รถยนต์สัญชาติยุโรปรุ่นใหม่ล่าสุดสีดำมันวาว แล่นเข้ามาจอดที่ร้านอาหาร ที่เจ้าของงานวันเกิดเหมาร้านเพื่อจัดงานอย่าง เบญญา เพื่อนสาวคนสนิททายาทบริษัทขายอุปกรณ์ก่อสร้าง
ชายหนุ่มลงจากรถพร้อมกับหอบดอกไม้ช่อใหญ่ เดินตรงมายังหน้าร้าน ที่มีเจ้าของวันเกิดยืนอยู่ นำพาสายตาของแขกที่อยู่บริเวณนั้น หันมาให้ความสนใจไม่น้อย
“สุขสันต์วันเกิดครับ มีความสุขมากๆ กิจการรุ่งเรืองนะ” เสียงทุ้มละมุนอบอุ่น มาพร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่ ถูกยื่นมาตรงหน้าเจ้าของวันเกิด เบญญาส่งยิ้มคืนกลับ พร้อมกลับยื่นมือไปรับชื่อดอกไม้มาถือไว้
“เล่นใหญ่มากเลย” กระซิบบอก เมื่อเห็นว่ามีคนหันมาให้ความสนใจ
“แค่เอาดอกไม้มาให้เนี่ยนะ” เอ่ยตอบกลับยิ้มๆ
“ก็เล่นเอามาช่อใหญ่แบบนี้”
“วันเกิดลูกสาวเจ้าของบริษัทขายอุปกรณ์ก่อสร้างทั้งที จะเดินมาตัวเปล่าได้ยังไงล่ะ เสียชื่อเสือหมด” เบญญาส่ายหน้ายิ้มให้เจ้าของคำพูด
“จ้าพ่อหนุ่ม ไม่คิดบ้างหรือไง ว่าหากมีคนเห็นจะเอาไปฟ้องสาวๆ ของเสือ เบญขี้เกียจไปตบตี”
“ก็ไม่เห็นต้องตบตีแย่งกับใครนี่”
“กำลังจะบอกว่าไม่มีใครว่างั้น ตอแหลมาก” พยัคฆ์อมยิ้มไหวไหล่ใส่ ยิ่งทำให้เบญญาหมั่นไส้
“เข้าไปในงานก่อนสิณัฐมาแล้ว เดี๋ยวเบญรับแขกเสร็จจะเข้าไปนั่งด้วย หรือแค่แวะมาอวยพร ไม่ได้คิดจะอยู่ร่วมงาน” เอ่ยตัดพ้อไม่จริงจัง
“เจ้าของงานน่ารักขนาดนี้ ใครจะใจร้ายได้ลงคอ จะอยู่จนงานเลิกเลย หรือว่าอยากจะไปต่อที่ร้านก็ได้นะ เดี๋ยวเลี้ยงเอง”
“เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ แต่ถามหุ้นส่วนด้วยนะว่าโอเคไหม”
“คุยอะไรกันอยู่วะ ทำไมไม่เข้าไปข้างในสักที กูเห็นยืนคุยกันอยู่นานแล้วเนี่ย จีบกันอยู่หรือไง” เสียงพูดดังแทรกเข้ามา พร้อมกับเจ้าของเสียงที่เป็นชายหนุ่มรูปงาม ถูกขนานนามว่าเจ้าชู้ตัวพ่อประจำจังหวัด อย่างณัฐรณเพื่อนสนิทของพยัคฆ์และเบญญา
“เสือกจัง” พูดออกไปยิ้มๆ แต่กลับสร้างความหมั่นไส้ให้คนถูกด่าได้ไม่น้อย
“เออ กูมันเสือก อย่าให้เห็นนะ ว่าแอบไปกินข้าวกันสองต่อสอง”
“ฟ้าผ่าตาย” เบญญารีบตอบกลับ ให้เป็นแฟนกับพยัคฆ์ขออยู่เป็นโสดไปจนตายยังจะดีซะกว่า
“มึงมาทำเรื่องมีสาระให้กูที” พยัคฆ์เอ่ยขอณัฐรณ
“อะไรวะ”
“ถ่ายรูปกูกับเบญให้หน่อย”
“ถ่ายทำไม” เบญญาเอ่ยถาม พยัคฆ์เพียงแค่ยกยิ้มมุมปาก
“นี่อย่าบอกนะว่ามึง...”
“เร็ว”
“ไอ้เสือ มึงนี่มันโรคจิตชะมัด” แม้ปากจะเอ่ยต่อว่าเพื่อนรัก ทว่าณัฐรณก็รับโทรศัพท์จากมือของพยัคฆ์มาแต่โดยดี
เขาสองคนเหมาะสมกันทุกอย่าง
นั่นคือสิ่งศยามลรู้สึกตามที่เห็น หลังจากหญิงสาวได้เห็นรูปถ่าย ระหว่างพยัคฆ์และเบญญา ที่พยัคฆ์อุตส่าห์ส่งมาให้เธอชื่นชมเองด้วยมือของเขา พร้อมกับข้อความปิดท้ายที่ว่า
เธอว่าเบญเขาเหมาะสมกับฉันไหม
เหมาะสมสิ ผู้หญิงในรูปเหมาะสมกับพยัคฆ์ทุกอย่าง ไม่มีอะไรเลยที่ไม่เหมาะสมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา รูปร่างหน้าตา ฐานะทางบ้าน เขาทั้งคู่เหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก
นั่นคือสิ่งที่ศยามล อยากจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
ทว่าเธอก็ทำได้แค่พิมพ์คำว่า ค่ะ ส่งไปเท่านั้น
หากพยัคฆ์คิดจะศึกษาดูใจกับเบญญาจริง ทำไมเขาถึงไม่ปล่อยเธอไปเสียที ทำไมเขาถึงกักขังเธอไว้อยู่ใต้ปีกเขาอยู่แบบนี้ หรือเป็นเพราะว่ายังไม่ถึงเวลา ที่เขาได้ลั่นวาจาออกไปต่อหน้าเสี่ยอำนาจ บิดาของเขาอย่างนั้นหรือ
“ถ้าภายในสองปี ผู้หญิงคนนี้ยังไม่ท้อง พ่อไม่มีสิทธิ์มาบังคับผมอีก อ๋อ! และผมจะมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติเท่านั้น วิธีอื่นไม่ใช้ และถ้าครบสองปีเมื่อไหร่ ผมยังไม่มีลูก ผมจะเฉดหัวผู้หญิงคนนี้ทิ้ง และแต่งงานกับคนที่ผมรัก”
‘ส่วนเธออย่าลืมจัดการความรู้สึกตัวเองให้ได้ด้วยล่ะ เพราะถึงยังไง เธอก็เป็นได้แค่ของเล่นที่มีหน้าที่อุ้มท้องลูกของฉัน อย่าคิดว่าตัวเองคือเมีย ที่ฉันจะยกย่องเชิดหน้าชูตา เป็นได้แค่ที่ระบายความต้องการก็แค่นั้น’
นั่นคือสิ่งที่พยัคฆ์ประกาศใส่หน้าศยามลและเสี่ยอำนาจ ว่าชายหนุ่มพร้อมจะทำตามที่เสี่ยอำนาจต้องการ เหตุผลหลักก็คงเพราะเกลียดขี้หน้าศยามลเข้าไส้ คิดว่าศยามลจะเข้าไปแทนที่มารดาของตัวเองที่เสียไป และยังคิดว่าศยามลเป็นหญิงไม่รู้จักพอ อยากได้ทั้งพ่อและลูก
ศยามลไม่แน่ใจ ว่าค่ำคืนแรกที่เธอตกเป็นของพยัคฆ์ ชายหนุ่มรู้หรือไม่ ว่าเธอยังไม่เคยเป็นของใครมาก่อน เนื่องจากคืนนั้นพยัคฆ์มึนเมาไร้สติ และรุ่งเช้าชายหนุ่มก็ไม่ได้มีทีท่าเปลี่ยนไปจากเดิม มิหนำซ้ำยังพูดจากถากถางใส่เธอด้วยซ้ำ
“สมใจเธอแล้วสิ ได้ทั้งพ่อทั้งลูกเป็นผัว แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะ ว่าฉันจะไม่มีวันให้เธอมาเป็นแม่ของลูกฉันเด็ดขาด เธอต้องกินยาคุม และถ้าเรื่องนี้ถึงหูพ่อขึ้นมาล่ะก็ อย่าหาว่าฉันใจร้ายแล้วกัน”
“ก็ดีเหมือนกัน เพราะพริกก็ไม่ได้อยากให้ลูกเกิดมา โดยที่พ่อกับแม่ไม่ได้รักกัน”
“ดี! จำคำพูดของเธอเอาไว้ดีๆ ล่ะ ถ้าพลาดท้องขึ้นมา ขอให้เธอจำใส่สมองของเธอไว้ ว่าเธอจะไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวลูกฉันเด็ดขาด”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ศยามลบอกกับตัวเองตั้งแต่วันนั้น ว่าเธอจะไม่มีทางรู้สึกอะไรกับผู้ชายใจร้าย ใจดำ อย่างพยัคฆ์เด็ดขาด และเธอจะไม่มีวันพลาดทำให้ลูกเกิดมาแน่ ลูกเธอต้องเกิดมาจากความรักของพ่อและแม่ ไม่ใช่เกิดมาจากความเกลียดชังเช่นนี้ แม้เธอจะรู้สึกดีกับพยัคฆ์มากเกินกว่าที่ควรจะรู้สึกแล้วก็ตาม