กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อนจางลอยคลุ้งในอากาศ เสียดแทงเข้าโพรงจมูกอย่างช้า ๆ จนรู้สึกวาบวูบอย่างประหลาด แสงแดดอ่อนยามเช้าลอดผ่านม่านบางเฉียบ สะท้อนลงบนผ้าปูเตียงสีขาวสะอาดตาเป็นประกายอุ่นตา
เฟยขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างงุนงง รู้สึกหนักศีรษะและชาทั่วร่าง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆโลกทั้งใบยังพร่ามัว ต้องกะพริบตาถี่ๆอยู่ครู่หนึ่งจึงเริ่มเห็นชัด
ดวงตาคู่งามกวาดสายตามองไปรอบตัว เพดานสีครีมเรียบเนียน โคมไฟระย้าหรูหรา ม่านแพงที่ลู่ตามแสงอาทิตย์ ทุกอย่างดูดีเกินกว่าจะเป็นห้องของตัวเอง หรือแม้แต่โรงแรมธรรมดา
“อ๊ะ!!!” เสียงแผ่วผะงาบหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากแห้งผาก เธอรู้สึกถึงอาการแสบร้อนระหว่างต้นขา และเมื่อพยายามจะขยับ ก็รู้ตัวทันทีว่า...
ร่างกาย…เปลือยเปล่าทุกตารางนิ้ว
หัวใจเธอกระหน่ำรัว มือรีบคว้าผ้าห่มมาปิดร่างก่อนจะค่อยๆขยับลุกขึ้น ทว่าความเจ็บแปลบตรงสะโพกและต้นขาทำให้ต้องนิ่วหน้า กลืนก้อนสะอื้นลงคอด้วยแรงสั่น
‘นี่มันเรื่องบ้าอะไร…เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน…?’
เธอกัดฟันแน่น พยายามประคองตัวลุกขึ้นจากเตียง มือข้างหนึ่งกอดผ้าห่มแนบอก ขณะที่อีกข้างยันขอบเตียงเอาไว้ ทุกจังหวะที่กล้ามเนื้อกระตุก ทุกก้าวที่เหยียบพื้นเย็นเฉียบ
ความทรงจำเลือนรางจากเมื่อคืนก็ย้อนเข้ามา กลิ่นกายเขา เสียงหอบหายใจของเขา"""สัมผัสร้อนผ่าวที่เธอยังจำได้แม่นว่า 'เขา' ทำให้เธอไปถึงจุดสุดยอดได้กี่ครั้ง
และมันไม่ใช่แค่หนึ่ง...แน่ๆ
“ไม่...ไม่นะ!!!” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เธอพูดกับตัวเองเสียงสั่นพร่า
‘ถ้ามันไม่ใช่ฝัน...ถ้าความรู้สึกเสียวซ่านจนร้องไห้เมื่อคืนมันไม่ใช่ความฝัน แล้วฉัน…ฉันโดนใครทำแบบนั้นจริง ๆ งั้นเหรอ!?’
หัวใจบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก เธอลากสังขารตัวเองอย่างทุลักทุเลไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ขาเปลือยเปล่าก้าวผ่านพรมหรูจนถึงหน้ากระจก เมื่อเงาสะท้อนในบานกระจกใสปรากฏ...
ร่างบางก็แทบล้มทั้งยืน ดวงตาสาวในกระจกคู่นั้นคมกริบ ริมฝีปากอวบอิ่มหยักสวย ผิวเนียนละเอียดยิ่งกว่าผู้หญิงที่เคยบำรุงตัวเองมาทั้งชีวิตและที่สะดุดตาที่สุด…หน้าอก…ที่ใหญ่กว่าความทรงจำของเธอไปสามไซซ์!
“เฟยเยว่...?” เสียงกระซิบชื่อออกมาราวกับคำสาป
‘นี่มัน…บ้าไปแล้ว ฉันทะลุมาอยู่ในร่างของนางร้ายตัวแม่ในนิยายที่ฉันเพิ่งอ่านจบเมื่อคืนงั้นเหรอ!?’
ดารานางร้ายชื่อดังในนิยายแนวคลั่งรักสายวาร์ป เฟยเยว่ เธอจำผู้หญิงคนนี้ได้แม่น จากนิยายเรื่อง "พันธะหัวใจใต้เงาเถื่อน" นิยายที่เธออ่านจบไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
ร่างเปลือยสั่นสะท้านไม่ใช่เพราะหนาว…แต่เพราะความจริงตรงหน้าและความรู้สึกในร่างกายนี้ที่มัน…โดนใครบางคนเปิดซิงไปเรียบร้อยแล้ว
‘ฉัน...มาอยู่ในร่างเฟยเยว่ ในคืนที่เธอกำลังจะวางยาพระเอก!?’
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยฉากเปิดตัวร้ายสุดแซ่บ เฟยเยว่นางร้ายในนิยายวางแผนจะจับรวินพระเอกสุดเพอร์เฟกต์ ด้วยการวางยาเขา
เพราะหลงรัก คลั่งรัก และอยากได้เขามาเป็นของตัวเองโดยไม่สนว่าเขารักนางเอกตัวจริง
แต่เดี๋ยวก่อน…เมื่อคืน
เสียงครางต่ำในความมืด กล้ามเนื้อแน่นแข็งที่บดเบียดเข้ามา ริมฝีปากหยาบกร้านที่จูบเธออย่างกระหายไม่มีอะไรเหมือน "รวิน" เลย…
“คนเมื่อคืน…เขาไม่ใช่รวิน”
เพราะรวินในเรื่องนั้น ทั้งสุภาพ อ่อนโยน มีแววตาอบอุ่นเหมือนเทพบุตรสมบทบาทพระเอกนิยายแบบล้านเปอร์เซ็นต์
แต่ผู้ชายที่ ‘กิน’ เธอทั้งคืน...ที่ใช้ร่างกายเธอเหมือนเป็นของเขา ทั้งขย้ำ ทั้งลิ้มรส ทั้งกระแทกจนเธอหมดแรงแทบตาย
แววตาของเขา…มันดิบ เถื่อน ร้อนแรง และรุนแรงเกินกว่าจะเป็นพระเอกนิยายทั่วไป คือสายตาของ ปีศาจ ที่พร้อมเผาเธอให้มอดไหม้ทั้งร่าง
"ถ้าเขาไม่ใช่พระเอก…แล้วเขาคือใคร?"
หัวใจเธอกระหน่ำเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมานอกอก สติแทบจะกระเจิดกระเจิง แต่สัญชาตญาณเอาตัวรอดกลับทำงานไวกว่าอารมณ์สับสน เธอสลัดหัวแรงๆ ก่อนรีบพาร่างกายที่ยังปวดระบมลากตัวเองไปถึงปลายเตียง หวังเพียงแค่จะหาผ้าขนหนู เสื้อคลุม หรืออะไรก็ได้ที่ ไม่ใช่แบบที่ใส่แล้วจะโดนกินซ้ำอีกรอบ แต่สิ่งที่พบกลับทำให้เลือดในกายเย็นวาบ
“นี่มัน...บราเซตลูกไม้? กางเกงในตัวจิ๋ว? เดรสซีทรูคอวีเกือบถึงสะดือ!?”
เธอแทบอยากกรี๊ด แม้จะรู้ว่านี่คือร่างของ “เฟยเยว่” นางร้ายตัวแม่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมใส่ชุดชั้นในที่ดูเหมือนจะออกแบบมาเพื่อ คืนเสียตัวโดยเฉพาะแบบนี้ออกไปข้างนอกได้
“บ้าแล้ว…ถ้าใส่แบบนี้ออกไป เจอคนเมื่อไหร่ มีหวังเสียตัวอีกรอบแน่!”
คนตัวเล็กกัดฟันแน่น รีบเปิดตู้เสื้อผ้าข้างเตียง แสงแรกที่สะท้อนมาจากในตู้ทำให้เธอแทบอยากกราบขอบคุณเจ้าของห้อง
“เสื้อโค้ต!”
โค้ตผ้าวูลสีดำทรงคลาสสิก หรูหรา เรียบเฉียบ คลุมได้ถึงเข่าเป็นสิ่งเดียวในตู้ที่ดูเหมือนจะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อยั่วยวนใครทั้งนั้น เธอไม่รอช้า รีบสวมมันทับชุดชั้นในแบบไม่ลังเล ติดกระดุมทุกเม็ดแน่นจนหายใจแทบไม่ออก
“เอาล่ะ...อย่าให้ใครเห็นฉันในสภาพนี้เลยเถอะ”
เมื่อทุกอย่างพร้อม เฟยค่อยๆ แง้มประตูห้องอย่างระแวดระวัง ไม่มีใครอยู่ในห้องนั่งเล่น เสียงในเพนต์เฮ้าส์เงียบสนิทเกินไปจนน่าขนลุก
เธอก้าวเท้าเร็วแต่เบา พยายามไม่เหยียบพรมหนานุ่มจนเกิดเสียง จนพ้นโซนห้องนอนมาได้ เธอแวะหยิบกระเป๋าสะพายแบรนด์ดังที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ด้วยสัญชาตญาณนักเอาตัวรอด
“ขอโทษนะเฟยเยว่ ฉันขอยืมของในร่างเธออีกหน่อย…”