ฉลามถอดเสื้อผ้าที่ใช้ถ่ายแบบตั้งแต่เช้าออกจากเรือนร่างด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเกินจะบรรยาย เขาเคยบอกผู้จัดการส่วนตัวแล้วว่าไม่ให้รับงานที่มีลูกค้าเรื่องมากแบบนี้
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรียกความสนใจให้คนที่เปลือยท่อนบนต้องสาวเท้าออกไปดู มือหนาปลดล็อกกลอนประตูก่อนจะกลับมาทรุดนั่งบนโซฟาพร้อมยกขาวางบนโต๊ะอย่างเสียมารยาท
“ยังถ่ายไม่เสร็จเลยนะ”
“ไม่ถ่ายมันแล้ว ลูกค้ามากเรื่องจะตายน่ารำคาญ!”
“เหลือแค่สามชุดเองฉลาม”
ผู้จัดการสาวประเภทสองอย่าง ‘แมนนี่’ รีบคะยั้นคะยอนายแบบของตัวเองให้ยอมไปถ่ายงานต่อ แม้เธอจะเห็นด้วยกับความเรื่องมากของลูกค้าทว่าค่าตัวชายหนุ่มตรงหน้าไม่ใช่ถูกๆ เขาก็คงอยากจะได้งานที่คุ้มค่าที่สุด
ในตอนนี้ ‘ฉลาม’ จัดได้ว่าเป็นเบอร์หนึ่งของวงการนายแบบ ความโด่งดังส่งผลให้เจ้าตัวเป็นที่รู้จักและมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยเลยที่อยากจะได้ไปร่วมงาน ด้วยรูปลักษณ์มีใบหน้าหล่อคมคาย อีกทั้งยังเป็นลูกชายนักธุรกิจไฮโซ จึงเป็นโปรไฟล์ที่ใครๆ ก็ต่างพากันสนใจ
“จะหนึ่งชุดหรือสามชุดผมก็ไม่ถ่าย”
ฉลามลอบถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา เขาดันตัวลุกยืนเต็มความสูงเพื่อเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านในห้องแต่งตัวอีกครั้ง
“อยู่ๆ จะมาทิ้งกองถ่าย ทิ้งลูกค้าแบบนี้ได้ยังไง”
“ฝากจัดการด้วยนะครับ เงินค่าเสียเท่าไหร่ค่อยส่งบิลมาเก็บที่ผม”
“ไม่ใช่แค่จ่ายเงินแล้วจบฉลาม!”
“ปกติก็จบนะ เจ๊ก็ทำเหมือนเดิมสิครับ”
ชายหนุ่มไหวไหล่ตอบกลับอย่างไม่ทุกข์ร้อน เขาใช้มือเซ็ตผมดกดำของตัวเองก่อนจะยกแว่นตาแบรนด์หรูขึ้นมาสวมใส่ขณะเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกไปจากห้อง
ภาพนายแบบหนุ่มก้าวขาขึ้นรถสปอร์ตทำเอาทีมงานที่นั่งทอดมองอยู่ในห้องถ่ายงานต้องเบิกตากว้าง พวกเขารีบเรียกตัวผู้จัดการส่วนตัวมาคุยแทบจะในทันที เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกเจ้าตัวเทงานแบบนี้
ประโยคด่าทอแสดงออกถึงความไม่พอใจทำเอาแมนนี่รีบยกมือไหว้ขอโทษขอโพยยกใหญ่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอจะเป็นคนมาคอยรับหน้าแทนให้นายแบบหนุ่มทว่าโดนจนชินชาแล้วเสียมากกว่า
ร่างสูงสมส่วนสมกับเป็นนายแบบแถวหน้าของเมืองไทยเดินผิวปากอย่างสบายอารมณ์หลังขับรถมาถึงคฤหาสน์ใหญ่ ขายาวต้องชะงักหลังเห็นร่างเล็กนั่งก้มๆ เงยๆ อยู่ในสวนดอกไม้
ไวกว่าความคิดชายหนุ่มรีบสาวเท้าเดินเข้าไปดูด้วยความสงสัย ก่อนจะเห็นภาพมารดานั่งปลูกผักสวนครัวร่วมกับป้าแม่บ้านและคนสวนที่ขะมักเขม้นใช้จอบขุดดินขึ้นมาทำแปลง
“แปลงนั้นยกดินให้สูงหน่อยนะ ฉันจะปลูกผักคะน้า”
“ทำอะไรอยู่ครับแม่”
เสียงเอ่ยถามของลูกชายทำเอาใบหน้าที่ยังคงความสวยเอาไว้ไม่สร่างของ ‘คุณหญิงศจีรัตน์’ ถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา เธอรู้ข่าวว่าพ่อคุณตัวดีออกไปถ่ายงานตั้งแต่เช้าแต่กลับมาเวลานี้คงหนีไม่พ้นไปสร้างเรื่องเอาไว้อีกตามเคย
“มานั่งปลูกเองให้เหนื่อยทำไมครับ ทำอย่างกับบ้านเรายากจนข้นแค้นไปได้”
“เงียบปากไปเลยฉลาม!”
“ผมพูดเรื่องจริง กะอีแค่ซื้อผักสิบยี่สิบบาทแม่จะมาคิดเล็กคิดน้อยทำไม”
“สิบยี่สิบบาทก็เงินทั้งนั้น แล้วที่สำคัญแม่ปลูกเองไม่ต้องมานั่งกังวลถึงสารพิษ”
“ทำไมไม่เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ หรือเลี้ยงปลาไปด้วยเลยครับ จะได้ไม่ต้องซื้อเอา”
ฉลามยืนกอดอกพร้อมกล่าววาจาประชดประชันมารดาที่มีนิสัยขี้งกไม่สมเป็นคุณหญิงเหมือนกับคนอื่นๆ เวลาว่างท่านควรจะนั่งๆ นอนๆ ใช้จ่ายเงินให้สุขสบาย ไม่ใช่มานั่งตากแดดปลูกผักไร้สาระแบบนี้
“คุณฉลามรู้ใจคุณหญิงมากครับ เมื่อกี้ท่านเพิ่งให้ผมไปทำคอกเลี้ยงไก่”
“เอาเข้าไป ต่อไปคฤหาสน์คงมีไก่ มีหมูเดินเต็มไปหมด”
“พูดมาก ไม่ช่วยก็เงียบปากไปเลย”
“เอาเวลาว่างไปทำเรื่องที่มีสาระดีกว่าไหมครับ”
“งั้นลูกชายตัวดีของแม่บอกหน่อยสิว่าให้ทำอะไรที่มีสาระดี” คุณหญิงศจีรัตน์เอ่ยถามกลับอย่างประชดประชันไม่แพ้กัน ภายในจิตใจเบื่อหน่ายนิสัยของลูกชายเต็มทนแล้ว
“ก็อย่างเช่น นั่งขัดเครื่องเพชรหรือดูคอลเลคชั่นกระเป๋าใหม่ก็ได้”
คนเป็นแม่วางเสียมในมือที่กำลังใช้ขุดดินลงก่อนจะลุกขึ้นมายืนหน้าชายหนุ่ม ไม่รอช้าที่จะยกมือเพ่นกบาลซึ่งคาดว่าข้างในคงจะกลวงจนไม่มีสมองหรือความคิด
“ใครสอนให้แกโง่อย่างนี้นะ!”
“มือแม่สกปรกจะตาย ยังกล้าเอามาแตะต้องตัวผมอีก”
ฉลามรีบปัดเศษดินที่เปื้อนบนเส้นผมของตัวเองอย่างนึกรังเกียจ ทว่าต้องรีบหลบฝ่ามืออรหันต์จากมารดาหลังเจ้าตัวหมายจะเข้ามาจัดการเขาอีกรอบ
“คุณหญิงใจเย็นๆ ค่ะ” /
ป้าแม่บ้านรีบปรี่เข้ามาห้ามศึกระหว่างแม่กับลูกที่มักจะปะทะคารมกันบ่อยครั้ง ก่อนจะเห็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลรีบวิ่งเข้าไปหลบในคฤหาสน์อย่างไว
“ไอ้ลูกชายคนนี้ทำประสาทเสียได้ทุกวัน”
“คุณฉลามก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ”
“บอกตามตรงเลยนะว่าฉันเครียดมาก โตอย่างกับควายแล้วยังทำนิสัยแบบนี้อีก”
คุณหญิงศจีรัตน์เริ่มวิตกกังวลถึงนิสัยใจคอของลูกชายที่แทบไม่มีความเป็นผู้ใหญ่อะไรเลย ถึงจะมีงานทำเป็นนายแบบโด่งดังทว่าเจ้าตัวก็มักจะสร้างปัญหาจนเธอและสามีคอยตามล้างตามเช็ดให้ตลอด
ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรกหลังเห็นรถของผู้จัดการส่วนตัวอย่างแมนนี่ ร่างสูงเดินเข้ามาหาเธอพร้อมยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะคุณหญิง”
“อย่าบอกนะว่าไอ้เจ้าตัวดีไปสร้างเรื่องไว้อีกแล้ว”
“รอบนี้ค่าปรับห้าล้านบาทค่ะ”
“ตอนเด็กๆ ฉันน่าจะเอาขี้เถ้ายัดปากมัน!”
แมนนี่ยื่นเอกสารค่าปรับที่ทางลูกค้าฟ้องร้องมาเป็นค่าเสียหาย ก่อนจะยกมือไหว้เพื่อร่ำลาคุณหญิงตรงหน้าอีกครั้ง
คุณหญิงศจีรัตน์กำเอกสารในมือแน่นพร้อมกระแทกเท้าเดินเข้าไปในบ้านด้วยอารมณ์โกรธกร้าว เธอไม่ได้กังวลเรื่องเงินค่าปรับแต่กังวลถึงประวัติเสื่อมเสียที่ลูกชายสร้างเอาไว้ไม่หยุดหย่อน
“ไอ้ลูกเวร!”
“อะไรอีกแม่! อยู่ๆ ก็มาด่าลูก”
ฉลามที่นั่งทอดขาเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือต้องเงยหน้ามองมารดาหลังได้ยินคำด่าแบบนั้น ไม่ทันจะได้รับคำตอบซองเอกสารก็ลอยปลิวมาตรงหน้า
“รอบนี้น้อยกว่าทุกครั้งอีกนะครับ”
ชายหนุ่มไหวไหล่อย่างไม่ทุกข์ร้อนหลังเห็นยอดเงินค่าปรับ ทว่าต้องรีบทำหน้าเจื่อนเมื่อมีสายตาดุดันจ้องมองมาอย่างคาดโทษ
“ก็ลูกค้ามันเรื่องมาก ส่วนเสื้อผ้าที่เอามาให้ผมใส่ก็รสนิยมแย่อีก”
“นายแบบทำงานห่วยแตกแบบนี้แล้วต่อไปใครมันจะโง่จ้างอีก”
“โห่แม่ ว่าผมห่วยแตกเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ความเป็นมืออาชีพแกไม่มีเลยฉลาม”
“ผมไม่แคร์ แม่ก็เห็นว่ามีคนรอต่อแถวอยากได้ผมไปร่วมงานเต็มไปหมด”
“จ้าพ่อคุณ ก็ขอให้มีคนโง่อยากได้แกไปทำเถอะ”
ฉลามมองค้อนมารดาที่ชอบด่าทอเขา ชายหนุ่มไม่สนใจด้วยซ้ำว่าใครจะคิดยังไงเพราะหากเขาไม่ได้ทำงานก็สามารถนอนใช้เงินได้อย่างสบายใจ
“เสียงดังโวยวายอะไรกัน”
“คุณก็ดูลูกชายเทวดาของตัวเองสิไปสร้างเรื่องอะไรไว้อีก”
ขายาวที่วางพาดบนโต๊ะรีบยกลงอย่างไว ร่างสูงดันตัวขึ้นนั่งในท่าทางเรียบร้อยพร้อมฉีกยิ้มกว้างให้บิดา ก่อนจะเห็นคนตรงหน้าขมวดคิ้วระหว่างใช้สายตาอ่านเอกสารปรับเงิน
“นึกว่าเรื่องอะไร”
“คุณว่าอะไรนะ”
‘สมุทร’ ลอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อยอย่างไม่ทุกข์ร้อน เขาทรุดนั่งข้างๆ ลูกชายที่ทอดสายตาให้อย่างน่าสงสาร มือหนารีบหยิบเช็คขึ้นมาขีดเขียนจำนวนเงินห้าล้านลงไป
“เอาไปจ่ายเขา”
“ขอบคุณครับพ่อ”
ฉลามยกมือไหว้คนตรงหน้าอย่างนอบน้อมที่สุดพร้อมรับเงินมาถือไว้ ทันทีที่เห็นคนเป็นแม่ฉายชัดความโกรธก็รีบขยับตัวหลบด้านหลังบิดาอย่างไว
“เงินแค่ไม่กี่ล้านเองคุณจะอะไรหนักหนาศจี”
“ถึงว่าลูกฉันสมองได้โง่ลงทุกวัน ก็เพราะอวยกันอย่างนี้ไง”
“พ่อครับ แม่ด่าหนูอีกแล้ว” ฉลามเอ่ยเรียกชื่อบิดาเสียงแผ่วเพื่อเอ่ยฟ้องหลังจากถูกคนเป็นมารดาใช้วาจาว่ากล่าวดุด่ากันอีกแล้ว
“อย่าด่าลูกต่อหน้าผมแบบนี้นะ”
“งั้นเหรอคะ”
สมุทรที่เริ่มจะเห็นความเกรี้ยวกราดในตัวภรรยาคนสวยก็รีบส่งสายตาให้ลูกชายสุดที่รักวิ่งขึ้นไปหลบในห้อง พร้อมเอาตัวเองมาเป็นเกราะกำบังรับแรกกระแทกที่รุนแรงแทน
“โอ๊ย! ผมเจ็บนะ” มือเมียเขาเบาเสียที่ไหน
“ไม่เคยคิดที่จะสอนลูก ตามใจจนเสียคนไปแล้วเห็นไหม!
“เจ็บๆ ผัวเจ็บไปทั้งตัวแล้ว”
นักธุรกิจหมื่นล้านรีบวิ่งหนีภรรยาที่เข้ามาทำร้ายร่างกายอย่างทุกครั้งเวลาออกตัวปกป้องลูกชายตั้งแต่เด็กจนโต
“ที่รักพอเถอะ ลูกมันก็แค่ทำผิดเล็กๆ น้อยๆ เอง”
“ยังจะกล้ามาพูดอีก”
“โธ่ ผมก็สอนลูกอยู่”
“งั้นเหรอ ตอนเด็กที่ลูกไปมีเรื่องแทนที่จะห้ามกลับไปดีใจที่ไอ้เจ้าตัวดีมันต่อยเพื่อนชนะ นี่เรียกว่าสอนเหรอ!”
“ก็ลูกเราเก่ง” เป็นผู้ชายควรจะแข็งแกร่งไม่ยอมให้ใครมารังแกได้ แม้ฉลามจะเข้าไปหาเรื่องเขาก่อนก็เถอะ
พูดแล้วก็ภูมิใจที่มีลูกชายเก่งขนาดนี้
.
.
.