"น้องไม่ผิด มันผิดที่เเกไม่เชื่อแม่ต่างหาก แกจะรอให้เป็นอะไรไปมากกว่านี้ใช่ไหมถึงจะยอม?"
จู่ ๆ คุณหญิงแก้วตาก็เอ่ยขึ้นมาอย่างจริงจัง เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ทีไรแกก็คิดหนักขึ้นมาทุกครั้ง จนกระทั่งจะกลายเป็นคนงมงายในสายตาลูกชายเสียแล้ว เอะอะอะไรก็มักจะเอาเรื่องบ้านั่นมาเอ่ยอ้างกับเขาเสมอ เขาเบื่อหน่ายจนไม่รู้จะพูดยังไงเเล้ว
"คุณแม่เลิกพูดถึงเรื่องคำทำนายบ้าบอนั่นสักที ผมไม่เชื่อหรอก คุณแม่ก็แค่อยากให้ผมแต่งกับยัยนี่ก็เท่านั้นแหละ"
"ถ้าใช่แล้วจะทำไม? แต่งกับน้องมันไม่ดีหรือไงหา!" คนเป็นแม่เริ่มขึ้นเสียงเมื่อลูกชายตัวดีไม่ยอมรับฟัง แถมยังเอาแต่ทำหน้าทำตาเอือมระอาจนน่าตี
"ไม่ดีมาก ๆ เพราะผมมีคนที่ผมชอบอยู่แล้ว แม่เลิกบังคับผมได้แล้ว ผมไม่เเต่ง"
"แก!"
"พอเถอะค่ะ หวาว่าเราคุยกันเรื่องอื่นดีกว่านะคะ"
ก่อนที่ศึกระหว่างสายเลือดจะเกิดขึ้น ยี่หวาก็รีบยืนขึ้นเเละเอ่ยห้ามทั้งสองคน เธอรู้ดีว่าพูดไปอย่างไรเสียก็ต้องทะเลาะกันมากกว่าพูดดีแน่นอน เรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นเสียหน่อย เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาตั้งหลายปีแล้ว ตั้งแต่ที่เธออายุ 17 ปี ก็มีซินแสที่คุณหญิงแก้วตาสนิทด้วยมาที่บ้าน
ตอนนั้นเป็นตอนที่เธอกับไต้ฝุ่นกำลังทะเลาะกันเรื่องของกินอยู่ เพียงแค่เห็นหน้ากันแวบเเรกซินแสตาเฒ่าแก่ก็ชี้มายังทั้งสองคนในทันที พร้อมกับเอ่ยเสียงดัง ท่ามกลางผู้คนมากมายว่า...
"คู่กัน สองคนนี้ดวงผูกกันมาก ต้องเเต่งงานเท่านั้น"
หลังจากนั้นทั้งยี่หวาและไต้ฝุ่นก็โดนผู้ใหญ่เชียร์ให้แต่งงานกันจริง ๆ แต่ทว่าเขาคนนั้นกลับไม่พอใจและยิ่งไม่เต็มใจเลยสักนิด ไต้ฝุ่นรักอิสระและเกลียดการบีบบังคับที่สุด และอีกเหตุผลข้อหลักนั่นก็คือ เขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่ใช่เธอเด็ดขาด...
"คุณแม่กลับไปแล้วเธอก็ออกไปสิ ฉันจะกินข้าว"
"หวาขอกินด้วยนะคะพี่ฝุ่น"
"โว๊ะ เธอนี่วุ่นวายจัง!"
ชายหนุ่มหัวร้อนอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะเธอที่ทำให้เขาอารมณ์เสีย หรือเป็นเพราะว่านรกกำลังรับประทานกระบาลเขากันแน่ เอะอะก็มีแต่จะไล่เธออย่างเดียว แต่สาวเจ้าก็ไม่หวั่นใจ เขาไล่ก็ยังยิ้มรับหน้าบานและมักจะพยายามเข้าใกล้เขาเสมอ
"หวาเปล่า หวาก็ขอกินดี ๆ " เธอยังคงมองเขาตาเเป๋วเเละเอ่ยอย่างใจเย็น ใบหน้าหวานของสาวเจ้ายื่นเข้ามาใกล้เขาอีกหน ยัยนี่เเม้จะโตขึ้นและเรียนจบไปแล้วก็ตาม แต่ทว่ากลับยังคงเหมือนตัวเองเป็นเด็กอยู่ไม่สร่าง ยั่วต่อมโมโหเขาได้ดีจริง ๆ
"อยากกินนักใช่ไหม ได้ "
"พี่ฝุ่น!"
คนตัวเล็กตกใจจนอ้าปากค้างร้องเรียกชื่อเขาเสียงหลง เมื่อไต้ฝุ่นนั้นเกิดตระหนี่อะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ เขาจับชิ้นเนื้อไก่ในจานยัดเข้าปากคำโตราวกับเด็กหวงของกิน นี่ไม่อยากแบ่งเธอขนาดนี้เลยเหรอ?
"งั่ม~ งั่ม~ งั่ม~" เขาเคี้ยวสิ่งที่อยู่ในปากพร้อมกับส่งสายตาเยาะเย้ยเจ้าหล่อน
"ติดคอเเหง"
"อึก แอ่ก!"
นั่นไง! คำพูดยี่หวามีอานุภาพขนาดไหนคิดดูเถอะ! เธอพูดยังไม่ถึงสามวินาทีอีกคนก็ไก่ติดคอจนตาเหลือก! ขนลุก! จะแม่นอะไรเบอร์นั้นกัน เธอตกใจมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก ในหัวคิดหาวิธีจะช่วยพี่ชายตรงหน้าอย่างไรดี
"พี่ฝุ่น! ทำยังไงดี? ๆ "
"แอ่ก! แอ่ก!"
"ขอโทษนะพี่"
ตุบ! ตุบ พอเอ่ยคำขอโทษจบด้วยใจที่สั่นไหว ก็ตามด้วยกำปั้นเล็กทุบหลังชายหนุ่มที่กำลังสำลักอย่างเอาเป็นเอาตาย จนถึงขั้นต้องยกมือร้องขอให้หยุด เขาไม่ตายเพราะไก่ติดคอหรอก จะตายเพราะยัยเอ๋อนี่ทุบเขาจนหลังเเอ่นต่างหากเล่า!
"พะ พอ พ๊อ!"
"ฮึก ~ ไก่หลุดลงไปแล้วใช่ไหมคะ" คนตัวเล็กเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง หากมองจ้องดี ๆ แล้วจะเห็นว่าดวงตากลมสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นของเธอมีน้ำสีใสเอ่อคลอเล็กน้อย ก็เพราะความที่เธอนั้นกลัวเขาจะเป็นอะไรไป
"กระดูกหลังฉันจะหลุดต่างหาก!"
"ก็หวากลัวไก่ติดคอพี่ตายนี่ หวาห่วงพี่นะ"
คนตัวเล็กเอ่ยอย่างคนจริงใจ เธอไม่ได้เสเเสร้งเสียหน่อย ยี่หวาลดมือลงวางข้างลำตัวเช่นเดิม เมื่อเห็นว่าอีกคนปลอดภัยแล้ว ก่อนจะเดิยนเขยก ๆ ไปนั่งบนเก้าอี้ดังเดิม ตอนเเรกเขาไม่ได้สังเกตว่าเธอนั้นเป็นอย่างไร แต่บังเอิญตาดีเจอเข้าก็อดเอ่ยถามแบบจำใจไม่ได้
"เจ็บเหรอ?"
"เจ็บสิคะ หวาเดินบ่อยนะ"
เธอตอบกลับเขาโดยไม่มองหน้า คนตัวเล็กเเหงนหน้ามองหน้าจอทีวีเช่นเดิม โดยไม่คิดจะกลับไปยังห้องพักฟื้นของตัวเองเลยสักนิด เธอคอยมานั่งเฝ้าเขาอยู่ทั้งวันทั้งคืน อย่างคนไม่รู้จักถอดใจ แต่เพราะเธอคิดว่าเขาอาการหนักกว่า จึงไม่ไว้ใจให้อยู่คนเดียว หากจะถามว่าทำไมไม่จ้างพยาบาลพิเศษมา ก็คงเพราะไต้ฝุ่นนั้นไม่ต้องการแบบนั้น เขาแค่ขาหักอีกสักพักก็คงกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้แล้ว
"ก็เเล้วทำไมไม่ไปหาที่นอนดี ๆ มาลุก ๆ นั่ง ๆ อยู่นี่มันก็ปวดสิ โน่น โซฟาโน่น"
เขาว่าพลันพยักเพยิดหน้าไปยังโซฟาขนาดกว้าง หากเธอนั่งอยู่แบบนี้เดี๋ยวก็คงปวดหลังแย่ เขาออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้เป็นห่วงเธอเลยสักนิด แค่เห็นแล้วมันขัดหูขัดตาก็เท่านั้นเอง
"มันห่างพี่เกินไป ไม่เอาหรอก เผื่อพี่อยากได้อะไรไง" คนตัวเล็กเอ่ยด้วยท่าทีใสซื่อ เธอยิ้มหวานให้เขาอีกครั้ง ทำเอาคนมองจะไล่ก็คิดหนักอยู่บ้าง
"อ๊ะ ฉันบริจาคพื้นที่ให้เธอหนึ่งส่วนสาม ห้ามนอนกินที่เข้าใจไหม ไม่อย่างนั้นฉันจะไล่เธอให้ลงไปนอนพื้น"
"จริงเหรอคะ? พี่ฝุ่นให้หวานอนด้วยเหรอ" ยี่หว่าถึงกับหูผึ่งตาเบิกโพลง ไม่ต้องรอให้เขาตอบเธอก็ปีนขึ้นเตียงอย่างมุ่งมั่น แม้มันจะทุลักทุเลหน่อยแต่เธอก็ไม่สน นี่โชคดีมากแค่ไหนแล้วที่ไต้ฝุ่นให้โอกาสเธอขนาดนี้
"อือ แค่เตียงมันเหลือ อย่าคิดว่าฉันพิศวาสอะไรเธอนะ ฉันแค่สงสารลูกหมูลูกแมวก็เท่านั้น"
เขาแค่เห็นว่าเตียงพิเศษของโรงพยาบาลนี้มันกว้างพอที่จะนอนได้สองคนก็เท่านั้น เขาก็เป็นแบบนี้แหละ หล่อด้วย ใจดีอีกต่างหาก ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองเลยสักนิด
"พูดจาเหมือนคนแก่มากเลยค่ะ"
"เธอ!"
"โอ๋ ๆ หวาหยอกพี่เล่นเฉย ๆ แก่หวาก็รักนะคะ" คนตัวเล็กนอนตะเเคงข้างส่งยิ้มหวานมาให้เขา ทำเอาอีกคนขนลุกซู่ ก่อนจะถดกายหนีด้วยท่าทีหวาดกลัว
"อึ๋ย เธอหยุดพูดเลยนะ ขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย"
"หวาพูดจริง ๆ นะคะ หวาน่ะชอบพี่ฝุ่นมาก~~" คนตัวเล็กยังสู้ไม่ถอย เธอเอ่ยลากเสียงยาวเป็นการยั่วยุเขา เธอเริ่มชอบใจกับท่าทีที่เขาปฏิบัติกับเธอเเล้วแหละ มันดูน่ารัก มันดูพิเศษและแตกต่างจากเวลาที่เขาอยู่กับคนอื่นมาก คนอื่นเขายิ้มให้ แต่กับเธอเขาแยกเขี้ยวเชียวนะ น้อยคนนักจะได้เจอ
"หยุดดิ๊ เธอจะทำฉันหลอนไปถึงไหนฮะ!"
"คิก คิก คิก"
"เอ๋อไม่พอยังเส้นตื้นอีก โอ้ยปวดหัว ๆ "