นักรบ...
ผมกับไอเดียถามทางจากแม่อุ้ยพอจำทางได้แล้วก็ไหว้ลาแม่อุ้ย หลังจากนั้นผมกับเธอก็พากันเดินข้ามสะพานลำน้ำที่เรามาอาบน้ำกันเมื่อคืน แม่อุ้ยบอกว่าถ้าไปทางนี้จะถึงเร็วกว่าไปทางอื่น
"นักรบ"
"มีอะไร" ผมหันไปถามคนที่เดินตามหลังเธอมองลงไปในน้ำด้วยสีหน้าหวาดกลัว
"นายว่าจะใช่ที่นี่ไหมที่ลูกชายลุงชัยแกกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย"ไอเดียถามผมเสียงสั่น ที่แท้เธอก็กลัว
"เธอเลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้ว"
"ก็มันอดคิดไม่ได้นี่นานายก็รู้ว่าฉันกลัวผี"
"นี่มันตอนเช้าผีที่ไหนจะมาให้เห็น"
"ไม่รู้อ่ะกลัวไว้ก่อน นายก็อย่าเดินเร็วนักสิรอฉันด้วย" ไอเดียวิ่งมาหาผมเพราะเธอเดินช้า
"ก็เธอมัวแต่เดินช้าเมื่อไหร่จะถึงสักทีงั้นเธอมาขี่หลังฉันนี่มาจะได้ถึงเร็วๆ"
"อื้มมม"
"ไม่ปฏิเสธเลยนะขี้เกียจเดินล่ะสิ" ผมแซวคนที่ขี่หลังผมอยู่
"ช่วยไม่ได้ก็นายบอกฉันเดินช้าเองนี่เพราะฉะนั้นห้ามว่าอะไรฉัน มีหน้าที่เดินก็เดินไป" ผมยิ้มก่อนจะเดินไปเรื่อยๆไม่รีบจากตอนแรกว่าจะรีบๆเดินเพื่อให้ถึงหมู่บ้านเร็วๆแต่พอไอเดียขี่หลังผมก็เลยเดินช้าลงเพราะอยากใช้เวลาอยู่กับเธอนานๆ ไหนๆเราก็ไม่หลงทางแล้วไม่ต้องรีบก็ได้
"ไอเดีย"
"หื้มมม"
"ถ้าเธอเรียนจบแล้วเธอจะไปทำงานต่างประเทศเหรอ"
"อื้มมม เพราะมันคือความฝันของฉัน ฉันอยากย้ายตัวเองไปอยู่ในที่ที่ฉันคิดว่ามันจะทำให้ชีวิตของฉันดีขึ้นกว่านี้เพราะอยู่ที่นี่ฉันก็ไม่มีใคร พ่อแม่ก็ไม่มีญาติมีก็เหมือนไม่มีพวกเขาเอาเปรียบฉันมาตลอดฉันอยากจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่ใหม่ๆ เห้อแค่คิดก็มีความสุขแล้ว"
"แล้วเธอไม่คิดถึงใครเลยเหรออย่างเพื่อนเธอพี่ปุ้ยอ่ะ"
"คิดถึงสิแต่ฉันก็ต้องไปตามความฝันของฉันส่วนยัยปุ้ยพอเรียนจบมันก็คงแต่งงานกับแฟนของมันมีครอบครัวที่อบอุ่น"
"แล้วเธอไม่คิดจะมีครอบครัวที่อบอุ่นบ้างเหรอ"
"เคยสิทำไมจะไม่เคยแต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก"
"ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ"
"เพราะสเป๊กฉันมันสูงมากยังไงล่ะถ้าไม่ได้ตามนั้นฉันก็ไม่เอาอยู่คนเดียวดีกว่า"
"อยู่คนเดียวมันเหงาน๊าาา"
"ฉันก็อยู่คนเดียวมาตั้งนานหลายปีจนมีนายเข้ามานี่แล่ะ"
"แล้วพอมีฉันเข้ามาชีวิตเธอเปลี่ยนไปยังไง"
"ก็..จากที่อยู่อย่างสงบสุขก็กลายมาเป็นชีวิตที่วุ่นวายยังไงล่ะเพราะนายชอบกวนประสาทฉัน"
"แล้วเธอคิดว่าเธอชอบแบบไหนมากกว่ากันระหว่างอยู่คนเดียวแบบเหงาๆกับมีฉันกวนประสาทอยู่ใกล้ๆ"
".............." พอผมถามไอเดียก็เงียบไปไม่รู้เธอคิดอะไรเธอถึงไม่ตอบ
ไอเดีย...
"แล้วเธอคิดว่าเธอชอบแบบไหนมากกว่ากันระหว่างอยู่คนเดียวแบบเหงาๆกับมีฉันกวนประสาทอยู่ใกล้ๆ"
".............." ฉันไม่สามารถตอบได้จริงๆกับสิ่งที่เขาถาม ฉันไม่รู้ว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน แต่ฉันยอมรับว่าฉันมีความสุขมากกว่าแต่ก่อนเหมือนตัวเองมีเพื่อนมันไม่เหงาเหมือนแต่ก่อนเวลาอยู่ห้องคนเดียวถึงเขาจะชอบยั่วโมโหให้ฉันโกรธอยู่บ่อยๆก็ตาม
"ฉันอยากให้เธอชอบเวลาที่เธออยู่กับฉันนะเพราะฉันมีความสุขมากเวลาที่อยู่กับเธอ"
เขาพาฉันเดินมาจนถึงหมู่บ้านพอทุกคนเห็นฉันกับนักรบทุกคนก็รีบวิ่งมาหาโดยเฉพาะยัยปุ้ยที่วิ่งนำหน้าทุกคนมาเลยมันวิ่งเข้ามากอดฉันแล้วก็ร้องไห้
"ฮือออ แกเป็นยังไงบ้างฉันเป็นห่วงแกแทบแย่เลย"
"ฉันไม่เป็นอะไรแค่หลงป่าเท่านั้นเอง"
"แล้วนี่แกเป็นอะไรบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าแล้วแกหิวข้าวมั้ย"
"ฉันไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแต่ก็รู้สึกหิวแล้วอ่ะเมื่อเช้ากินข้าวไปหน่อยเดียวเอง"
"ถ้างั้นฉันจะพาแกไปกินของอร่อยๆนะ"
"อื้มมม"
ยัยปุ้ยพาฉันเดินมาที่โรงครัวเพื่อมาขอข้าวจากป้าแม่ครัว ฉันยิ้มให้กับทุกคนก่อนจะรับจานอาหารมานั่งกินที่โต๊ะจากนั้นยัยปุ้ยก็ซักถามฉันว่าเมื่อคืนฉันไปนอนที่ไหนมาฉันก็บอกมันทั้งหมด
"หนู หนูบอกว่าหนูไปนอนหมู่บ้านโน้นมาเหรอ" เป็นคุณป้าวัยกลางคนที่ถามฉัน
"ใช่ค่ะ หนูไปนอนบ้านแม่อุ้ยมาค่ะ"
"อ่อ บ้านแม่อุ้ยคำแปงน่ะเหรอ "
"คุณป้ารู้จักแม่อุ้ยด้วยเหรอคะ"
"รู้จักสิทำไมจะไม่รู้จักเมื่อก่อนเราสองหมู่บ้านรักใคร่ปรองดองกันมีอะไรก็แบ่งปันกันจนกระทั่งเกิดเรื่อง เห้ออออ"
"นังสมเอ็งเลิกพูดถึงเรื่องนั้นได้แล้วมันผ่านมานานแล้ว" คุณป้าอีกคนทัก
"แต่ลุงกำนันแกเป็นบ้าก็เพราะเรื่องนี้จนป่านนี้ก็ยังไม่หายเลยนะเอ็ง"
"ลุงกำนันที่เป็นพ่อของผู้หญิงคนที่ฆ่าตัวตายใช่ไหมคะ"
"เอ็งรู้ด้วยเหรอนังหนู"
"ค่ะพอดีแม่อุ้ยเล่าให้ฟังน่ะค่ะ"
"เรื่องอะไรแกเล่าให้ฉันฟังด้วยสิ" ฉันเล่าให้ยัยปุ้ยฟังพอมันฟังมันก็ร้องไห้เพราะสงสารคนทั้งคู่
"น่าสงสารจังเลยอ่ะ"
"แล้วตอนนี้ลุงกำนันอยู่ไหนเหรอคะ"
"ก็อยู่บ้านแกนั่นแล่ะตั้งแต่ลูกสาวแกเสียแกก็เป็นบ้าพูดคนเดียวคุยคนเดียวเมียแกก็เลยหอบเงินหนีไปมีผัวใหม่ที่กรุงเทพโน่นเพราะทนสภาพผัวเป็นบ้าไม่ไหว"
หลังจากกินข้าวอิ่มแล้วฉันกับยัยปุ้ยก็เตรียมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเพื่อจะเอาไปให้ลุงกำนันเพราะยัยปุ้ยบอกว่าไม่มีใครกล้าเอาของไปให้เพราะลุงกำนันแกเป็นบ้าโมโหร้ายไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ฉันก็เลยอาสาจะเอาของไปให้แกเพราะฉันสงสารแก จุดประสงค์ที่เราทุกคนมาที่นี่ก็เพื่อมาช่วยเหลือคนในหมู่บ้านทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนบ้าเราก็ไม่ควรละเว้น
"มีใครอยู่มั้ยคะ" ฉันตะโกนเข้าไปในบ้านที่ถูกปิดเงียบเหมือนไม่มีใครอยู่แต่ชาวบ้านบอกว่าลุงกำนันแกอยู่ข้างใน ฉันถามชาวบ้านว่าแล้วทุกวันนี้ลุงแกกินอยู่อะไรทุกคนก็บอกว่าแกมีญาติอยู่ญาติก็ทำมาให้แต่ห้อยไว้หน้าบ้านเพราะไม่มีใครกล้าเข้าไปกลัวแกจะทำร้ายเพราะแกคิดว่าทุกคนคือคนที่ทำให้ลูกสาวแกตาย
"ฉันว่าเราแค่เอาของห้อยไว้ที่รั้วหน้าบ้านแกก็ได้นะเดี๋ยวแกก็คงออกมาเอาเอง" ยัยปุ้ยบอกฉัน แต่ฉันอยากเจอลุงแกมากกว่าฉันอยากให้แกไปรักษาตัวเพราะถ้าปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ๆมันอันตรายทั้งกับตัวแกเองและคนอื่นๆในหมู่บ้าน ที่ฉันรู้สึกเป็นห่วงลุงกำนันเพราะฉันเองก็เคยสูญเสียคนที่ฉันรักเหมือนกันนั่นก็คือพ่อกับแม่ของฉันเองฉันเข้าใจความรู้สึกของแกดี ฉันตัดสินใจเปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้านของแก
"ลุงกำนันคะลุงกำนัน หนูเป็นนักศึกษาเอาของมาให้ค่ะ" ฉันตะโกนเข้าไปในบ้านอีกครั้งก่อนจะลองเปิดประตูเข้าไปและสภาพที่ฉันเจอก็คือลุงกำนันแกนั่งกอดตุ๊กตาแล้วก็ร้องไห้พูดจาไม่รู้เรื่อง
"ลุงกำนันคะ" พอแกได้ยินเสียงฉันแกก็รีบหันมา
"ลูกจันทร์ ลูกจันทร์ลูกพ่อ ลูกยังไม่ตายลูกกลับมาหาพ่อแล้ว ฮือออ ลูกจันทร์ของพ่อ" ลุงกำนันวิ่งมากอดฉันแล้วก็ร้องไห้
"เอ่อคุณลุงคือคนนี้ไม่..." ยัยปุ้ยกำลังจะพูดว่าฉันไม่ใช่ลูกของแกแต่ฉันก็ห้ามไว้ด้วยสายตา
"ใช่ค่ะหนูคือลูกจันทร์"
"ฮือออ ลูกพ่อ พ่อขอโทษ ฮือออ พ่อทำร้ายจิตใจลูกจนลูกต้องคิดสั้นฆ่าตัวตายพ่อขอโทษ ฮือออ ฮือออ"
"ไอเดียเธอทำอะไรของเธอวะ ออกมา" นักรบที่ฉันไม่รู้ว่าเขามาตอนไหนแต่พอเขาพูดจบประโยคลุงกำนันแกก็มีท่าทีเกรี้ยวกราด
"ไอ้โชคมันทำให้ลูกกูตาย มึงอย่าอยู่เลย" ลุงกำนันผลักฉันและพุ่งตรงเข้าไปหานักรบเพราะคิดว่าเป็นคนรักของลูกสาว ฉันกลัวว่านักรบจะถูกทำร้ายก็เลยรีบเข้าไปดึงตัวกำนันและโกหก
"หนูยังไม่ตายค่ะพ่อ หนูลูกจันทร์ลูกของพ่อยังอยู่ตรงนี้หนูไม่ได้ตาย พี่เอ่อพี่โชคเค้าไม่ได้ทำให้หนูตายนะคะ"
"จริง จริงด้วยลูกจันทร์ลูกพ่อยังอยู่กับพ่อ เออ5555ใช่จริงๆด้วยลูกยังไม่ตาย ฮือออ ลูกยังไม่ตาย ฮือออ" ลุงกำนันเลิกสนใจนักรบแล้วหันมากอดฉันด้วยความดีใจทั้งน้ำตาเพราะแกยังคงคิดว่าฉันคือลูกสาวของแก ฉันขยิบตาบอกนักรบให้เล่นไปตามน้ำไปก่อนอย่าพูดอะไรที่ทำให้ลุงกำนันแกโกรธ
"พ่อหิวข้าวมั้ยคะหนูเอาข้าวมาให้พ่อด้วยนะคะ"
"หิว หิว พ่อหิวข้าว ไหน ไหนเอาข้าวมาให้พ่อพ่อจะกินข้าว" ฉันหันไปหายัยปุ้ยที่ยืนทำหน้าไม่ถูกเพราะมันคงไม่คิดว่าฉันจะสวมรอยเป็นลูกสาวลุงกำนัน ฉันส่งซิกให้มันว่าให้มันไปเอาข้าวมา มันก็เลยรีบไปเอาข้าวที่โรงครัวมาให้ลุงกำนัน
ตอนนี้ลุงกำนันกำลังนั่งกินข้าว แกคงจะหิวมากฉันไม่รู้ว่าแกกินข้าวที่ญาติแกเอามาให้บ้างหรือเปล่าเพราะแกผอมมากจนเห็นกระดูก
"พ่อกินเยอะๆนะคะ" ฉันบอกลุงกำนันซึ่งพอฉันบอกให้แกกินเยอะๆแกก็ยอมกินอย่างง่ายดาย ส่วนนักรบฉันรู้ว่าเขาก็คงเป็นห่วงฉันเพราะไม่รู้ว่าอาการลุงกำนันจะกำเริบมาตอนไหนฉันกลัวอย่างเดียวว่าพอแกได้สติแกจะรู้ว่าฉันไม่ใช่ลูกสาวของแก ตอนนี้ฉันอยากพาแกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลซึ่งที่เชียงใหม่มีโรงพยาบาลประสาทอยู่ ถ้าแกไปรักษาตัวที่นั่นฉันคิดว่าแกคงจะอาการดีขึ้น
"อิ่มแล้วพ่ออิ่มแล้ว"
"งั้นพ่อกินน้ำนะคะแล้วก็กินยาด้วยนะคะเป็นยาบำรุงพ่อจะได้แข็งแรงอยู่กับหนูไปนานๆ" ฉันเพิ่งรู้จากยัยปุ้ยว่าชาวบ้านบอกว่าลุงกำนันแกเป็นโรคความดันด้วยแต่ยาแกก็ไม่ค่อยยอมกินยัยปุ้ยก็เลยไปขอยามาจากอนามัยเพราะแกมีประวัติที่นั่นแล้วเอายามาให้ฉัน ฉันก็เลยบอกให้แกกินยา
"ลูกจันทร์ ลูกกลับมาอยู่กับพ่อเหมือนเดิมแล้วใช่ไหม"
"เอ่อ คือ..."
"ว่าไงลูกลูกกลับมาอยู่กับพ่อแล้วใช่ไหมลูกจะไม่จากพ่อไปอีกแล้วใช่ไหม" ฉันไม่รู้จะตอบแกว่ายังไงเพราะตอนแรกฉันก็ลืมคิดถึงข้อนี้ไปเลย ฉันจะอยู่กับแกได้ยังไงเพราะฉันไม่ใช่ลูกสาวแก
"ใช่ครับลูกจันทร์จะอยู่กับลุงกำนันที่นี่รวมถึงผมด้วยเพราะผมกับลูกจันทร์เรารักกัน"
"ไอ้โชคเอ็งกลับไปเลยข้าไม่ยอมรับเอ็งเป็นลูกเขยหรอกนะกลับไป ไป๊!!!" ลุงกำนันแกเริ่มอาละวาดซึ่งมีแค่ฉันคนเดียวที่จะทำให้แกสงบลงได้
"เอ่อพ่อคะพ่ออย่าไล่..พี่โชคเลยนะคะ เราสองคนรักกันพ่อให้เราสองคนอยู่ด้วยกันเถอะนะคะ ถ้าพ่อให้เราอยู่ด้วยกันเราสองคนจะดูแลพ่อเองค่ะ"
"แต่มันเป็นคนจนนะลูก ลูกจะอยู่กับคนจนๆแบบมันได้ยังไง"
"ได้คะหนูอยู่ได้ นะคะพ่อพ่อให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกันเถอะนะคะหนูขอร้อง" ตอนนี้ทุกคนเหมือนกำลังลุ้นกับคำตอบของลุงกำนัน ฉันอยากให้แกหลุดพ้นจากความรู้สึกผิดในใจถึงแกจะเป็นบ้าอยู่ก็ตาม ที่แกเป็นบ้าแบบนี้ฉันคิดว่าแกคงจะรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยที่ทำให้ลูกแกตายไม่อย่างงั้นแกคงไม่ร้องไห้คร่ำครวญขอโทษลูกแบบนี้หรอก
"ได้ ได้ พ่อจะยอมให้ลูกแต่งงานกับไอ้โชค ไอ้โชคเอ็งให้พ่อแม่เอ็งยกขันหมากมาสู่ขอลูกข้าเดี๋ยวนี้" ทุกคนหันไปทางนักรบกันหมด ฉันส่งซิกให้เขาพยักหน้า
"เอ่อได้ครับลุงกำนัน"
นักรบ....
เหมือนผมตกกระไดพลอยโจร ผมต้องไปยกขบวนขันหมากมาจากที่ไหนวะพ่อแม่ผมก็อยู่ต่างประเทศ แต่ด้วยความฉลาดของผมผมคิดว่าผมคงต้องกลับไปที่หมู่บ้านของแม่อุ้ยเพื่อขอให้ทุกคนที่หมู่บ้านช่วย แต่พอไปถึงผมก็ถูกลุงชัยไล่ตะเพิดหาว่าผมบ้าตามลุงกำนันจนแม่อุ้ยต้องมาพูดทำความเข้าใจ แม่อุ้ยบอกว่าอยากให้ลุงชัยทำเพื่อลูกเป็นครั้งสุดท้ายเพราะนี่มันอาจจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้คนทั้งคู่ได้ถึงพวกเขาจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว
ในที่สุดผมก็ยกขบวนขันหมากมาได้สำเร็จซึ่งทุกคนในหมู่บ้านต่างก็ให้ความร่วมมือกันจนทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
"ขอบใจมากนะ ขอบใจ ฮือออ ฮืออออ" ลุงกำนันร้องไห้แล้วก็กอดผมแน่นผมไม่รู้ว่าแกขอบใจใครขอบใจผมหรือขอบใจพี่โชคลูกลุงชัยที่เสียไปแล้ว
"ข้าขอบใจเอ็งมากนะไอ้ชัยที่ทำเพื่อลูกของเราถึงแม้ว่าเขาสองคนจะไม่อยู่แล้วก็ตาม" แล้วทุกคนก็งงเป็นไก่ตาแตกเมื่อได้ยินลุงกำนันพูด นี่ก็แสดงว่าแกรู้มาตลอดเหรอว่าผมกับไอเดียไม่ใช่พี่โชคกับลูกจันทร์
"ลุงกำนันคะ"
"ลุงขอบใจเอ็งมากนะนังหนู เอ็งเป็นคนดีมากเอ็งด้วยไอ้หนุ่มที่ยอมทำตามที่ลุงขอร้อง"
"มึงหายบ้าละกาไอ่กำนัน"
"เมื่อคืนลูกจันทร์กับไอ้โชคลูกชายเองมาเข้าฝันข้ามาบอกตอนนี้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันแล้วให้ข้าเลิกโทษตัวเองได้แล้ว ขอขอโทษเองด้วยนะไอ้โชคที่เป็นต้นเหตุให้ลูกชายเอ็งตาย"
"เรื่องมันก่อผ่านมาเมินละ ป่านนี้ลูกคิงกับลูกฮาคงไปเกิดใหม่ละเรื่องที่แล้วมาก่อหื้อมันผ่านไป ฮาขออโหสิกรรมหื้อคิงละกันไอ่กำนัน"
ผมดีใจนะที่ได้ยินแบบนี้ ผมหันไปจับมือไอเดียที่นั่งอยู่ข้างๆกันในชุดแต่งงานแบบคนพื้นเมืองที่คนในหมู่บ้านหามาให้ใส่เพราะทุกคนอยากให้งานออกมาสมบูรณ์ที่สุดแม้จะรู้ว่าเป็นงานแบบหลอกเท่านั้น
ตอนนี้ทั้งสองหมู่บ้านต่างก็กลับมาสามัคคีกันเหมือนเดิม ลุงกำนันแกก็ไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลซึ่งแกเป็นคนขอไปเอง
ผมไม่คิดเลยว่าการมาเข้าค่ายอาสาครั้งนี้จะมีเรื่องราวมากมายที่จะทำให้ผมกับไอเดียไม่มีวันลืมเลยเพราะ...
"คุณสองคนไม่ต้องกลัวพวกเราหรอกนะเพราะเราสองคนจะมาขอบคุณพวกคุณไม่ได้มาหลอกอะไรทั้งนั้นขอบคุณนะที่ทำให้เราได้แต่งงานกันจริงๆ ฉันขอขอบคุณเธอมากนะที่ทำให้พ่อฉันอาการดีขึ้น"
"ฮืออออไม่ต้องมาขอบคุณกันแบบนี้ก็ได้ ฉันกลัวผี ฮือออ ฮืออออ" ไอเดียนั่งกอดผมตัวสั่นเพราะสิ่งที่อยู่หน้าที่เรียกว่า..ผี
สปอยล์
ที่นี่ที่ไหนน๊าาาา แล้วคนนี้ผัวใครน๊าาาา
ไอเดียผัวแกโคตรงานดีเลยอ่ะ ฉันชักจะติดใจแล้วสิ
ฉันขอยืมผัวแกนอนกกสักคืนนะ...แก้วตา