EP.3

1985 คำ
หลายวันต่อมา 09.11 AM. "นั้นจะไปไหนน่ะโรส" "บริษัทไงคะ" ฉันละสายตาจากแลมโบกินี่สีส้มของตัวเองพร้อมหันมองแม่ด้วยสายตานิ่งเรียบ "จะไปทำไมกันอยู่บริษัทก็มีลุงดูแลอยู่" "แต่หนูก็เป็นผู้บริหารนะคะแม่" เรื่องเดิมๆที่ต่อให้พูดต่อให้บอกแม่สักพันครั้งก็ไม่ทำให้แม่เข้าใจได้ ฉันเสยผมตัวเองก่อนจะสวมแว่นและกดเปิดประตูรถ "ไม่ต้องรอทานข้าวนะคะ" "แล้วคุณยักษ์ล่ะพี่เขาโทรมาหรือติดต่อมาบ้างไหม?" "ไม่นะคะ" ฉันตอบตามจริงพร้อมก้าวขึ้นรถก่อนจะปิดประตูรถด้วยความหงุดหงิด ต่อให้แม่ถามยังไงเขาก็ไม่โทรมาหรอกเพราะตั้งแต่วันที่เราไปกินข้าวดูตัวกันครั้งนั้นนี่ก็เกือบจะครบอาทิตย์แล้วเขาก็ยังไม่โทรมา จริงๆคือฉันไม่ได้รอเพราะรู้ว่ายังไงเราก็ไม่เหมาะกันแต่แม่นี่สิตามยิกๆเลยอ่ะนี่เลยทำให้ฉันหงุดหงิดแต่เช้าทั้งๆที่อารมณ์ดีที่จะได้ไปทำงานแล้วเชียว เวลาต่อมา เอี๊ยด! ฉันกดเปิดประตูออกพร้อมก้าวลงจากรถที่หน้าบริษัทก่อนพนักงานเก็บรถจะรีบวิ่งมารับกุญแจรถเอารถไปเก็บให้ฉันจึงยื่นกุญแจให้และเดินเข้าถายในตัวตึกสูงสิบห้าชั้นที่ทำงานเกี่ยวกับการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งส่งออกและกระจายสินค้าไปในหลากหลายที่ในประเทศ..ที่นี่เป็นบริษัทของพ่อฉัน พ่อเป็นคนก่อตั้งแต่เพราะท่านจากไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อสี่ปีก่อนตอนนี้คนที่ดำรงตำแหน่งแทนจึงเป็นลุงของฉัน "โรส" คิดถึงลุงลุงก็มา ฉันยิ้มกว้างพร้อมหันหลังกลับไปทักทายลุงตัวเองขณะที่เขาก็ยิ้มให้และเดินมาพร้อมผู้ช่วยเกือบสิบ.. "คุณลุงจะไปไหนคะเนี่ย?" "จะไปประชุมน่ะมีตกลงราคากับบริษัทคุณยุทธจำได้ไหม?" "อ่อ จำได้สิคะเมื่อปีก่อนแม่ยังพาไปดูตัวลูกชายเขาอยู่เลย" ฉันตอบอย่างขำๆขณะที่ลุงก็ยิ้มให้พร้อมมองฉัน "แล้วนี่เข้ามาเซ็นเอกสารหรอ?" "มาดูตัวเลขดูนั่นดูนี่ตามประสาแหละค่ะโรสอยากแบ่งเบาภาระลุงไง" "ลุงล่ะภูมิใจตัวหนูจริงๆโรสลูกหลานคนอื่นเขานี่ไม่เอาการเอางานเลยนะมีหนูนี่แหละดีที่สุด" "ถ้าดีลุงก็ป้อนงานใหญ่ๆมาให้สักทีสิคะไม่ก็ให้โรสเป็นหนึ่งในผู้ช่วยลุงก็ได้นี่" ลุงหัวเราะเบาๆก่อนจะจับให้ฉันและบีบเบาๆก่อนเดินผ่านหน้าฉันไปพร้อมบรรดาพวกผู้ช่วยเขาที่หันมองฉันและโค้งให้ตามมารยาทแต่เชื่อสิถ้าเขาไม่ใช่ลูกน้องลุงคนพวกนี้ไม่ก้มหัวให้ฉันหรอก แต่ถามว่าแคร์ไหมอ่อไม่เลยสักนิด "สวัสดีครับคุณโรส" "วันนี้มีงานอะไรให้โรสทำไหมคะพี่คิน?" พี่คินเขาเป็นพี่ในแผนกที่ฉันได้อยู่แต่มันเป็นแผนกฝ่ายการผลิตที่ควบคุมและดูแลการผลิตและคุณภาพของงานหากแต่มันไม่ใช่แผนกที่ฉันต้องการที่ที่ฉันอยากทำคือแผนกการเงินต่างหากล่ะ "ก็มีแค่ลองไปตรวจหน้างานนั่นแหละครับคุณโรส" "โอเคค่ะเดี๋ยวโรสลงตรวจช่วยงั้นพี่เอาเอกสารมาให้ดูข้อมูลหน่อยนะคะ" "ได้ครับ" ฉันพยักหน้าให้พี่คินก่อนจะเดินกลับเข้าห้องทำงานตัวเองด้วยความเบื่อหน่าย...จริงๆงานตรวจคุณภาพสินค้าก็ใช่ว่าจะไม่ดีแต่นี่มันไม่ใช่สายงานที่ฉันต้องการจริงอยู่แหละว่าฉันเพิ่งจบมาใหม่แต่ก็ใช่ว่าฉันจะไม่เคยฝึกงานนี่ "คุณโรสครับผมมีเรื่องจะปรึกษา" ฉันเงยหน้าจากการตรวจสภาพเครื่องยนต์ก่อนจะเดินไปทางพี่คินที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าตัวกระบังหน้าของรถยนต์พร้อมชี้ตำหนิให้ดู "มันเป็นรอยกรีดน่าจะเกิดจากตอนขนย้าย" "คัดออกเลยค่ะ" "เอ่อ...คือเรื่องที่ผมจะเรียนบอกคืองี้นะครับ" ฉันเลิกคิ้วมองพี่คินขณะที่เขาก็ยื่นหนังสือมาให้ "เป็นหนังสือภายในที่ส่งมาเมื่อวันจันทร์และจริงๆเขาไม่ต้องการให้ผมเรียนคุณโรสแต่ผมคิดว่าผมควรจะบอก" ฉันรับหนังสือมาจากมือเขาและไล่สายตาอ่านในทุกบรรทัดในหน้ากระดาษ..ใจความสำคัญของการร่ายยาวของฝ่ายบัญชีคือต้องการให้ฝ่ายฉันมองข้ามตำหนิเช่นรอยกรีดที่มีแค่นิดเดียวเพราะไม่อยากเสียเงินแก้งานที่มีตำหนิแค่นิดเดียวแถมยังปล.แบบเน้นด้วยนะว่าไม่ให้ฉันเห็น คงเพราะตั้งแต่ฉันเข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้ฉันตรวจดีจนเกินไปล่ะมั้งเพราะฉันไล่ให้เอางานกลับไปแก้เยอะมากจนมันอาจทำให้ต้องเพิ่มเงินในการซื้อสินค้าอีกแต่ขอเถอะในเมื่อให้ฉันมาอยู่ในจุดนี้แล้วฉันไม่สามารถปล่อยงานที่ไร้คุณภาพออกสู่ตลาดได้เหมือนกัน "ขอบคุณนะคะที่บอก" ฉันเหยียดยิ้มตอบพี่คินขณะที่เขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ "ทำงี้ผมคงโดนเบื้องบนด่าอีกแน่" "เบื้องบนคือใครคะ?" "โถ่คนโรสผมไม่ใช่ลูกเจ้าของบริษัทเหมือนคุณนะครับ" "ถึงพี่จะไม่ใช่แต่พี่ก็เลือกทำสิ่งที่ถูกนิคะ เชื่อเถอะไม่มีใครทำไรพี่ได้หรอกถ้าโรสไม่อนุญาต" ฉันขยิบตาให้พี่คินก่อนจะเดินถือกระดาษที่เป็นหนังสือภายในบริษัทเดินไปทางลิฟต์และกดเพื่อไปชั้นเจ็ดที่เป็นแผนกการเงินท่ามกลางสายตาของพนักงานที่กำลังมองมาอย่างหวาดๆเพราะพวกเขาต่างรู้ว่าถ้าฉันขึ้นมาด้านบนคือต้องมีใครสักคนโดนด่าแน่ และใช่วันนี้ถ้าหัวหน้าการเงินไม่หาคำอธิบายดีๆมาให้ฉันมียับแน่! ครืน... ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกับฉันที่กระแทกส้นสูงเกือบห้านิ้วที่ทำเอาฉันสูงกว่าผู้ชายบางคนในที่ทำงานและแน่นอนว่ามันช่วยเสริมให้บุคลิกฉันดูน่าเกรงขามขึ้นแน่นอนเพราะแค่เดรสสั้นสีดำผ้ากำมะหยี่กับรองเท้าสีดำล้วนก็บ่งบอกอยู่แล้วว่ามาเพื่อฆ่าจริงๆ "สวัสดีค่ะคุณโรส" "หัวหน้าแผนกบัญชีอยู่ไหน?" ผู้หญิงใส่แว่นตัวเล็กกว่าฉันมากรีบผายมือให้ฉันเดินไปทางห้องประชุมขนาดปานกลางของฉันก่อนฉันจะไปยืนที่หน้ากระจกใส่ที่สามารถมองออกมาเห็นฉันที่กำลังยืนถือแผ่นกระดาษสะบัดไปมาด้วยท่าทีกวนๆได้ คุณทศพลหัวหน้าแผนกการเงินลอบถอนหายใจทันทีเมื่อเห็นฉันที่กำลังยืนอยู่ "ประชุมอะไรกันมันสำคัญไหม?" "ประชุมงบทั่วไปค่ะ" "คงยังไม่ใช่งบไตรมาสสินะ" ฉันเลิกคิ้วและเหยียดยิ้มมองคุณทศพลที่เดินออกมาด้วยใบหน้านิ่งเรียบแต่ไม่ยอมสบตากับฉัน "จะให้คุยตรงนี้หรือที่ไหนคะ?" "ที่ห้องครับ" เขาตอบกลับเสียงเบาฉันจึงหมุนตัวหันหลังและเดินกลับไปทางห้องของคุณทศพลพร้อมเปิดประตูให้เขาเดินเขาไปก่อนก่อนตัวเองจะเดินตามพร้อมเอาแผ่นกระดาษไปวางที่โต๊ะตรงหน้าเขาโดยไม่ลืมที่จะยิ้มให้บางๆอย่างอารมณ์ดี "จริงๆกระดาษแผ่นนี้ไม่ควรมาอยู่ในมือโรสนะคะแต่จู่ๆมันก็ดันลอยมาตามลมซะงั้น" ฉันว่าจบก็นั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าเขา "ผมแค่อยากทำให้งานมันสำเร็จลุล่วงด้วยดี" "เดี๋ยวนะคะ" ฉันยกมือห้ามให้เขาพูดพร้อมกับหรี่ตามองด้วยความงงงวย "โรสไม่เข้าใจว่าการที่โรสต้องปล่อยปละเลยงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานนี่มันจะทำให้งานไม่สำเร็จยังไง?" "งานมันล่าช้าครับคุณโรส" "ลูกค้าสามบริษัทใหญ่ที่รับงานจากเราเขาสามารถรอได้และการผลิตไม่เคยออกมาล่าช้าตั้งแต่โรสเข้ามาดูแล" "คุณโรสครับ.." "การที่โรสตรวจดูงานในทุกขั้นตอนและจะดูแลเป็นพิเศษในตอนที่ตรวจสภาพสินค้าเพราะโรสต้องการให้คุณภาพมันออกมาดีที่สุดโรสไม่ต้องการให้ใครมาว่างบริษัทเราได้ว่าปีหลังๆมานี่บริษัทเราคุณภาพแย่ลงอย่างที่เคยได้ยิน" ในทุกคำที่ฉันพูดออกมาฉันสบตากับคนตรงหน้าตลอดแต่ฉันไม่ได้แสดงออกถึงความก้าวร้าวฉันเพียงแค่ต้องการอธิบายในจุดที่ฉันรับงานจริงๆ "ซึ่งการที่คุณทศพลทำสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อร้องขอให้ทางแผนกเราปล่อยปละเลยสินค้ามันเป็นสิ่งที่โรสรับไม่ได้จริงๆ" "เพราะงบประมาณมันสูงครับลำพังผมก็ไม่อยากทำแบบนั้นแต่เพราะหลายปีมานี้บริษัทเราขาดทุนจนแทบจะพยุงตัวแทบจะไม่อยู่แล้วเพราะงั้นทางเราเลยต้องลดต้นทุนในเรื่องที่ควรจะลดลง" "ไม่เข้าใจในเมื่อมันขาดทุนแล้วทำไมเราไม่ลดต้นทุนทางการผลิต?" "ผม..ผมไม่สามารถตอบได้ในเรื่องนี้" "ฉันไม่มีสิทธิ์ได้รู้อะไรเลยสินะ" มือฉันกำแน่นก่อนฉันจะมองสบตาคุณทศพลที่กำลังมองอยู่และเหยียดยิ้มมองเขา "ค่ะฉันทราบแล้วแต่มาตรฐานของฉันจะยังเหมือนเดิมและยิ่งคุณทำแบบนี้ฉันจะยิ่งตรวจเช็กสินค้าให้ดีมากขึ้น" "คุณโรสครับ" "ถ้ามีอะไรมากกว่านี้รบกวนให้ท่านประธานมาแจ้งดิฉันโดยตรงนะคะ" ฉันขยับลุกพร้อมก้มหัวให้เขาตามมารยาทก่อนเดินเชิดออกมาอย่างไม่แคร์แม้ภายในใจจะยังเครียดเรื่องที่บริษัทขาดทุนอยู่..ทั้งๆที่ฉันเป็นผู้ถือหุ้นด้วยแท้ๆแต่ทำไมฉันไม่รู้ "จะปิดหูปิดตากันไปถึงไหน" ฉันเม้มปากพลางกอดอกตัวเองแน่นก่อนเสียงโทรศัพท์ตัวเองจะดังขึ้นฉันจึงต้องหยิบมากดรับโดยไม่ทันได้ดูเบอร์โทรเข้า "ฮัลโหล?" (ทำไมเสียงหนูดูหงุดหงิดจังเลยคะ?) ฉันหรี่ตาก่อนเอาโทรศัพท์ออกจากหูมาดูซึ่งเบอร์ที่โทรเข้าคือเบอร์ของคุณยักษ์..นึกว่าหลุดจากวงโคจรไปแล้วซะอีก "โทษนะคะไม่คิดว่าคุณจะโทรมา" (พี่ต้องโทรอยู่แล้วแหละค่ะเพียงแค่พี่ต้องเคลียร์งานก่อนเพราะงั้นไม่งอนนะคะคนดี) "เป็นบ้าอะไรคะทำไมถึงพูดงั้น?" (ซ้อมไว้ไงเพราะวันนี้พี่มาเพื่อยื่นข้อเสนอ) เรียวคิ้วฉันขมวดเข้าหากันก่อนประตูลิฟต์จะเปิดออกฉันจึงเดินออกมาตรงลานกว้างของชั้นหนึ่งที่ๆคนเริ่มจะเยอะแล้วเพราะมันใกล้จะเที่ยงเต็มที (หน้าปกติก็สวยอยู่แล้วนะทำไมพอขมวดคิ้วแล้วยิ่งสวยพี่งงจัง) ฉันเงยหน้ามองตรงก่อนจะเจอกับร่างสูงที่กำลังยืนโบกมือให้อยู่ตรงหน้าและเขาไม่ใช่ใครที่ไหนเพราะเขาคือคนที่ฉันกำลังถือสายอยู่แต่ในมือเขาตอนนี้กลับเต็มไปด้วยดอกไม้และลูกโป่งซึ่งมันเด่น แค่เขามายืนที่นี่มันก็แทบเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแต่เขากลับมาพร้อมของพวกนั้นนี่...ข้อเสนอเขาคงไม่ธรรมดาแน่ๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม