จุดกลับใจ 3 | PUIFAI - ยอมโง่

2238 คำ
จุดกลับใจ 3 PUIFAI - ยอมโง่ ฉันยกมือบิดขี้เกียจซ้ายทีขวาทีก่อนที่จะเปิดตาตื่น แต่ทันทีที่ม่านตาปรับรับแสงและโฟกัสได้ ตาฉันก็เบิกกว้างขึ้นกว่าเดิม เพราะเห็นเอิงนั่งก้มหน้ามองฉันอยู่! “อะ เอิง O_O” เขานั่งหย่อนขาที่ปลายเตียงหัวฉันอยู่ข้างๆ ส่วนสองเท้า... นู่นค่ะ พาดบนหมอนสองใบ กางแผ่หลาจนฉันรีบหุบขาอย่างรวดเร็ว และดึงผ้าห่มห่อตัวเองไว้ จากนั้นลุกขึ้นนั่งมองหน้าเอิงด้วยความอับอาย จนเขารีบพูดขึ้นมา “ฉันขอโทษ” ฉันชะงัก “เมื่อคืนฉันเมามากไปหน่อย” เขาทำเพราะความเมา ควบคุมตัวเองไม่ได้ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นฉัน ตอนนี้แหละที่โง่ของจริง เพราะฉันยอมทุกอย่าง “ไม่เป็นไร เราเองก็ไม่ได้หยุดมันเหมือนกัน” เอิงมองตาฉัน ดูสีหน้าเขาก็รู้ว่าเขากำลังไม่สบายใจอย่างหนัก จากนั้นดวงตานิ่งเรียบก็ปรายมองไปที่เตียงที่มีเลือดเปื้อนอยู่ “เธอเจ็บรึเปล่า?” “ไม่” “ฉันขอโทษ” “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรู้สึกผิด... เราเต็มใจ” เขาถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วลุกขึ้นยืน “แต่งตัวเถอะ ฉันจะไปรอข้างล่าง” “...” “ถ้าลงไปด้วยกันเธอจะโดนมองไม่ดี” เขาพูดโดยไม่มองหน้าฉัน จากนั้นเดินออกไปจากห้องทันที ตามจริงฉันไม่ได้คาดหวังให้ออกมาดีหรอกรู้ว่าเขาไม่ได้ชอบฉัน เพราะฉันเคยสารภาพรักเขาตอนม.หกไปแล้ว แต่โดนปฏิเสธกลับมา ‘เอิง... เราชอบเอิง’ ‘ขอโทษนะปุยฝ้าย ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับเธอ’ ‘อะ อ้าว แล้วดอกไม้วันปัจฉิมที่เอิงไปฝากเอวาให้เราล่ะ’ ‘เราเอาไปให้เอวา...’ นึกทีไรก็หน้าชาและเจ็บทุกที ตอนนี้ฉันก็เลยขอแค่ได้ฉวยโอกาสอยู่ใกล้ๆ และนอนกับคนที่ชอบมานานก็แค่นั้น เมื่อฉันแต่งตัวเสร็จฉันก็ลงไปเช็คเอาท์ที่ล็อบบี้ เอิงนั่งอยู่ตรงนั้นพอดี พอเรียบร้อยดีเขาก็เดินห่างๆฉันไปขึ้นรถด้วยกัน ซึ่งเอิงขอกุญแจรถจากฉันไปขับให้ เราเงียบตลอดทาง เขาเหมือนจะนั่งคอแข็งจริงจังกับการดูรถดูถนน จนกระทั่งเจอร้านยาเอิงรีบจอดรถทันที ก่อนที่จะผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆและพูดออกมา “เมื่อคืนคงไม่ได้ป้องกัน” “เอิงปล่อยใน” เขาหันมามองหน้าฉัน คล้ายกับตกใจมาก “งั้น... ฉันจะไปซื้อยาให้” “อื้อ” พอฉันรับคำในคอเอิงก็เปิดประตูรถลงไป เขาเดินเข้าไปในร้านขายยาสักพักก็ออกมาพร้อมกับถุงยาสีขาวและน้ำหนึ่งขวด จากนั้นรีบส่งทั้งหมดให้ฉันทันทีที่เปิดประตูรถขึ้นมา “เม็ดแรกกินทันที เม็ดที่สองกินหลังจากสิบสองชั่วโมง” ฉันรับมาแล้วรีบแกะยากินส่วนเอิงขับรถต่อ จนได้รู้ว่าคอนโดเอิงอยู่ไม่ไกลจากร้านเหล้า ก็ตอนเขาเลี้ยวเข้าไปแตะคีย์การ์ด และจอดรถที่ลานจอดรถของคอนโด ฉันหันไปมองหน้าเอิง เอิงก็มองหน้าฉัน ใช่ เราต้องคุยกันแต่ต่างฝ่ายต่างเริ่มต้นไม่ถูก “ฉันไม่คิดว่าเป็นครั้งแรกของเธอ รู้สึกผิดฉิบ” ประโยคนี้แหละทำให้ฉันกลัว ฉันกลัวเอิงไม่เหมือนเดิม กลัวตีตัวออกห่าง และจะไม่ได้เจอเขาอีก ที่พยายามสอบให้ได้ตามมาเรียนถึงกรุงเทพก็เพราะเขาเลยนะ “ไม่ต้องคิดมากหรอก ถ้าอยากทำอีกก็ทำได้” คนหลังพวงมาลัยรถชะงักและค่อยๆหันมาสบตากับฉัน “ว่าไงนะ” “กับเอิงเราให้ได้อยู่แล้วอ่ะ ถ้าอยากทำอีก... ก็โทรหาเราได้ตลอด เราไม่คิดมากหรอก เพราะมันเป็นสิ่งที่เราต้องการจากเอิงเหมือนกัน” เขาหันกลับไปนั่งนิ่ง จากนั้นยกมือจับพวงมาลัยรถและถอนหายใจออกมา “ขออะไรอย่างได้ไหม” “อื้ม ว่ามาสิ” “อย่าบอกเอวาเรื่องนี้นะ” เจ็บอีกแล้วกู “ทำไมเหรอ?” “เอวาจะไม่มองเราเหมือนเดิม” ฉันก้มหน้าลงแล้วลอบหัวเราะเหอะออกมา เขายังคิดว่าตัวเองจะได้คบกับเพื่อนฉันเหรอเนี่ย จะชอบอะไรมันขนาดนั้น “เอวามีแฟนแล้วมันไม่สนใจหรอก” “ยังไงก็ห้ามบอก เรื่องเธอฉันจะไม่บอกใครเหมือนกัน ขอโทษอีกครั้งนะ” เขาขอโทษฉันพร้อมกับปลดเข็มขัดนิรภัยเตรียมลงจากรถ ฉันจึงคว้าแขนไว้หมับ! เพราะกลัวว่าหลังจากนี้เราจะไม่เหมือนเดิม “เราจะไม่บอก ถ้าเอิงนอนกับเราอีกเรื่อยๆ” “...” “ระหว่างเรา คะ แค่เซ็กซ์ก็ได้” รู้ไหมว่าฉันกล้ำกลืนแค่ไหนที่ต้องพูดประโยคพวกนั้นออกมา แม่งโคตรไร้ค่าเลยแต่ฉันก็โคตรชอบเขา อยากได้และอยากอยู่ใกล้ๆ มีสิทธิ์แค่บนเตียงก็ยังดี แต่เอิงไม่รับปากหรือตอบอะไรกลับมา เขาแกะมือฉันออกแล้วลงจากรถไป ฉันนั่งมองคนตัวสูงเดินผ่านหน้ารถเข้าไปในตึกด้วยความโหวงเหวง กว่าจะย้ายไปฝั่งคนขับได้ใช้เวลาหลายนาที กำลังคิดให้กำลังใจตัวเอง ว่ากูชอบเขาขนาดนี้ มันไม่ใช่เพราะเขาหล่อเท่นะ แต่เขาเป็นผู้ชายที่ดีมากๆและน่ารักฉิบหาย ถ้าให้ยกตัวอย่าง... ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันก็ตอนฉันอยู่ป.3 ตอนนั้นฉันย้ายมาจากต่างโรงเรียนไปเรียนโรงเรียนเดียวกันกับเขา ครอบครัวฉันค่อนข้างมีฐานะทำธุรกิจส่งสินค้าไปลาว และพ่อก็เป็นอดีตผู้กำกับ ฉันเลยมีของเล่นแพงๆ ของใช้ดีๆมากกว่าคนอื่น ความประทับใจแรกคือฉันโดนแย่งสีไม้ แค่ยกออกมาวางเพื่อนๆก็รีบมารุมล้อมขอใช้สีนั้นสีนี้และมันก็ทยอยหายไป แม่เลยซื้อให้ฉันใหม่ แต่ครั้งนี้พอฉันยกออกมากางเตรียมเรียนวิชาวาดรูป เอิงก็เดินมาเลื่อนเก้าอี้นั่งข้างๆฉันที่มันว่างอยู่ เพราะฉันเป็นเด็กใหม่ย้ายมากลางเทอม ครูเลยทำโต๊ะเสริมขึ้นมาให้ “เอิงมายืมสีเหรอ?” พอฉันถาม เขาก็กางสมุดบังกล่องสีฉันไว้ “เธอมีสีกล่องใหม่อีกแล้ว” “กล่องเก่าเหลือสามสี ไม่รู้หายไปไหนหมด” เขาส่ายหัวเอือมระอา “อยู่ในกล่องดินสอเพื่อนคนอื่นนั่นแหละ” ฉันมองเพื่อนๆและถอนหายใจ “เฮ้อ ใครจะกล้าไปรื้อกล่องดินสอเพื่อน” “งั้นหลังจากนี้ไม่ต้องให้ใครยืมแล้วนะ” ฉันมองหน้าเอิง ก่อนที่เขาจะยื่นมือมาหยิบสีในกล่องไป และล้วงกระเป๋าหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆหลายแผ่นที่พิมพ์ด้วยหมึกว่า ‘ปุยฝ้าย’ ออกมากองพร้อมกับเทปใสม้วนเล็กที่มีที่ตัดในตัว ตอนนั้นฉันยังไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร จนกระทั่งเขาพันกระดาษที่มีชื่อฉันที่ปลายแท่งสี และใช้เทปใสพันอีกที ก่อนจะส่งให้ฉัน “ทำแบบนี้ก็ไม่หายแล้ว^^” “โห เอิงเก่งจัง รู้วิธีได้ไง” “ของเราหายประจำแม่เลยทำให้ เราซื้อสีมาใหม่พอดีเราเห็นสีเธอชอบหายเลยขอให้แม่ปริ้นชื่อเผื่อ” ฉันยิ้มตอบเอิงด้วยความดีใจ “ขอบคุณนะเอิง เดี๋ยวเราเลี้ยงหนมๆ” “ไม่เป็นไร” “เราจะเลี้ยงงงงง” แล้วหลังจากนั้นผู้ชายคนนี้ก็เข้ามาอยู่ในสายตาฉันตลอดเวลา แอบชอบเพื่อนร่วมห้องเป็นยังไงคนที่เคยผ่านมันมาคงจะรู้ดี แสดงออกมากไม่ได้ ทำได้แค่แอบมอง พรีเซนต์งานหน้าห้องกูไม่เขินใครเลยค่ะเขินแค่เขา ออกไปกินข้าวเที่ยงก็พยายามหาโต๊ะที่ใกล้กับเขา เหลือบมองอยู่ประจำ พอโดนสบตาก็เก็บเอาไปกรี๊ดที่บ้าน ถ้าตอนนั้นฉันเรียนอนุบาลฉันคงลากถุงนอนไปปูนอนข้างๆเขาแล้ว เอิงน่ารักมาก มันเป็นความรู้สึกแบบเด็กๆที่ดีต่อใจ ถึงเขาจะใจดีกับทุกคนฉันก็ไม่รู้สึกหึงอะไรเลย ฉันเรียนกับเขาถึงป.หก เขาคอยช่วยเหลือปกป้องจากคนที่คอยจะเอาเปรียบฉันอย่างเสมอต้นเสมอปลาย จนกระทั่งม.หนึ่ง เราเข้าเรียนที่เดียวกันห้องเดียวกันเหมือนเดิม ฉันเป็นสาวป๊อปในโรงเรียน มีรุ่นพี่มาให้ขนมทุกวัน เดินผ่านแซวหูดับตับไหม้ แซวจนบางทีฉันก็อาย แต่มีวันหนึ่งพ่อแม่ฉันติดธุระให้เดินออกไปรอหน้าโรงเรียนเพื่อจะได้รีบรับรีบกลับ ระหว่างที่ฉันเดินผ่านทางเท้าออกไปนั้น ฉันโดนพี่ผู้ชายม.ปลายสามคนเดินมาขวางทาง “น้องปุยฝ้าย พี่ไปส่งไหมครับ” ฉันทำท่าจะเดินหลบแต่พี่เขาก็ยังเดินมาขวาง “พี่ช่วยหลบทีค่ะ พ่อแม่มารอรับแล้ว” “คราวหลังบอกพ่อแม่ไม่ต้องมารับ พี่ไปส่งได้” “...” ฉันเงียบและชักสีหน้าใส่ “พี่ขอเบอร์หน่อยสิครับ” “...” “ไลน์ก็ได้ ดาวเด่นประจำโรงเรียนอย่าหยิ่งนักเลย เดี๋ยววันประกวดดาวโรงเรียนพี่โหวตให้” “ช่วยหลบได้ไหมคะ หนูรีบ” “ให้เบอร์พี่ก่อน จีบได้ไหม มีแฟนยัง” “มีแล้ว” ฉันไม่ได้ตอบ แต่เป็นเสียงผู้ชายที่อยู่ด้านหลังที่ฉันคุ้นเคยอย่างดี เอิงเดินมากับพี่ชายของเขาที่เป็นขาใหญ่ประจำโรงเรียน แต่สิ่งที่เขาทำทำให้ฉันแก้มร้อนผ่าวหัวใจเต้นตึกตัก เขาเดินมาจับมือฉัน... และมองไปที่รุ่นพี่พวกนั้นด้วยสายตาเอาเรื่อง “แฟนผมเอง พวกพี่จะทำไม?” พวกนั้นมองหน้าเอิงและมองหน้าพี่ ‘ไอซ์’ แน่นอนถ้ามีเรื่องกับพี่ไอซ์โดนกระทืบตายแน่ๆ ยืนหนึ่งเรื่องเข้าห้องปกครองแต่ไม่โดนไล่ออกเพราะเป็นลูกส.ส. “มึงจะเล่นแฟนน้องกูเหรอไอ้สัส” พี่ไอซ์ถามเสียงลอดไรฟัน พวกนั้นถอยหลบไปยืนข้างๆเรียงแถวหน้ากระดานทันที “เปล่าครับเฮียไอซ์ ผมแค่เป็นห่วงน้อง” “ไปไกลๆส้นตีน ไป!” “ครับๆ” “ไม่เป็นไรนะ?” พอรุ่นพี่พวกนั้นวิ่งหางจุกตูดกระโดดข้ามรั้วออกจากโรงเรียน เอิงก็ปล่อยมือฉันและหันมาถามทันที แอบเสียดายอ่ะ จับอีกนิดได้ไหม ใจฉันเต้นแรงจนรู้สึกว่าตัวเองแก้มร้อนผ่าว “อื้มไม่เป็นไร ขอบใจนะเอิง ขอบคุณนะคะพี่ไอซ์” พี่ไอซ์พยักหน้าและเดินนำไปก่อน เหลือแค่เอิงที่ยืนยิ้มให้ฉัน “ไปกันเถอะ รีบไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นเธอรีบออกจากห้องเรียนคนแรก” “ใช่ รีบมาก” ตอนนั้นเอิงกับพี่ไอซ์มาส่งที่หน้าโรงเรียนและอยู่รอเป็นเพื่อนจนพ่อกับแม่มารับ เขาได้เจอพ่อกับแม่ฉันด้วยพอท่านเปิดกระจกสองพี่น้องก็ยกมือไหว้ ฉันเก็บอาการหนักมาก เขินมาก ผู้ชายที่ชอบเจอพ่อกับแม่เป็นอะไรที่กระชุ่มกระชวยหัวใจ พอประตูรถปิดฉันยกมือปิดหน้าตัวเองสะดีดสะดิ้งเหมือนหนอน อยู่ๆก็อยากโดนดักขอเบอร์อีก ก็ชอบให้เอิงจับมืออ่ะ! มันต้องมีอีก! ฉันจะจ้างคนมากวนฉันต่อหน้าเอิงดีไหมนะ เอาแบบรายวันแม่งไปเลย ก่อนอื่นหาสปอนเซอร์แป๊บ ฉันโน้มไปเกาะเบาะตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่ “พ่อคะ” “ว่าไงปุยฝ้าย” “หนูขอเงินไปโรงเรียนเพิ่มได้ไหมคะ เมื่อกี้มีคนมาจีบหนูแล้วเอิงช่วยหนูไว้ เขาจับมือหนูด้วย หนูอยากให้เขาจับมือและบอกคนอื่นว่าเขาเป็นแฟนหนูอีก จะเอาไปจ้างหน้าม้า” พ่อกับแม่ฉันมองหน้ากัน “อยู่ม.หนึ่งเองปุยฝ้ายใจเย็นๆ” “พ่อขา หนูชอบเอิงงงงง หนูชอบเอิง หนูอยากได้ๆ พ่อช่วยหนูหน่อยสิคะ” “ปุยฝ้ายลูกเพิ่งอยู่ม.หนึ่ง จบมหาลัยค่อยคิดเรื่องนี้” “ประจำเดือนยังไม่มาเลยจะมีแฟนแล้วเหรอ?” แม่บ่นอีกคน แต่ใครสนกันล่ะ “เรื่องหัวใจมันห้ามได้ที่ไหนคะ หนูชอบเขาอ่ะ ไม่รู้แหละ พ่อกับแม่จำไว้เลยนะคะว่าคนนี้ลูกเขย คนนี้เท่านั้น!” “จ้า ลูกเทวดาเล็งลูกส.ส.เลยน้า” “ช่วยคลุมถุงชนหนูทีค่ะ” “ปุยฝ้าย-_-^” “หนูจะไม่รักใครอีกแล้ว หนูรักเอิง” “พอแล้วลูก” “พ่อขอซื้อลูกชายส.ส. ให้หนูได้ไหม หนูจะตั้งใจเรียน” “พอแล้ว” “เขาจะเป็นพ่อของลูกหนู” แม่หันมาขวับ และตีแขนฉันทันที “นี่ ไม่หยุดพูดแม่จะตีจริงๆนะ” จะตีอะไรก็ตีไปแล้วอ่ะ-_-^ ฉันกลอกตามองบนแล้วถอยไปนั่งกอดอก ไม่รู้แหละ ฉันจะเอา ต้องมีสักวันที่ฉันได้คบกับเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม