่ไปก็คือจบสิ "ฟังนะ ฉันนั่งรถเก๋งที่มีคนขับให้มันสบายกว่า รถของนายมันเป็นมอเตอร์ไซค์ ฉันอยากพัก ไม่ใช่นั่งเกร็งตัวไประหว่างนั่งรถ" เธอพูดอย่างเหนื่อยๆ พูดไปแบบตรงๆ มันอาจจะแทงใจดำเขาแต่เธอไม่อยากพูดอ้อมค้อม แค่เหนื่อย อยากนั่งสบายๆ บนรถแอร์เย็นๆ มากกว่า หลังจากนั้นเธอก็กลับบ้านโดยที่มีลูกน้องคนสนิทเป็นคนขับรถไปส่ง พอกลับถึงบ้านทำอะไรเสร็จสรรพเรียบร้อยเธอก็ผล็อยหลับไปทันที จนกระทั่งเช้าวันต่อมา กิจวัตรประจำวันของเธอคือจะต้องลุกออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งตอนเช้าๆ เพื่อให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ซึ่งมันก็เป็นปกติทุกอย่าง เหลือเพียงอย่างเดียวที่ไม่ปกติเลย คือมีรถมอเตอร์ไซค์คันนึงมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านของเธอ ขณะที่กำลังวิ่งกลับบ้านเธอก็ต้องชะงัก เพราะรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดดักรออยู่ เธอไม่แปลกใจที่เขารู้จักบ้านของเธอ แต่แปลกใจมากกว่าว่าเขามาทำอะไรที่นี่แต่เช้าตรู่แบบนี้ "นายมาทำอะไร" "มาหาคุณวานิลไงครับ" "นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่เนี่ย!" "ผมเคยบอกไปแล้วไงครับ ว่าผมชอบคุณ" "เรื่องนั้นรู้แล้วน่า ไม่เห็นต้องพูดซ้ำ ฉันแค่ไม่เข้าใจ ว่านายจะมาทำอะไรที่บ้านของฉันแต่เช้าแบบนี้" "คุณวานิลทำอะไรกินหรือยังครับ" "ยัง" "ตรงหน้าปากซอยตรงโน้น มีร้านโจ๊กเปิดอยู่ เราไปนั่งกินโจ๊กกันนะครับ" "ห๊ะ? ขับรถมาตั้งหลายกิโล เพื่อที่จะมารับฉันออกไปกินโจ๊ก แค่นี้เนี่ยนะ?" "ครับ ไปด้วยกันสิครับ" "เมื่อวานฉันพูดไปขนาดนั้น ไม่โกรธบ้างเลยหรือไง" ตอนกลับมาถึงบ้าน เธอก็แอบคิดเหมือนกันว่าที่เธอพูดไปแบบนั้น เขาอาจจะโกรธ อาจจะงอน จนไม่อยากจะคุยกับเธออีกก็ได้ แต่พอวันนี้มันทำให้เธอรู้ว่าเธอคิดผิดไปจริงๆ "ผมไม่โกรธหรอกครับ คุณวานิลเหนื่อยจริงๆ ผมเองแหละที่ผิด ตามตื๊อคุณวานิลไม่เลิก" "เฮ้อ...นายนี่มันเหนือความคาดหมายฉันจริงๆ นะ" "เข้าไปแต่งตัวสิครับ เดี๋ยวออกไปพร้อมกัน" "แล้วถ้าฉันบอกว่าฉันไม่ไปล่ะ" "ถ้าอย่างนั้นผมก็จะขออนุญาตเข้าไปในบ้าน เดี๋ยวผมทำอะไรให้กินครับ" "....." วานิลทำหน้าเหลือเชื่อ เด็กคนนี้นี่มันตามตื๊อเก่งจริงๆ เลย ทั้งที่เธอพูด แสดง ทำอะไรต่อมิอะไรว่ารำคาญบ้าง ไม่ชอบบ้าง เบื่อบ้าง แต่เด็กคนนี้กลับไม่มีความรู้สึกโกรธเคืองอะไรเลย เป็นคนอื่นคงจะโกรธเธอมากแล้วแท้ๆ ศรัณย์เด็กกว่าเธออยู่หลายปี และก็ไม่คิดด้วยว่า จะถูกเด็กตามตื๊อแบบนี้ แถมยังเป็นเด็กเสิร์ฟที่ทำงานอยู่ที่กาสิโนที่เธอเป็นเจ้าของอีก นี่ถ้าคบกันจริงๆ เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าข่าวจะออกมาแบบไหน คงได้พาดหัวข่าวตัวโตๆ แน่ ว่าวานิลเจ้าแม่กาสิโนคว้าเด็กเสิร์ฟที่อายุน้อยกว่าหลายปีมากิน "นะครับคุณวานิล ถ้าเกรงใจคุณวานิลเลี้ยงก็ได้ครับ" "ไอ้บ้า! ชวนฉันออกไปกินข้าว แต่ให้ฉันเลี้ยงข้าวเนี่ยนะ" "ก็ผมกลัวคุณวานิลเกรงใจนี่ครับ" "....." "ไปเถอะนะครับ ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือเลย กว่าคนขับรถของคุณวานิลจะมารับ" "เออๆ ไปก็ได้ รออยู่ตรงนี้แป๊บนึงก็แล้วกัน" พูดจบเธอก็รีบเดินเข้าไปในบ้าน รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ที่จริงก็อยากจะปฏิเสธอยู่หรอกนะ แต่ก็โดนตามตื๊อซะขนาดนี้ ถ้าไม่ไปมีหวังเด็กนั่นเข้ามาในบ้านของเธอแน่ๆ ใครจะให้เข้าบ้านกัน อุตส่าห์รักษาระยะห่างแล้วแท้ๆ แต่เด็กนี่ก็ตามตื๊อไม่เลิกเลย วุ่นวายไปซะทุกที่จริงๆ ไม่นานวานิลก็ออกมาจากนั้นก็ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของศรัณย์ ออกไปนั่งกินโจ๊กที่หน้าปากซอยฝั่งโน้นด้วยกัน อยู่ที่บ้านเธอมักจะทำอะไรกินเอง ไม่ค่อยออกไปซื้ออะไรเท่าไหร่ นี่คงเป็นครั้งแรกเลยมั้ง เขาคงเป็นครั้งแรกเลย เป็นหลายๆ อย่างของเธอ คนแรกที่เป็นคนแปลกหน้าที่เธอคุยด้วยมากที่สุด คนแรกที่เธอยอมไปไหนด้วย ทั้งที่เพิ่งจะรู้จักได้ไม่นาน คนแรกที่เธอเปิดใจรับฟังปัญหาของใคร ทั้งที่ปกติเธอไม่ค่อยพูดคุยกับใคร และก็ไม่อยากฟังใครพูดอะไรด้วย อย่าบอกนะว่าเธอกำลังมีใจให้เด็กแล้วจริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม