Ep.4
Vincent talk.
หลายวันต่อมา
S.World
"วินเซนต์ต้องไปไหนต่อหรือเปล่า" 'จันทร์เจ้า' หันมาถามผมด้วยสีหน้าคล้ายเกรงใจ ในขณะที่เรากำลังจะเดินไปโซนร้านอาหารที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้
"ไม่นะ วันนี้เราว่างทั้งวัน" ผมตอบและยิ้มให้เธอ
"งั้น...วินเซนต์อยากกินอะไรเลือกเลย เดี๋ยววันนี้เราเป็นคนเลี้ยงเอง" จันทร์เจ้าหันมาพูดกับผมอีกครั้ง พร้อมกับยิ้มให้ผมอย่างน่ารัก
อ่า…เมื่อไหร่ผมจะเลิกหลงความน่ารัก ความสดใสของรอยยิ้มนี้สักทีวะ
"ได้ไง เราเป็นคนชวนจันทร์เจ้ามา เราก็ต้องเป็นคนเลี้ยงสิ" วันนี้ผมเป็นคนชวนเธอมาดูหนัง พอดูเสร็จแล้วก็ออกมาหาอะไรกินนี่แหละ
"ไม่เอา วันนี้เราต้องออกมาทำธุระที่นี่อยู่แล้ว ให้เราเลี้ยงวินเซนต์น่ะถูกแล้ว เพราะวินเซนต์นั่งรอเราทำธุระตั้งนาน"
"ไม่เป็นไร เราเต็มใจ ให้เราเลี้ยงเถอะ"
"...อืมก็ได้ งั้นคราวหน้าให้เราเลี้ยงคืนนะ" จันทร์เจ้าหยุดคิดไปสักพัก ก่อนจะพูดออกมาอย่างยอมแพ้ผม
"โอเคครับ" ซึ่งผมเองก็ยิ้มให้กับคำตอบของเธออย่างพอใจ
"แล้วตกลงวินเซนต์อยากกินอะไร" จันทร์เจ้าหยุดเดินและหันกลับมาถามผมอีกครั้ง เมื่อเราเดินมาถึงโซนร้านอาหาร
"ให้จันทร์เจ้าเลือกเลย"
"ให้วินเซนต์เลือกนั่นแหละดีแล้ว เราเลือกไม่ถูกหรอก ร้านอาหารเยอะขนาดนี้ ถ้าให้เลือกคงจะกินทุกร้านแน่ๆ" เธอพูดและหัวเราะออกมานิดหน่อย
"หึๆ งั้นเอาเป็น...สเต็กดีมั้ย มื้อเที่ยงทานหนักหน่อยน่าจะดีกว่า" ผมหัวเราะออกมานิดหน่อยด้วยความเอ็นดู ก่อนที่จะเสนอไปเพราะร้านมันอยู่ตรงหน้าพอดี
"อื้ม! สเต็กก็ได้" พอเลือกและตกลงกันได้แล้ว ผมกับจันทร์เจ้าก็เดินเข้าไปนั่งในร้านที่ว่าเลยทันที เข้ามาก็จัดการสั่งอาหาร นั่งรอสักพักอาหารก็มาเสิร์ฟ เราทั้งคู่ก็นั่งกินไปคุยกันไปเรื่อยๆ
...สงสัยใช่มั้ยครับว่าทำไมผมถึงมาอยู่กับจันทร์เจ้าได้ และคำตอบก็คือ...ผมกำลัง 'จีบ' จันทร์เจ้าอยู่
ไม่สิ! ต้องเรียกว่า ‘เคย’ จีบถึงจะถูก จันทร์เจ้าเธอเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะหน้าตา ฐานะ หรือนิสัย ซึ่งที่ทำให้ผมชอบที่สุดก็คือนิสัยของเธอ ผมชอบผู้หญิงเรียบร้อย พูดเพราะ ไม่ชอบผู้หญิงที่แต่งตัวแรงๆ ทำตัวแรงๆ และชอบพูดจาไม่ดีจิกกัดคนอื่นเขาไปทั่ว ผู้หญิงแบบนั้นสำหรับผม ผมว่าไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
แต่ถ้าให้ควงเล่นๆ แบบไม่ผูกมัด ผมก็ไม่ติด
จันทร์เจ้าเธอเป็นลูกสาวของลุงคิง พี่ชายของพ่อเฮียเจ้าขุน พูดง่ายๆ ก็คือจันทร์เจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของเฮียเจ้าขุน เจ้าขา แล้วก็ไอ้ซิกซ์เซ้นส์นั่นแหละ และที่สำคัญพ่อของเธอหวงมาก หวงชนิดที่ว่าจะไปไหนกับใครก็ต้องรายงานพ่อตลอด แต่วันนี้พ่อเธอไปคุยงานที่ต่างประเทศและน่าจะกำลังบินอยู่ เธอก็เลยไม่ต้องรายงาน ไม่งั้นคงจะโดนซักฟอกยาวๆ ที่ออกมากับเพื่อนผู้ชายสองต่อสองแบบนี้
แล้วก็ไม่มีใครรู้หรอกนะว่าผมเคยจีบจันทร์เจ้า เพราะผมไม่ได้บอกใครเลยแม้แต่เฮียเจ้าขุน เจ้าขา หรือเพื่อนผมก็ยังไม่มีใครรู้สักคน ผมตามจีบมาได้สักประมาณสามสี่ปีแล้วล่ะ แต่คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมก็ไม่ยอมใจอ่อนคบกับผมสักที
เอาจริงๆ ผมก็ทำใจได้แล้วนะ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอให้ผมเป็นได้แค่เพื่อน เธอปฏิเสธและปฏิบัติกับผมชัดเจนมาก ว่าเธอให้ผมได้แค่เพื่อนจริงๆ
ตอนแรกที่เธอบอก ความรู้สึกผมแม่งโคตรดาวน์ ผมแย่ไปเลยช่วงนั้น ไม่อยากทำอะไร ไปสนามแข่งรถทุกวัน แล้วก็หนีไปพักใจที่ต่างจังหวัดเป็นเดือนๆ จนเริ่มทำใจได้ผมถึงได้กลับมา
และก็เริ่มทักไปคุยกับเธออีกครั้ง ซึ่งเธอก็คุยกับผมเหมือนเดิมนะ คุยแบบเพื่อนเหมือนเดิม จากนั้นก็คุยมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าคำว่าเพื่อนจริงๆ
จนถึงตอนนี้ผมก็ไม่ค่อยคาดหวังอะไรมากแล้วล่ะ หากก็ยังแอบหวังอยู่ลึก ๆ นะว่าสักวันเธออาจจะเปลี่ยนใจมาชอบผมก็ได้ ถึงแม้มันจะเป็นไปได้ยากมากๆ ก็เถอะ...
"...!?" ในระหว่างที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้น สายตาผมก็เหลือบไปเห็นและสะดุดกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ผมคุ้น...ไม่สิ! ไม่ได้คุ้นเคย แต่ผมจำเธอได้ดีเลยล่ะ เธอกำลังเดินเข้ามาในร้านที่ผมกับจันทร์เจ้านั่งยู่
แพรเดินเชิดหน้าเข้ามาในร้านด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งของเธอ พร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ ร้าน ก่อนที่สายตาของเธอจะมาสะดุดที่ผมอยู่ครู่หนึ่ง สายตาเธอนิ่งมาก ไม่ได้สื่ออารมณ์หรือแสดงอาการใดๆ ออกมาทั้งสิ้น
เราทั้งคู่สบตากับอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะละสายตาออกจากผมไปและเชิดคางขึ้นอีกนิดทำเป็นไม่สนใจ จากนั้นก็เดินไปนั่งโต๊ะที่มันว่างตามที่พนักงานแนะนำให้ เธอก็จัดการสั่งอาหารของเธอไป ก่อนจะหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาเล่น โดยไม่ได้สนใจที่จะหันกลับมามองผมอีกเลย...
'เมื่อคืนฉันสนุกมาก แต่ถ้าเจอกันอีกไม่ต้องทักฉัน...แพร'
อยู่ๆ ข้อความที่เธอทิ้งเอาไว้ให้ผมในวันนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัว...คืนนั้นไม่ใช่แค่เธอที่สนุกคนเดียว เพราะผมก็สนุกมากเหมือนกัน แต่ก็คงต้องจบความสนุกเอาไว้แค่คืนนั้นคืนเดียว เพราะเธอก็เขียนไว้ชัดเจนว่าไม่ต้องการจะสนุกกับผมต่อ
ซึ่งถ้าเธอต้องการแบบนั้นผมก็โอเค ยังไงก็วินๆ กันทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว ถึงผมจะแอบเสียดายในความร้อนแรงของเธอนิดๆ ก็ตาม
ผมชอบผู้หญิงเรียบร้อยก็จริงนะ ทว่าในเรื่องของเซ็กซ์ ผมก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมก็ชอบความร้อนแรงอยู่ประมาณหนึ่ง แต่ถ้าให้ผมเลือกผู้หญิงที่มาเป็นแฟน แน่นอนว่าผมต้องเลือกผู้หญิงที่เรียบร้อยเหมือนจันทร์เจ้าอยู่แล้ว
ส่วนผู้หญิงแบบแพร...ผมแค่รู้สึกติดใจในเรื่องของความเร่าร้อนก็แค่นั้น
แต่ก็นั่นแหละครับ...เพราะตอนนี้ผู้หญิงทั้งสองแบบที่ผมกล่าวถึงนั้น ไม่มีใครเลือกผมสักคน หึๆ
"...วินเซนต์ ?"
"..."
"วินเซ็นต์ !?"
"หะ...ครับ อิ่มละเหรอ"
"มองอะไรอะ เราเรียกตั้งหลายครั้งแน่ะ" จันทร์เจ้าถามและมองไปทางที่ผมมอง ดีนะที่ทางนั้นมีคนนั่งอยู่เยอะพอสมควร เลยทำให้จันทร์เจ้าไม่รู้ว่าผมมองอะไรอยู่
"เปล่าๆ ไม่ได้มองอะไร" ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธและหันมาสนใจสเต็กในจานตัวเองอีกครั้ง
"กินผักด้วยสิวินเซนต์ เหลือไว้แบบนั้นเสียดายแย่เลยนะ" จันทร์เจ้าเอ่ยทักเมื่อเห็นผักในจานผมยังเหลืออยู่เหมือนเดิม
"เราไม่ถนัดกินผักน่ะ" ไม่ใช่ว่าไม่ถนัด เรียกว่าไม่กินเลยดีกว่า
"นี่ยังไม่กินผักอีกเหรอ"
"ก็มันไม่อร่อยอะ เลยไม่กิน"
"แต่มันดีต่อสุขภาพนะ"
"เรารู้ แต่เราก็ไม่ชอบกินมันอยู่ดี" ผักมันมีประโยชน์ใครๆ ก็รู้ครับ แต่ในเมื่อผมไม่ชอบผมก็แค่ไม่กิน ค่อยไปกินวิตามินอื่นๆ แทนเอาก็ได้
"ง่ะ เดี๋ยวก็ป่วยเอาง่ายๆ หรอก...!? แป๊บนะ เราขอรับโทรศัพท์ก่อน" พูดยังไม่ทันจบ สมาร์ตโฟนของจันทร์เจ้าก็สั่นขึ้นมาซะก่อน ทำให้เธอขอตัวออกไปรับ
"..." ส่วนผมก็ยิ้มและพยักหน้าให้เธอเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม ผมหยิบสมาร์ตโฟนของตัวเองขึ้นมากดเล่นระหว่างรอจันทร์เจ้าออกไปคุยโทรศัพท์
"ขอโทษนะคะ มีคนฝากมาให้ค่ะ" ผมเงยหน้าจากจอสมาร์ตโฟนและยื่นมือไปรับกระดาษโน้ตจากพนักงานมาด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย
"จากใครครับ ?"
"ผู้หญิงคนนั้นค่ะ" ผมมองตามมือที่พนักงานชี้
...แพรงั้นเหรอ ?
"..." แพรมองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะใช้สายตามองมาที่กระดาษโน้ตในมือของผม เพื่อให้ผมเปิดอ่านมัน
...แฟนนายน่ารักดีนะ คืนนี้เจอกันหน่อยมั้ย 4 ทุ่ม ที่เดิมเวลาเดิม
"?" พออ่านจบผมก็เงยหน้าขึ้นไปมองเธออีกครั้ง ส่วนเธอก็มองผมด้วยสายตาเรียบนิ่งดังเดิม ก่อนจะลุกออกไปจ่ายเงินและเดินออกจากร้านไปเลยทันที