ขณะที่ใต้ฝุ่นเพิ่งเดินมาถึงลานจอดรถ มือกำลังจะเปิดประตูรถ จู่ ๆ โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้น
เสียงเรียกเข้าโชว์ชื่อ “ลมเหนือ” น้องสาวตัวแสบของเขา มือหนารีบกดรับสาย
“ว่าไง?” ใต้ฝุ่นกรอกเสียงลงไปทันทีที่กดรับสาย
“พี่ใต้อยู่ไหน?”
ปลายสายพูดเสียงร้อนรนเหมือนมีเรื่องสำคัญ
“อยู่ที่คณะ จะให้ช่วยอะไรอีกล่ะ?”
“ช่วยอะไรลมหน่อยได้ไหมอ่ะ?”
ใต้ฝุ่นขมวดคิ้ว “อะไรล่ะ? วันนี้ไม่เข้าเรียนวันแรก แถมยังจะมาใช้พี่อีกนะ?”
ปลายสายเงียบไปนิดหน่อยก่อนตอบกลับมา “เอาน่า วันนี้ไม่มีเรียนหรอก ในคณะคงแค่แนะนำตัวกันเฉย ๆ”
ใต้ฝุ่นถอนหายใจเฮือกใหญ่ น้องสาวของเขาดื้อจริง ๆ
“พี่เตือนไว้ก่อนนะลม ถ้าช่วยหนึ่งครั้ง จะได้ช่วยตลอดไป ทางที่ดีอยู่ห่าง ๆ จากข้าวฟ่างจะดีกว่า”
“พี่ใต้! เรื่องนี้อย่ามาพูดอีกได้ไหม?” ลมเหนือเสียงขุ่นขึ้นมาทันที
“บอกให้มาก็มาเถอะน่าาา~”
ใต้ฝุ่นกรอกตา ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร ลมเหนือก็ส่งพิกัดมาให้พร้อมกับพูดเร็ว ๆ
“พี่มาที่หมู่บ้าน ‘รวิกานต์ เลควิว’ เลขที่ 58/7 เลยนะ เร็ว ๆ ล่ะ!”
จากนั้นเธอก็ตัดสายไปแบบไม่เปิดโอกาสให้เขาปฏิเสธ
ใต้ฝุ่นยกมือขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิด ก่อนจะสตาร์ตรถ แล้วเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าไปยังพิกัดที่ลมเหนือส่งมา
หลังจากลมเหนือวางสายจากใต้ฝุ่น ข้าวฟ่างก็อดไม่ได้ที่จะหันมาถามด้วยความกังวล
“มันจะดีเหรอลม? พี่ชายแกยิ่งไม่ชอบฉันอยู่แล้ว ให้เขามาช่วยแบบนี้…”
ลมเหนือถอนหายใจ ตัดบทอย่างรวดเร็ว “เอาเถอะน่า แค่นี้เอง อีกอย่างของพวกนี้ต้องใช้รถยนต์ขนอยู่แล้ว ถ้าแกจะประหยัดเงินนั่งวิน จะต้องกี่เที่ยวกันถึงจะขนหมด?”
ข้าวฟ่างเม้มริมฝีปากแน่น จริงอย่างที่ลมเหนือพูด เธอไม่มีเงินพอจะจ้างรถขนของ และของที่เธอจะเอาไปก็เยอะเกินกว่าจะขนด้วยมอเตอร์ไซค์
“แล้วนี่… แกจะให้ฉันไปอยู่บ้านแกจริงเหรอ?” ข้าวฟ่างถามเสียงเบา “พี่ชายแกจะว่าไหม? แล้วคุณพ่อคุณแม่แกล่ะ?”
“หยุดเลยฟ่าง!” ลมเหนือชี้หน้า “แกจะคิดมากไปทำไม พี่ชายฉันไม่กล้าขัดฉันหรอก ส่วนพ่อกับแม่น่ะ นาน ๆ ทีจะกลับบ้าน อยู่ต่างประเทศนู่น แกมานอนกับฉันก็ดีแล้ว ฉันจะได้ไม่เหงา”
ข้าวฟ่างก้มหน้าลงต่ำ เธอรู้สึกว่า ทุกอย่างต้องพึ่งลมเหนือตลอดเลย ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ การใช้ชีวิต แม้แต่เรื่องอาหารการกิน คนตัวเล็กได้แต่คิด แล้วก็เก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าอย่างเงียบ ๆ
อีกด้านหนึ่ง
ไม่เกินครึ่งชั่วโมงใต้ฝุ่นที่ขับรถมาถึงหมู่บ้าน รวิกานต์ เลควิว จอดรถตรงหน้าบ้านเลขที่ 58/7 ตามพิกัดที่ลมเหนือส่งมา
ชายหนุ่มกอดอกมองบ้านหรูตรงหน้า พลางขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด
“ยัยเด็กนี่อีกแล้ว… ไม่พาน้องกูเสียคนก็ให้มันรู้ไป”
ใต้ฝุ่นก้าวลงจากรถอย่างหัวเสีย เขากำลังจะเดินไปเคาะประตู แต่ทันใดนั้น ลมเหนือก็เปิดออกมาพอดี พร้อมกับร่างบางของข้าวฟ่างที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“มาแล้วเหรอพี่ใต้?” ลมเหนือทำหน้าเฉย ๆ ราวกับไม่ได้ลากพี่ชายตัวเองมาใช้งาน
ใต้ฝุ่นกอดอก มองข้าวฟ่างตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะแค่นยิ้มมุมปาก “ทีอย่างนี้ล่ะนะ ทำเป็นเงียบเชียว?”
ข้าวฟ่างหลบสายตา ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย
ลมเหนือเห็นท่าไม่ดี รีบเปลี่ยนเรื่อง “เอ้านี่พี่! มาช่วยยกของเร็ว ๆ หน่อย เดี๋ยวฟ่างต้องไปส่งคืนกุญแจบ้านอีก”
ใต้ฝุ่นกลอกตาอย่างเอือมระอา ก่อนจะเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นรถ
แม้จะบ่น แต่สุดท้ายเขาก็ช่วยอยู่ดี…
ใต้ฝุ่นดันกระเป๋าเข้าไปในรถด้วยท่าทางหงุดหงิด พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างร่วงลงมาจากกระเป๋าผ้าใบใหญ่
ชุดชั้นในลูกไม้สีดำ…
ชายหนุ่มกะพริบตาปริบ ๆ มองมันนิ่งอยู่สองวินาที ก่อนจะเผลอพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว
“คัพซี?”
เขาเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะเหลือบตามองเจ้าของของสิ่งนั้นอย่างพิจารณา ตั้งแต่ศีรษะ ไล่ลงมาตามลำคอ บ่าบาง ๆ เรื่อยลงมาจนถึง…
“หืม… ยัยเด็กนี่ซ่อนรูปขนาดนี้เชียว?”
ใต้ฝุ่นพึมพำเบา ๆ อย่างเผลอตัว
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไรไปไกลกว่านี้ เสียงแหวจากน้องสาวตัวดีก็ดังขึ้นมา
“พี่ใต้นิ่งทำไม! มายกของเร็ว ๆ เร็วเข้า!”
ใต้ฝุ่นสะดุ้ง รีบกระแอมไออย่างเนียน ๆ ก่อนจะก้มลงไปหยิบชุดชั้นในเจ้าปัญหานั้นขึ้นมา แล้วโยนกลับเข้าไปในกระเป๋าตามเดิม
“ฝากไว้ก่อนเถอะ… ยัยเด็กนี่”
แม้จะฉุนกึกที่โดนน้องสาวเร่ง แต่เขาก็ขัดคำสั่งลมเหนือไม่ได้ จำใจหิ้วกระเป๋าอีกใบขึ้นรถไปเงียบ ๆ
ข้าวฟ่างที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดทำหน้าแดงก่ำ รู้สึกอยากจะมุดแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด!
หลังจากขนของเสร็จ รถก็เคลื่อนตัวออกจากหมู่บ้าน ข้างในบรรยากาศเงียบกริบ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังสม่ำเสมอ
ใต้ฝุ่นที่นั่งหลังพวงมาลัยก็กวาดตามองกระจกมองหลัง แล้วเอ่ยถามขึ้นมา
“แล้วนี่จะให้ไปส่งที่ไหน?”
ลมเหนือหันไปยิ้มให้พี่ชายก่อนตอบเสียงใส
“บ้านเราไง”
“หา?” ใต้ฝุ่นเลิกคิ้วสูง
“ข้าวฟ่างจะมาอยู่กับลม”
เอี๊ยดดดดด!!!
จู่ ๆ ใต้ฝุ่นก็เหยียบเบรกเต็มแรงจนข้าวฟ่างที่นั่งอยู่เบาะหลังหน้าทิ่มไปข้างหน้า ดีที่เธอคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ ไม่งั้นอาจได้แถมจมูกหักไปด้วย
“พี่ใต้! เป็นบ้าอะไรเนี่ย!” ลมเหนือโวยวาย แต่พี่ชายของเธอไม่สนใจ
ใต้ฝุ่นหันขวับไปมองน้องสาวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อะไรนะ? ลมจะให้ผู้หญิงคนนี้มาอยู่บ้านเรา? คิดเองเออเองแบบนี้มันใช่เหรอ?”
ลมเหนือถอนหายใจแรง “พี่อคติกับฟ่างอะไรนักหนา คนไม่มีที่ไป จะให้ไปอยู่ไหน? หรือพี่จะไล่ให้เขาไปนอนข้างถนน?”
ใต้ฝุ่นขบกรามแน่น เหลือบไปมองกระจกหลัง ข้าวฟ่างกำลังก้มหน้ากุมมือตัวเองไว้แน่น
แล้วจู่ ๆ เสียงหวาน ๆ ของหญิงสาวที่เขาพยายามผลักไสก็ดังขึ้น
“เดี๋ยวฉันจ่ายค่าเช่าให้ค่ะ… ต่อเดือน แต่ขอเวลาหน่อย ฉันจะหางานพิเศษทำ แล้วจะผ่อนจ่าย”
ใต้ฝุ่นชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะเบือนหน้าไปมองถนนข้างหน้า แล้วตอบเสียงเรียบ
“แบบนั้นก็ดี จ่ายให้ครบทุกบาทด้วย”
ลมเหนือหันขวับไปมองพี่ชายตาโต “พี่ใต้! ทำไมพูดแบบนี้กับเพื่อนลม!”
ข้าวฟ่างรีบยกมือห้าม “ไม่เป็นไรลม ฉันเข้าใจเงื่อนไขของพี่เขา แล้วฉันก็ไม่อยากให้พวกเธอทะเลาะกันเพราะฉัน”
ใต้ฝุ่นเหลือบมองกระจกหลัง เห็นข้าวฟ่างยังคงนั่งก้มหน้า สีหน้าไร้อารมณ์เหมือนไม่มีความรู้สึกอะไรเลยสักนิด
แต่ทำไม…
ทำไมพอเขามองแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนร้ายในละครหลังข่าวก็ไม่รู้แฮะ?