คฤหาสน์
ทันทีลงจากรถฝ่าเท้าของผู้เป็นแม่ก้าวเดินฉับๆ พลางจับข้อมือของหญิงสาวลากให้เดินตามเข้าไปในบ้านคนรวยหลังใหญ่ด้วยความเร่งรีบโดยมีผู้เป็นพ่อเดินตามหลังมาติดๆ
สีหน้าของหญิงสาวในตอนนี้เต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มวิตกกังวลเป็นอย่างมากเพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้จะเกิดเรื่องขึ้น ทั้งที่จริงแล้วเธอไม่อยากจะทำให้เกิดเป็นเรื่องใหญ่เลยสักนิด แต่หากว่าผู้เป็นแม่ที่อยากจะทวงคืนศักดิ์ศรีให้กับลูกสาวอย่างเธอแล้ว ก็ค่อนข้างยากนักที่จะหยุดและห้ามปรามเอาไว้ได้
“ไหนอยู่ไหน มีใครอยู่บ้าง ออกมาเจอฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ”
น้ำเสียงหนักแน่นรวมถึงสีหน้าที่จริงจังของผู้เป็นแม่ได้ตะโกนเสียงดังก้องกลางห้องโถงใหญ่เรียกให้เจ้าของบ้านและชายหนุ่มตัวดีที่ก่อเรื่องออกมาพบ
“แม่ใจเย็นก่อนเถอะนะคะหนูขอร้อง”
“แกเงียบไปเลยนะยัยดา”
หญิงสาวพยายามอธิบายถึงเหตุผลหลักเพื่อให้ผู้เป็นแม่ใจเย็นลงและรับฟังในสิ่งที่เธอพูด แต่กลับไม่เป็นผลอีกเช่นเคย ก่อนที่น้ำเสียงเย็นของใครคนหนึ่งได้ดังขัดจังหวะขึ้นทำให้ดึงความสนใจของหญิงสาวและแม่รวมถึงพ่อของเธอชะงักแล้วหันไปมองที่มาของต้นเสียงกันเป็นตาเดียว
“มาหาใครคะ”
“…”
ร่างบางของเจ้าของบ้านซึ่งเป็นแม่ของชายหนุ่มได้เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ แต่ทว่าทันทีที่ท่านได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวแล้วก็เผยรอยยิ้มออกมาทันทีพร้อมเอ่ยทักทายเธออย่างสนิทสนม
“อ้าว หนูวนิดานี่เอง นึกว่าใครหาเจ้าวายุ (จิรายุ) เหรอจ๊ะ”
“เอ่อ…คือ”
พอได้ยินคำถามนั้นใบหน้าของหญิงสาวก็ซีดลง กัดริมฝีปากล่างแน่นด้วยความรู้สึกขัดแย้งในใจ เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอึกอักก้มศีรษะลงต่ำอย่างไม่กล้าแม้จะสบตากับแม่ของชายหนุ่มเหมือนในครั้งที่ผ่านมาด้วยความประหม่า
ในตอนนี้หญิงสาวไม่รู้เลยว่าควรจะอธิบายบอกให้คุณหญิงเข้าใจอย่างไรดี ทั้งอีกใจหนึ่งเธอก็มีความรู้สึกกลัวว่าหากบอกไปว่ากำลังตั้งท้องกับลูกชายของเขา เธออาจจะไม่ถูกยอมรับเป็นแน่ แต่ทว่าจู่ๆ ผู้เป็นแม่ของเธอก็ได้ชิงเอ่ยตอบตัดหน้าขึ้นไปเสียก่อนด้วยน้ำเสียงแข็ง
“ใช่ค่ะ ฉันพายัยดามาหาลูกชายตัวดีของคุณ”
“คุณคือคุณแม่กับคุณพ่อของหนูวนิดาเองเหรอคะเนี่ย ขอโทษนะคะที่ดิฉันไม่ทราบจริงๆ งั้นเชิญเข้าไปนั่งด้านในกันดีกว่ามั้ยคะ พูดคุยตรงนี้แล้วคงจะไม่เหมาะ” คุณหญิงแม่ของชายหนุ่มเอ่ยชักชวนครอบครัวของหญิงสาวตามมารยาทอย่างกระตือรือร้น
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุยตรงนี้ก็ได้เพราะฉันมีเรื่องที่สำคัญมากกว่านั้น”
“เรื่องสำคัญ?”
