ลูกกวางน้อย

1559 คำ
ตอนที่ 9 ลูกกวางน้อย “ได้ครับ พรุ่งนี้ทางเราจะถอดถอนรายชื่อของคุณวัฒนาออกจาฝังบอร์ดและแจ้งคืนทุนให้ตามที่คุณต้องการ” อัครเรช เอ่ยเสียงราบเรียบ กุมมือเรียวแข็งขึ้นมาสอดประสานกันไว้ ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “ทุนต้นของคุณอยู่ที่หกสิบล้านสัดส่วนสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของทุนทั้งหมด ร่วมทุนกับวิโรทัยมาสิบปีหกเดือนกับอีกสองวัน โดยบริษัทจ่ายปันผลให้ทุกปีที่มีกำไรมาเจ็ดปี ในสามหลัง” คำกล่าวของเขาทำให้คนในห้องประชุมมองหน้ากัน ถึงข้อมูลที่แน่นเป๊ะทั้งที่เข้ามาเทคโอเวอร์ได้ไม่กี่วัน “ใช่” วัฒนาพยักหน้ารับ สบตาคู่สีมรกตนิ่ง “ดังนั้นในช่วงขาดทุนสามปีตามสัดส่วนของผู้ถือหุ้นคุณต้องเพิ่มทุนให้บริษัทร่วมกับคนอื่น อีกประมาณร้อยยี่สิบล้าน หักลบกับทุนเดิม คุณต้องจ่ายเพิ่มให้วิโรทัยอีกประมาณ ห้าสิบล้านสี่แสนสองหมื่นสามพันหกร้อยยี่สิบบาทถ้วน สำหรับการถอดถอนชื่อในครั้งนี้” “วะ .ว่าไงนะ” มันเรื่องบ้าบออะไรกัน ทำไมเขาต้องมารับผิดชอบต่อการบริหารที่ห่วยแตกของครอบครัวพี่ชาย ทั้งที่ตลอดมาเขานั่งอยู่เฉยๆ เข้าประชุมแค่เดือนละครั้ง ก็มีเงินเข้ามาตลอด “นี่ข้อมูลการเงินทั้งหมดครับ” อัครเรช ยื่นเอกสารตรงหน้า พร้อมให้คนของเขาฉายจอมิเตอร์ขึ้นในห้องประชุม ทำให้ทุกคนตาลุกวาวเมื่อเห็นตัวเลขทั้งหมดที่โดนโยกไปยัง วัฒนาผู้ถือหุ้นคนนี้ ที่ผ่านมาบิดาของเธอ จ่ายปันผลให้อาทั้งที่ไม่มีกำไร “ชะ..ชั้นไม่ยอมให้เป็นแบบนี้หรอก” วัฒนากัดฟันกรอด เมื่อเห็นข้อมูลทั้งหมด และคนในห้องประชุมเริ่มมันมามองเขาเป็นตาเดียว “ไม่อยากเลยครับข้อมูลพวกนี้สามารถใช้ในศาลได้ ถ้าคุณวัฒนาไม่เห็นด้วยที่จะจ่าย แต่ถ้าฟ้องดูแล้วยังไงวิโรทัยก็ชนะแน่นอน” อัครเรชเอ่ยเสียงเข้ม ดักคอไว้ทุกทาง วัฒนากุมมือแน่น รู้สึกพลาดที่เอ่ยปากว่าต้องการถอนหุ้นออก และในตอนนี้เขาคงจะถอยจากตรงจุดนี้ยากเสียแล้ว “แป้ง อาขอเวลากลับไปคิดดูก่อนสักพัก อย่าเพิ่งถอนชื่อของอาออกจากบอร์ดนะ” สุดท้ายเขาต้องหันมาบอกหลานสาว ที่นั่งอยู่บนหัวโต๊ะ มองกระดาษที่กระจัดกระจายเต็มพื้นเพราะฝีมือเขาเอง “แป้งตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ค่ะ ต้องมติในที่ประชุม” ศรัญญาถอนหายใจ เหลือบมองแววตาคู่สีมรกตที่อยู่ตรงหน้า แล้วเบือนหน้าเล็กน้อยเมื่อเขามองเหมือนจะตำหนิเธอ ลูกกวางน้อยใจอ่อนเสมอ แม้แต่กลับคนที่จะล่าตัวเอง สุดท้ายคนในที่ประชุมก็ยกมือยื้อให้กับวัฒนาเกินครึ่งรวมทั้งศรัญญาด้วย “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว อากลับก่อนนะว่าจะแวะไปเยี่ยมเจียงที่โรงพยาบาลด้วย” อาวัฒนาของเธอเอ่ย ก่อนจะเดินออกจากห้องประชุม . . หลังจากประชุมเสร็จแล้ว ศรัญาญากลับเข้ามาทำงานในห้องต่อ ส่วนหนึ่งเพื่อระงับสติอามรณ์ของตัวเอง เมื่อรู้ว่าที่ผ่านมาการบริหารของพ่อกับผู้เป็นอา มีความเลื่อมล้ำเพียงใด จนสมบัติของที่บ้านของเธอแทบจะไม่เหลือให้นำมาอุดรูรั่วของบริษัทอีกต่อไป หญิงสาวถอนหายใจเล็กน้อย มองลงไปยังหน้าต่างด้านล่าง เห็นรถมินิแวนสีดำของสิริวัฒนาจอดอยู่ ก่อนที่ร่างสูงโปร่งของ อัครเรช จะเดินเข้ารถที่คนของเขาเปิดประตูไว้รออยู่แล้ว เหมือนหน้าหล่อเหลานั้นจะหันมามองเธอที่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง จนศรัญญาต้อเบือนหน้าและหันเก้าอี้กลับมายังโต๊ะทำงาน ปากหยักได้รูปของอัครเรช ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอนหลังลงพิงพนักเบาะ ความจริงเขาไม่ต้องเขามาร่วมประชุมที่วิโรทัยก็ได้ แค่ธุรกิจของเขาเองก็ล้นมืออยู่แล้ว เพียงแต่เขาอยากดูความเน่าเฟะภายในของที่นี่เท่านั้น แต่เบื้องต้นเขาจะให้โอกาสเจ้าลูกกวางน้อยบริหารจัดการไปก่อน และจากนั้นเขาจะเก็บกวาดให้สิ้นซากเอง “จัดการมันเรียบร้อยมั้ย” อัครเรชเอ่ยถามเสียงเข้ม มือหยิบแว่นตาดำออกมาสวมทับดวงตาคู่สีมรกตที่แพ้แสงแดดง่าย “เรียบร้อยครับนาย” “ดีมาก” อย่างน้อยตอนนี้เขาก็จัดการคนที่อยู่เบื้องหลังในการฆาตกรรมพ่อกับแม่ของเขาแล้ว ด้วยวิธีการของเขาเอง แม้ต่อไปเขาเองจะต้องเผชิญกับอันตรายรอบด้านก็ตาม “ไปที่โกดังมั้ยครับนาย” “ไม่” อัครเรชปฎิเสธ “พาฉันกลับบ้าน ฉันอยากเล่นเปียไน” นายน้อยของสิริวัฒนาบอก . . ศรัญญา ไปเยี่ยมบิดาที่โรงพยาบาลในวันต่อมา หลังถูกปรามเรื่องของ อาวัฒนาที่ยังไม่ต้องการให้เธอถอดถอนรายชื่อของเธอออกจากผู้ถือหุ้น นั่นทำให้หญิงสาวบ่นอย่างน้อยใจที่ปัญหาปั่นป่วนทุกอย่างมาจากน้องชายพ่อแท้ๆ แต่จะต้องสร้างความลำบากใจให้เธอต่อไป “อ้าวแป้ง วันนี้ไม่เข้าออฟฟิศเหรอ” ศรีกัลยาพี่สาวทัก เมื่อเห็นน้องสาวเดินเข้ามาในร้านเบอร์เกอรี่ของตัวเองด้วยหน้าตาที่บอกบุญไม่รับ ศรัญญายิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง “อาวัฒนี่สุดยอดเลยอะพี่ปลา แป้งกลัวว่าหลังระดมทุนแล้วจะยังสร้างผลกำไรต่อไม่ได้จัง” ศรัญญากล่าวอย่างกังวล แม้ตอนนี้พี่สาวตัวเองจะถอดใจจนต้องหันมาทุ่มเทกับร้านขนมที่ทำด้วยทุกอย่างด้วยตัวเองแล้ว แต่เธอก็ยังอยากทำให้ธุรกิจของบ้านพลิกฟื้นกลับมาอีกครั้ง “ไหวมั้ยอะแป้ง อย่าหักโหมมากนะถ้าฝืนเกินก็ปล่อยไป” พี่สาวเอ่ยอย่างเป็นห่วง ยกจานเค้กส้มกับกาแฟร้อนมาเสริ์ฟให้ มองหน้าที่เหมือนจะเหนื่อยอ่อนของน้องสาวอย่างเห็นใจ “ไหวซิพี่ปลา แป้งจะทำให้ได้” ศรัญญาเอ่ยเสียงเข้ม แม้เธอจะอายุเพิ่งจะยี่สิบปีแต่เมื่อคิดถึง อัครเรชแล้วนับว่าเขาเข้มแข็งกว่าเธอเยอะมากๆ “เค้กที่สั่งได้แล้วใช่มั้ยปลา” เสียงนุ่มหูดังขึ้นด้านหลัง ทำให้ศรัญญาหันไปมองและสบตากับหน้าตี๋ของ โอภาสที่ก้าวเข้ามาในร้านและมองอย่างลิงโลดเมื่อเห็นเธอ “อ้าว แป้ง แวะมาที่ร้านปลาเหรอ บังเอิญจังเลยพอดีพี่สั่งเค้กไว้สองปอนด์” น้ำเสียงที่สดในและแววตาวาววับที่มองศรัญญาของโอภาสนั้น ทำให้ศรีกัลยา ที่ถือกล่องเค้กออกมาให้ชะงักเล็กน้อย ก่อนที่จะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง แววตาของทายาทศรีพิพัฒน์จะสดใสทุกครั้งเมื่อเจอ ศรัญญา เป็นแววตาที่ศรีกัลยาไม่เคยจะได้รับเลย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปยาวนานแค่ไหนก็ตาม “ค่ะ แป้งอยากกินเค้กเลยแวะมาทานฝีมือพี่ปลา” ศรัญญาเอ่ยเสียงอ่อนโยน มองร่างโปร่งในชุดเสื้อเชิ๊ตสีฟ้าที่นั่งลงตรงข้าม คิดถึงเหตุการณ์วันก่อนในห้องทำงานของเธอที่เขามาเกาะกุมมือแล้ว อัครเรชเข้ามาพบก่อน และหลังจากนั้นโอภาส ก็ไม่ได้ติดต่อเธอมาอีกเลย และศรัญญาก็ลืมเรื่องของเขาไปชั่วขณะ “ทานเค้กเสร็จแล้ว ไปกินมื้อเย็นด้วยกันมั้ยครับ มีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ใกล้ๆนี้เอง เดี๋ยวไปรถพี่ก็ได้เดี๋ยวพี่กลับมาส่ง” โอภาสเอ่ยอย่างกระตือรือร้น การเอ่ยชวนทานมื้อเย็นของเขาสร้างความรู้สึกที่แตกต่างให้กับสองสาวพี่น้อง “นะครับ ไปทานกับพี่สักครั้งเถอะ” โอภาสเอ่ยเว้าวอน ศรัญญายิ้มเจื่อนๆ ก่อนที่จะมีเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นในกระเป๋าสะพาย “แป้งอยู่ไหนครับ” เสียงเข้มจากปีศาจน้ำแข็งดังในสาย ศรัญญาโค้งคำนับขอตัวกับคนตรงหน้า ป้องปากปิดโทรศัพท์ไว้ “แป้งคุยเรื่องงานแปปนะคะ พี่โอม” ก่อนจะเดินออกมาคุยห่างๆ “อยู่ร้านพี่ปลาค่ะ คุณเรชมีอะไรมั้ยคะ” ศรัญญาป้องปากคุยสายเบาๆ ร้อยวันพันปี เขาไม่เคยโทรหาเธอเลยสักครั้ง “พี่อยากให้แป้งมาฟังเปียโนที่บ้าน” เสียงราบเรียบจากปลายสายทำให้หญิงสาวชะงัก ..นี่เขาจะให้ไปนั่งเพลงที่เขาเล่นเปียโนงั้นเหรอ “แป้งครับ เดี๋ยวพี่ออกออกไปรอที่รอนะครับ เอารถไว้ที่นี่ก่อนก็ได้” โอภาสตะโกนมาบอก เมื่อลุกจากโต๊ะและเตรียมจะไปรอหญิงสาวนอกร้าน และเสียงบอกนั่นก็ดังเข้าไปในโทรศัพท์ จนอีกฝ่ายได้ยินประโยคดังกล่าวของหนุ่มหน้าตี๋ทายาทศรีพิพัฒน์อย่างชัดถ้อยชัดคำ “คะ..คือ วันนี้แป้ง” ศรัญญาไม่แน่ใจว่าปลายสายได้ยินชัดเจนแค่ไหน และจะรู้มั้ยว่านั่นคือเสียงของโอภาส เพราะเหมือนเสียงของอัครเรช นิ่งเงียบไปสักพัก แต่สุดท้ายเสียงปีศาจน้ำแข็งก็ตอบมาว่า “รอที่ร้านนะครับ ไม่เกินสิบห้านาทีพี่ไปรับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม