ปาริมาขับรถจักรยานยนต์คู่ใจมายังสวนสาธารณะ ที่อยู่ถัดเข้ามาจากโรงพยาบาลไม่ไกลมากนัก จอดอีแก่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เดินลงมาทรุดตัวลงนั่งกอดเข่ามองสระน้ำที่มีดอกบัวสีชมพูกำลังบานรับแสงตะวัน น้ำตาที่พยายามกลั้นมาตั้งแต่โรงพยาบาลจนถึงสวนสาธารณะไหลออกมาเป็นสาย สองแขนเล็กโอบกอดเข่าตัวเองไว้ ซบหน้าลงกับเข่า คำว่าน้ำตาเช็ดหัวเข่ามันเป็นแบบนี้นี่เอง ปาริมาไม่รู้ว่าตัวเองควรเสียใจเรื่องไหนก่อนดี ระหว่างเรื่องข้าวกล่องที่ชวิศไม่เคยทาน หรือเรื่องที่ถูกชายหนุ่มไล่ตะเพิดให้กลับบ้าน และยังบอกให้เธอขอโทษหมอพลอยอีก คำพูดของชวิศบ่งบอกได้เป็นอย่างดี ว่าเขาโกรธเธอเข้าให้แล้ว ไม่พอใจเธอแล้ว ที่ไปพูดแบบนั้นในที่ทำงานของเขา ไปต่อว่าหมอพลอยของเขาเสียๆ หายๆ เช่นนั้น ปาริมายอมรับ ว่าเธอก็ผิดเช่นกันที่ทำอะไรขาดสติแบบนั้นลงไป พูดจาไม่น่ารัก ไม่รักษาหน้า ชวิศเลย แต่เธอเสียใจจนคุมสติอารมณ์ตัวเองไม่ได้จริงๆ เธอยอมรับว่าเธอ