สองวันต่อมา...
เฟยนั่งนิ่งอยู่ปลายเตียง ร่างบางในเสื้อยืดตัวเดิมของแพรพลอยยิ่งทำให้เธอดูเล็กลงกว่าปกติ ราวกับใครบางคนได้พรากเอาพลังทั้งหมดจากร่างกายไป เหลือไว้เพียงเงาอ่อนๆของหญิงสาวที่เคยยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง ผมยาวสีบอร์นอ่อนถูกรวบขึ้นลวกๆอย่างไม่สนใจความเรียบร้อย ชายเสื้อยับย่น ผิวขาวซีดจนแทบไร้สีเลือด แต่ทว่าในแววตานั้น...ยังมีไฟริบหรี่ของคนที่ยังไม่ยอมแพ้ แววตาที่พยายามกวาดเก็บเศษเสี้ยวหัวใจกลับมาแม้จะบาดเจ็บแทบไม่เหลือชิ้นดี
แพรพลอยนั่งลงข้างๆ มือหนึ่งถือสำลีชุบแอลกอฮอล์ อีกมือวางลงบนไหล่ของเพื่อนสาวอย่างทะนุถนอม แววตาแม้จะพยายามเก็บความห่วงไว้ใต้คำพูดขำๆ แต่ความจริงกลับปิดไม่มิด
“สภาพแกเหมือนเพิ่งผ่านสงครามมาอ่ะเฟย...แต่หน้าก็ยังสวยเว่อร์อยู่ดีนะ หมั่นไส้จริง” เสียงบ่นเบาๆเจือเสียงหัวเราะ แต่เมื่อปลายสำลีเคลื่อนไปแตะรอยช้ำใต้แสงเช้าบนผิวบาง สายตาของเธอแข็งค้างไปที่รอยนั้น แดงคล้ำ ลึกและยังสดเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน แพรพลอยเม้มปากแน่น พยายามกลั้นไม่ให้ตัวเองเผลอสบถออกมา เธอไม่อยากซ้ำเติม ไม่อยากถาม แต่ทุกร่องรอยที่เห็นมันตะโกนเรื่องราวของมันดังพออยู่แล้ว ดังพอจะทำให้ความโกรธของคนเป็นเพื่อนปะทุอยู่ใต้ความเงียบ
ผู้จัดการสาวเม้มปากแน่น เบนสายตาไปทางอื่น ก่อนจะพูดเบาๆ“รอยนี้...มันนานกว่าที่ฉันคิดอีกนะ”
เฟยก้มหน้า ไม่พูดนิ้วมือกำชายเสื้อแน่นจนข้อนิ้วขึ้นสีขาว
“ไม่เป็นไร” แพรพลอยพูดต่อ น้ำเสียงของเธอกลับมาเป็นแม่ไก่โหมดจริงจังอีกครั้ง “อีกวันสองวันก็จาง เดี๋ยวฉันทายาให้เรื่อยๆ แกไม่ต้องกังวลอะไรเลยนะ”
ดาราสาวพยักหน้าเบาๆ ยังไม่พร้อมพูดถึงมัน แต่ก็รับรู้ได้ว่า เธอไม่ได้อยู่คนเดียว
ร่างบางนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาสีเข้ม ขาเล็กๆห้อยลงมา เสื้อยืดตัวโคร่งคลุมถึงเข่าในมือลดต่ำคือไอแพดของเฟยเยว่ที่เพิ่งเปิดดูได้ไม่นานเธอถึงกับพูดไม่ออกไม่แม้แต่จะสบตากับแพรพลอยที่ยังนั่งอยู่ใกล้ๆ
สายตาของเธอก้มต่ำ จับจ้องหน้าจอที่เต็มไปด้วยข้อความ ข่าวและคลิปฉาวแบบไม่มีจุดพัก
‘เฟยเยว่ นักแสดงสาวชื่อดังกับข่าวฉาวลือแรง’
‘วางยาพระเอกดัง หวังดันชื่อเสียง?’
‘เฟยเยว่ของเล่นของเศรษฐี หรือเหยื่อในเกมสื่อ?’
เธอไล่ดูข่าวทีละหัวแบบแทบไม่กะพริบตา คลิปเสียงหลุดตอนปาร์ตี้ ภาพเบลอๆตอนเข้าโรงแรมกับใครบางคนที่มองไม่ชัด ฉากตบกลางกองถ่ายที่มุมกล้องจับไว้ได้พอดี
“ทั้งหมดนี้...” เสียงในใจของเธอแผ่วเบา หนักอึ้งดั่งก้อนหินถ่วงในอก ถ้อยคำนั้นคล้ายเศษแก้วแหลมคมที่ต้องฝืนกลืนลงไปทีละคำ 'ไม่ใช่ฉัน...ไม่ใช่เลยสักนิดเดียว'
แต่ความจริงกลับโหดร้ายเกินกว่าจะหลอกตัวเองได้อีกต่อไป ต่อให้เธอจะไม่ใช่เจ้าของอดีตนั้น แต่ร่างกายนี้คือของเธอ ชื่อเสียงนี้คือของเธอ รอยแผลนี้....ก็กลายเป็นของเธอไปแล้ว อดีตของร่างนี้ช่างหนักหนาเกินแบก ถูกฝังไว้ในทุกคอมเมนต์หยาบช้า ทุกภาพข่าวฉาวโฉ่ และทุกคำพูดที่คนทั้งโลกพร้อมใจกันตราหน้าว่า “เธอสมควรแล้ว”
เธอกลืนน้ำลายฝืดๆในลำคอ หัวใจเต้นแรงด้วยความกลัว ความสิ้นหวังและคำถามที่กัดกินในหัว
‘ฉันจะเริ่มใหม่ได้ไหม...ในโลกที่ทุกคนอยากให้ฉันตกต่ำ?
หรือฉัน...กำลังใช้ชีวิตแทนคนที่ไม่มีสิทธิ์ได้รับการให้อภัยไปตลอดกาล?’
“ในนิยาย…เฟยเยว่เป็นนางร้ายที่ถูกทุกคนเกลียด” เสียงหวานแผ่วเบาของหญิงสาวลอยเคว้งไปในอากาศ ราวกับเธอพูดคุยกับความว่างเปล่ามากกว่าคนเป็นๆ แต่ในอกกลับปั่นป่วนราวกับลมหายใจกำลังหายไปครึ่งหนึ่ง
'มีข่าวฉาวทุกเดือน ไร้ฝีมือแต่อาศัยหน้าตา'
'จนวันหนึ่ง...ข่าววางยาพระเอกดังกลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย'
'บริษัทต้นสังกัดตัดขาด งานโดนถอด โดนด่า โดนแบนจากทุกแพลตฟอร์ม'
เสียงในหัวเหมือนตะโกนชัดขึ้นทุกคำแต่เธอกลับรู้สึกเหมือนจมหาย มือเธอสั่นตอนเลื่อนอ่านประโยคถัดไป หัวใจร่วงวูบลงไปในกระเพาะในเสี้ยววินาที
“เฟยเยว่ถูกพบว่า…กินยานอนหลับเกินขนาดในห้องพักส่วนตัว”
‘ศพในชุดนอนซีทรูแดง รอยแดงตามตัวมากมาย ไม่เหลือภาพจำของเฟยเยว่ผู้ทรงอิทธิพลในวงการ’
โลกทั้งใบเงียบลง เหลือแค่เสียงหัวใจของเธอที่เต้นช้าอย่างอึดอัดเหมือนเวลาเพิ่งหยุดเดิน
ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นช้าๆ เธอหันไปมองเงาสะท้อนในกระจกข้างห้อง ใบหน้าที่สวยราวกับนางฟ้า ทว่าดวงตาไร้ประกาย ริมฝีปากอวบอิ่ม ร่างกายเย้ายวน หน้าตาที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นดาว
ทว่านี่ไม่ใช่เครื่องประดับแห่งเกียรติ แต่มันคืออาวุธที่ผู้หญิงอีกคนใช้ต่อสู้ หรือบางที...อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เธอต้องตกต่ำจนถึงวันตาย
“นี่คือร่างของคนที่…กำลังจะตายจากการโดนเกลียดทั้งประเทศ” เธอพูดทั้งน้ำเสียงนิ่งราบแต่หัวใจปริแตก
เฟยมองเงาสะท้อนในกระจก ใบหน้าของเฟยเยว่ที่โลกทั้งใบพร้อมจะเหยียบซ้ำ ริมฝีปากสีซีดที่เคยมีคนจูบอย่างลุ่มหลง ลำคอที่ยังมีรอยจางๆ จากคืนที่เธอไม่รู้ว่าเริ่มต้นเพราะอะไร
เรือนร่างนี้...คือของผู้หญิงที่โลกเรียกว่า “นางร้าย” ที่ถูกเกลียด ถูกประณามและกำลังจะตายจากการถูกกลืนด้วยคำพูดของคนอื่น
แต่ตอนนี้ผู้หญิงที่อยู่ในร่างนี้ คือ เฟย และเธอจะไม่ยอมตายโง่เด็ดขาด
ดวงตาคู่สวยกะพริบถี่ ราวกับกำลังไล่น้ำตาที่ตีตื้นขึ้นมาโดยไม่ขออนุญาต หัวใจเธอแน่นหนึบเหมือนถูกบีบด้วยมือที่มองไม่เห็น ก่อนที่เปลือกตาบางจะค่อยๆปิดลงกลั้นทุกอย่างไว้เบื้องหลังม่านตาที่สั่นไหว เธอสูดหายใจเข้าลึกจนเหมือนจะกลืนความเจ็บทั้งหมดลงไปในปอด
ทว่าเมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง แววตาคู่นั้นไม่เหมือนเดิมอีกแล้วไร้ความสับสนไร้ความกลัว มีเพียงความนิ่งที่เหมือนพายุที่สงบก่อนถาโถม
“ขอโทษนะ...เฟยเยว่” เสียงหวานบางเบาราวกระซิบ “ถ้านี่คือร่างที่เธอจะทิ้ง...ฉันขอเก็บมันไว้เอง”
“แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้มันตายอีกแล้ว ไม่ใช่ด้วยคำพูดของใครและไม่ใช่เพราะผู้ชายคนไหน”
มือเรียวเล็กค่อยๆวางไอแพดลงบนโต๊ะข้างเตียง แสงหน้าจอที่เคยสะท้อนข่าวซ้ำซากเลือนหายไปเหลือเพียงความเงียบและลมหายใจของเธอเองที่ยังคงอยู่ แม้ร่างกายนี้จะยังเจ็บกล้ามเนื้อเหมือนถูกบีบคั้นจากร่องรอยในคืนที่ไม่เคยขอ แต่หัวใจของเธอ…ตอนนี้ตื่นแล้ว
ร่างบางยันตัวลุกขึ้นช้าๆ ความเจ็บปวดเคลื่อนไปตามข้อกระดูกเหมือนจะเตือนว่าอดีตยังทิ้งร่องรอยไว้ แต่เธอกลับไม่หวั่นไหว ทุกย่างก้าวคือการประกาศว่าเธอไม่ใช่เฟยเยว่คนเดิมอีกต่อไป
เธอเดินไปเปิดม่านผ้าแพรสีขาวถูกดึงออกจนสุด แสงแดดสาดเข้ามาเหมือนคมมีดจากฟากฟ้า กระทบร่างเปลือยไหล่ในชุดนอนที่ยังมีรอยแดงจากคืนเร่าร้อนที่คิดว่าเป็นเพียงความฝัน แสงอาทิตย์ไม่ได้ทำให้เธอพรั่นพรึงตรงกันข้าม กลับเน้นย้ำว่าร่างกายนี้งดงามถึงแม้จะเต็มไปด้วยตราบาป ผิวขาวยังเนียนใส ดวงตากลมโตยังสวย ริมฝีปากยังอิ่มเอิบ...และหัวใจของเธอยังไม่ตาย
ถ้าทั้งโลกอยากเห็น “นางร้าย” คนนี้จบอย่างอนาถ 'ฉันจะเป็นนางร้ายที่เดินสวนไฟนรกกลับขึ้นมาอย่างสง่างาม'
เพราะถ้าโลกนี้ชอบเรื่องดราม่า...
เธอจะเป็นบทดราม่าที่ไม่มีวันถูกเขียนซ้ำได้อีกเลย