“ที่ฉันมาในวันนี้เพราะเรื่องที่ลูกชายของคุณทำยัยดาลูกสาวฉันท้อง”
“วะ ว่ายังไงนะคะ หนูวนิดาท้องอย่างนั้นเหรอ” ได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายคุณหญิงอุทานเสียงพลางเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง อ้าปากค้างยืนตรึงอยู่กับที่ตัวแข็งเหมือนหุ่นพูดอะไรไม่ออกไปช่วงครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นทาบอก ตะลึงพรึงเพริดถาโถมจิตใจไม่หยุดอย่างไม่คิดเลยว่าลูกชายของเธอก่อเรื่องขึ้น
ครืด ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูบางเฉียบซึ่งวางอยู่บนโต๊ะของชายหนุ่มอย่างจิรายุได้ดังขึ้นทำให้เจ้าตัวซึ่งกำลังนั่งรับประทานอาหารมื้อเที่ยงกับสาวสวยอีกคนได้ละสายตาหันไปมอง
(คุณแม่)
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อหน้าจอโทรศัพท์ของมารดาต่อสายหาเขาแบบรัว ๆ จนเจ้าตัวนึกสงสัย
“พี่วายุไม่รับโทรศัพท์เหรอคะ” เสียงหวานของ'นีน่า'นางแบบสาวที่เขากำลังแอบควงอยู่ในตอนนี้เอ่ยถามขึ้นในขณะที่ตอนนี้ทั้งสองกำลังนั่งรับประทานอาหารมื้อกลางวันภายในร้านอาหารสุดหรู
“ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวพี่ขอตัวรับสายก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่มา”
“ตามสบายค่ะ” หญิงสาวหน้าหวานพูดพลางยิ้มตาหยีส่งให้กับชายหนุ่ม ก่อนที่ร่างสูงของเขาจะผลิรอยยิ้มอันหล่อเหลาตอบกลับแล้วคว้าโทรศัพท์ลุกขึ้นเดินออกมากดรับสายของมารดาข้างนอก
“วายุ นี่แกอยู่ที่ไหน แม่โทรไปตั้งหลายสายทำไมเพิ่งรับ” น้ำเสียงติดเหวี่ยงของมารดาดังมาจากปลายสายทำเอาลูกชายอย่างเขาต้องรีบยกโทรศัพท์ออกจากหูอย่างทางกะทันหัน
“เอ่อคือ ผมติดประชุมบอร์ดอยู่ครับคุณแม่”
“ติดประชุมหรือติดหอยติดปูติดปลาอยู่กันแน่ โกหกไม่เนียนไปเรียนมาใหม่นะ”
“โถ่คุณแม่ครับ เชื่อใจผมหน่อยสิ ผมติดประชุมอยู่จริง ๆ นะ” ชายหนุ่มแสร้งทำทีพูดออดอ้อนผู้เป็นแม่น้ำเสียงหวานโน้มน้าวให้เชื่อใจ แต่ทว่าคุณหญิงที่รู้ทันนิสัยของลูกชายดีไม่หลงปักใจเชื่อง่ายๆ อย่างที่คิด
“แม่ไม่เชื่อ เพราะเมื่อกี้แม่โทรไปเค้นความจริงกับแม่เลขาหน้าห้องของลูกมาหมดแล้ว แกหยุดเล่นมุกเก่าๆ กับแม่ได้แล้ว” ชายหนุ่มปิดปากเงียบเมื่อถูกมารดาผู้เป็นที่รักต้อนจนมุม
“แม่มีเวลาให้แกแค่เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นนะวายุ ถ้าหากภายในหนึ่งชั่วโมงแม่ยังไม่ได้เห็นหน้าของแกล่ะก็ คงรู้จะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ครับ รู้แล้วๆ ผมจะรีบกลับบ้านเดี๋ยวนี้แหละ อย่าบ่นเยอะเลยนะครับเดี๋ยวไม่สวย”
“อย่ามาทำปากหวานไปหน่อยเลย แค่นี้แหละแกรีบกลับบ้านมาเลยนะอย่าให้แม่ต้องโทรตามเป็นครั้งที่สอง”
“รู้แล้วครับ”
ติ๊ด
มารดาผู้ให้กำเนิดตัดสายไปทันทีหลังจากท่านได้ทิ้งท้ายด้วยคำขู่ แต่ชายหนุ่มรู้ว่าคนอย่างคุณหญิงแม่ไม่มีทางขู่เพราะท่านมักจะทำจริงในสิ่งที่พูดอยู่เสมอซึ่งแม้แต่บิดาของเขายังไม่กล้าที่จะขัด
ทำให้ชายหนุ่มต้องถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายที่โดนขัดจังหวะความสุขที่ได้อยู่กับสาวสวยของเขาในตอนนี้ แต่ก็ต้องตัดใจยอมกลับบ้านอย่างไม่มีทางเลือก
บรืน เอี๊ยด
รถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนตัวเข้ามาภายในอาณาเขตรั้วบ้านด้วยความเร็วก่อนจะหยุดจอด ร่างสูงใหญ่ก้าวขาลงจากรถดวงตาคมกริบหันไปมองรถอีกคันที่เขาไม่เคยคุ้นตาจอดอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่คิดจะให้ความสนใจเท่าไหร่นัก ก่อนที่เขาจะรีบเดินเข้าไปภายในตัวบ้านหลังใหญ่
ตึก ตึก ตึก
“คุณแม่ครับ” น้ำเสียงอ่อนทุ้มซึ่งมีเพียงไม่กี่คนที่จะได้ยินเอ่ยดังขึ้น ก่อนร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มอย่างจิรายุจะเดินเข้ามาภายในห้องรับแขกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
แต่ทันทีเมื่อเขาเห็นว่ามีร่างเล็กและใบหน้าที่คุ้นเคยของหญิงสาวกำลังนั่งอยู่ไม่ไกลจากผู้เป็นมารดา ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาในเมื่อครู่ก็จางหายไปใน แววตาโทนอบอุ่นถูกแทนด้วยแววตาไม่พึงพอใจ ใบหน้ากลับกลายเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาแทนในทันที
'ผู้หญิงคนนี้'
“มาแล้วเหรอพ่อตัวดี” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของคุณหญิงได้เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นลูกชายยืนอยู่ตรงหน้า แตกต่างวนิดาเธอได้แต่นั่งก้มหน้าไม่กล้าสบตาใครทั้งนั้นในตอนนี้
เมื่อรังสีอำมหิตแผ่กระจายปกคลุมทั่วทั้งห้องรับแขก บรรยากาศมันชั่งอึมครึมจนเธอรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ทั่วท้อง
“คุณแม่โทรตามผมมา มีธุระอะไรเหรอครับ”
“แกยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ แกรู้ตัวหรือเปล่าจิรายุว่าได้ไปทำอะไรเอาไว้” คุณหญิงเจ้าของบ้านหันไปมองร่างเล็กของวนิดาซึ่งเธอเป็นผู้หญิงที่ชายหนุ่มเรียกว่าแฟนและร่วมหลับนอนด้วยอยู่ประจำ
แต่ที่จริงในความคิดของเขาแล้ว เธอเป็นแค่ของคั้นเวลาแก้เหงาก็เท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะจริงจังเลยสักครั้ง…
“ผมทำอะไรครับ?” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความงุนงงอย่างไม่รู้เลยว่าผู้เป็นแม่กำลังพูดถึงเรื่องอะไร
“แกทำหนูวนิดาท้อง ยังจะทำเป็นตกใจอะไรอีก”
“วะ ว่าไงนะ ท้อง!!” ทันทีที่ได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้น ดวงตาคมกริบของชายหนุ่มเบิกกว้างด้วยความตกใจ ดวงหน้าหมดจดของเขาซีดเผือดไปทันที หัวใจหล่นไปอยู่ตรงที่ปลายเท้าก่อนจะหันหน้าขวับไปมองหญิงสาวอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน