อึก อึก อึก
หมอไทเกอร์คว้าแก้วรินไวน์พร้อมยกดื่ม เขาไม่ใช่คนโง่ จึงรู้สึกได้ทันทีว่าไม่ปกติ ขณะที่หันหลังให้ก็ได้ยินเสียงหวานเรียกอ้อนวอน
'ชะ ช่วยด้วย ช่วยหนูด้วยค่ะ'
เขาถอนหายใจ เดินไปหยิบกาต้มน้ำ ซึ่งเป็นน้ำอุณหภูมิปกติสาดเข้าใส่
โซ้มมม
"แอ่ก~แค่ก" จินนี่สำลัก
"ไปทำอะไรมา?!" คุณหมอถามเสียงดุดัน
"ช่วยด้วยนะคะ ช่วยหนูด้วย อ๊ะ~"
"เฮ้อออ"
ไทเกอร์วางแก้วไวน์บนโต๊ะเดินไปยืนหน้ากรงขัง จ้องมองปฏิกิริยาของคนตรงหน้า นมสองเต้าปัดแกว่งไปมาตามแรงขยับเขยื้อน มือเรียวลอดผ่านช่องเหล็กกั้นคว้าเข็มขัดหนังสีดำ
หมับ!
พยายามที่จะปลดเปลื้องกางเกงขายาวสีดำของคุณหมอออก อีกทั้งเงยใบหน้าสวยเว้าวอนร้องขอ เหมือนอยากโดนเขาขยี้ขยำเต็มทน
แต่ทว่าไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น คุณหมอข่มใจ ปัดมือของเธอทิ้งทันที แล้วเดินกลับไปยังโต๊ะ เพื่อยกแก้วไวน์ดื่มระงับสติอารมณ์พลุ่งพล่าน
"เชี่ยยยย!"
แต่พอหันกลับมาปรากฏว่า จินนี่ฉีกเสื้อผ้าตัวเองจนเปลือยล่อนจ้อน นั่งถ่างขาอ้ากว้างอยู่ในกรงขังขนาดใหญ่
ทั้งที่เขาเกลียดสาวประเภทสองเข้าไส้ แต่ทำไมกับเธอถึงปลุกเร้าอารมณ์ได้ขนาดนี้
คุณหมอเริ่มขยับเนกไทปลดกระดุมให้หายใจคล่อง จากนั้นเดินไปเปิดประตูที่เชื่อมต่ออีกห้อง เป่านกหวีดเสียงดัง ปรี๊ด~
ไม่กี่วินาที จระเข้ตัวใหญ่ยักษ์ที่หลับอยู่ข้างกรงขัง ก็คลานเข้าไปอยู่อีกห้องอย่างว่าง่าย
โซ้มมม
คุณหมอตัดสินใจทำบางอย่าง เดินไปหยิบแอลกอฮอล์จากตู้เก็บของ สาดราดบนร่างกายของตัวเล็ก น้ำเสียงทุ้มต่ำพูดชัดถ้อยคำ
"คนสกปรกก็ต้องฆ่าเชื้อ" ทันทีที่ประโยคสิ้นสุด คุณหมอก็ปลดเข็มขัดงัดอาวุธคู่กายผ่านซิปกางเกง "ใช้ปากโสโครกของเธอดูดเอ็นแข็งของฉันจนเสร็จ แล้วจะพิจารณาอีกที..ว่าควรจะเอามันยัดใส่รูร่านๆ ของเธอดีไหม หึ"
เขารู้ดีว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังต่อต้านฤทธิ์ยา แต่ถ้าไม่ได้รับการปลดปล่อยก็อาจจะบ้าคลั่ง เท่าจากที่สังเกตอาการ คงไม่ใช่ยาชนิดรุนแรง
ครืนนน ครืนนน
ยังไม่ทันที่จะได้เริ่ม เสียงโทรศัพท์ก็ดังต่อเนื่องหลายครั้ง จนคุณหมอต้องเดินไปกดรับ
(มีญาติต้องการผลตรวจพิสูจน์ศพฆาตกรรมเมื่อสัปดาห์ก่อนด่วนค่ะคุณหมอ)
"วันนี้ฉันหยุด"
(พอดีคุณหมอสมชายน่าจะเดินทางมาไม่ทันค่ะ รบกวนคุณหมอไทเกอร์มาตรวจสอบเอกสารให้ญาติที่มารอเซ็นรับก่อนได้ไหมคะ เนื่องจากเป็นเคสสำคัญด้วยค่ะ)
"อืมมม ถ้างั้นเดี๋ยวฉันรีบไป"
เนื่องจากเป็นแพทย์ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ฉุกเฉินได้ แต่ไม่ใช่การผ่าตัดหรือวิเคราะห์ใดๆ เป็นเพียงการอ่านเอกสารและเซ็นรับรองถึงการตรวจร่างกายของศพที่นำมาไว้โรงพยาบาลเอกชน เขาจึงรีบจัดการอารมณ์ตัวเองให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
แกก แกะ
"คุณหมอ ฮึกก~คุณหมอขา" เสียงเรียกของจินนี่ยังคงเว้าวอนความต้องการ มือเรียวขยำเรือนร่างจนกระทั่งหมอไทเกอร์ตัดสินใจเดินไปหยิบเข็มฉีดยาแล้วนำมาฉีดเข้าสู่ร่างกาย
ยาสลบที่นำมาใช้ เขาใช้ในปริมาณเล็กน้อย
เช้าวันต่อมา
เมื่อฟื้นคืนสติจึงได้รู้ว่าคุณหมอไทเกอร์สั่งให้แจนไปพาตัวของจินนี่กลับมา อีกทั้งเธอยังสวมใส่เสื้อผ้าของเขาด้วย
"หนูว่าไม่ได้ดื่มเหล้านะคะพี่แจน"
"ไม่ได้ดื่มแล้วทำไมสภาพเหมือนคนเมา แถมยังเสื้อผ้าหายไป ดีคุณหมอเขาไม่ไล่ออกรู้ไหม! เมาแล้วเลอะเทอะ ข้ามไปเขตต้องห้ามอีกทำไม"
"หนูไม่ได้เมาจริงๆ นะคะ แต่..หนูจำได้แค่ว่าพอดื่มชาแก้วนั้น ก็เหมือนไม่ได้สติไปเลย"
"ชาแก้วไหน?"
จินนี่เริ่มเรียบเรียงทุกอย่างให้เพื่อนสนิทพี่ชายฟัง เมื่อวิเคราะห์ออกมาอีกฝ่ายก็ถอนหายใจ พูดอย่างหงุดหงิด "ต้องมีคนจงใจแกล้งนางเบลล่าแน่ๆ แต่เธอดันซวย! มารับเคราะห์แทน วงการนี้อยู่ยากจะตาย"
"แกล้งกันแรงไปหรือเปล่าคะ?!"
"มีแรงกว่านี้อีกเยอะ เดี๋ยวอยู่ไปเธอก็จะรู้เอง วงการนางโชว์ไม่ได้สวยหรูเหมือนเบื้องหน้าที่พวกเราเห็น ระวังตัวเอาไว้ด้วยก็ดี"
สาวน้อยได้แต่ครุ่นคิด ว่าทำไมถึงมีการใช้ความรุนแรงขนาดนี้ ตลอดเวลาที่พี่ชายของเธออยู่ที่นี่ จะโดนอะไรบ้าง? หรือเป็นเพราะถูกรังแก จึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย
แต่ที่แน่ๆ ก็ยังไม่ตัดเป้าหมายอย่างคุณหมอทิ้ง ซึ่งเขาอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน