5. เธอต่างหาก

1335 คำ
ช่วงเวลาเย็น_ "ค่ะ เดี๋ยวณิกลับเข้า..." ขณะที่ร่างอรชรกำลังเดินคุยโทรศัพท์กับมารดา เธอเห็นว่าที่เจ้าบ่าวยืนคอยอยู่หน้าบริษัท ลำตัวพิงกับบานประตูรถยนต์มาดสง่า แต่ใบหน้านิ่งเรียบไม่ต่างจากเมื่อก่อน "เดี๋ยวณิโทรหาแม่อีกทีนะคะ พอดีติดคุยธุระแป๊บนึงค่ะ" เธอรีบวางสายสนทนาก่อน เผื่อว่าจะต้องคุยกับไตรภูมิแล้วเกิดการทะเลาะกันทำให้มารดาไม่สบายใจ ร่างอรชรเลยเดินลัดออกมาทางหน้าประตู เบี่ยงเบนจุดสนใจพวกพนักงานที่กำลังยุ่งกับการเก็บของเตรียมกลับบ้าน "พี่ไตรมาทำไมคะ?" "มารับไปกินข้าวที่บ้าน" ร่างสูงบอกเสียงราบเรียบ มองดูคนตัวเล็กไม่ได้ใส่ชุดเหมือนเมื่อช่วงบ่ายแล้ว ปกปิดร่องรอยทุกอย่างบนกายได้ดี "คือณิจะไปโรงพยาบาลต่อ" เธอบอกเสียงหนักใจ อีกฝ่ายไม่เคยจะมารับหรือแวะมาถามถึงสักรอบ "งั้นก็แวะไปที่โรงพยาบาลก่อน แล้วไปนอนบ้านพี่" "มะไม่ไปแล้วนะ มันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของเราแล้วพี่ไตรก็รู้" ณิชารีบบอกเสียงตะกุกตะกัก "แค่ไปกินข้าวมันดึกก็นอนที่นั่นเลย คิดอะไรอีก?" คิ้วหนาขมวดถามสงสัยกลับ อีกฝ่ายคงไม่คิดว่าเขาจะบ้ากามถึงขั้นทำทั้งวันทั้งคืนหรอกนะ ทั้งที่ก็บอกไปแล้วว่าไม่เคยคิดอะไรด้วย "บอกดีๆ ตั้งแต่แรกก็จบแล้วไหม" "ทะลึ่งซะไม่มี" ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมา เพิ่งจะเข้าใจความหมายที่ณิชาคิด "พี่ไตรด่าณิเหรอ?" เกิดมายังไม่เคยมีใครด่าเธอเลยด้วยซ้ำ แล้วเขาเป็นใครก็แค่สามีเอง "ใช่" "....." เรียวปากบางเบะใส่อย่างห้ามไม่ได้ "สรุปจะไปหรือไม่" ฝ่ายคนบอกเพ่งมองนิ่ง "แต่ณิจะต้องเอาของไปให้แม่ที่โรงพยาบาลอีกนะ พี่ไตรกลับไปก่อนก็ได้ แล้วเดี๋ยวณิขับรถไปเองค่ะ" เสียงหวานบอก "ขึ้นรถนี่เป็นคำสั่ง" ร่างสูงเลือกจะเดินนำขึ้นไปฝั่งคนขับก่อน เขาไม่ได้มีเวลารอมากนัก ไหนจะรถยนต์ของตรีที่มาดักซุ่มดู คงจะอยากเปลี่ยนอะไรในตอนที่ไม่ทันแล้ว "แน่ใจนะคะว่าพาไปกินข้าวที่บ้าน ณิไม่อยากยุ่งอะไรกับใครนะวันนี้เหนื่อยแล้ว" ทันทีที่เธอขึ้นนั่งบนรถยนต์ก็เห็นสายตาของไตรภูมิมองกระจกหลัง เลยรู้ได้ว่าเขาต้องการสิ่งใดอีก "ทำหน้าที่ของตัวเองก็พอ" ปลายเท้าแกร่งเหยียบคันเร่งรวดเร็ว จนรถยนต์กระชากตัวพุ่งเข้าสู่ถนนใหญ่ "......" ใบหน้าสวยหันมองทางคนขับ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคุยกับเธอเลย แทบจะนับคำได้เวลาไปเล่นที่คฤหาสน์ของครอบครัวเขา จนมารู้ว่าต้องแต่งงานกันอีกฝ่ายก็มีแผนการณ์ได้น่ากลัวมากจริงๆ "นานไหม?" "คะ?" เสียงใสถามสงสัยบ้าง "จะมองหน้าอีกนานไหม ไม่ใช่ว่าแค่นอนด้วยกันวันเดียวจะมาหลงพี่แล้วเหรอ" ฝ่ายคนบอกหันมายกยิ้มมุมปาก ถึงจะเหลียวสนใจมองท้องถนนต่อ "พี่ไตรฝันอยู่เหรอคะ" ร่างอรชรรีบตะแคงตัวมองนอกรถฝั่งด้านข้างแทน มันน่าหมั่นไส้กับน้ำเสียงและท่าทางอีกฝ่ายมากๆ "พี่แค่จะเตือนไว้ ไม่ว่ายังไงก็อย่ามาหลงรักกันล่ะ ไหนๆ มันก็แค่เรื่องสมมุติทั้งนั้น" "......" เธออยากระบายออกมาให้คนด้านข้างรับรู้ซะจริงๆ ไหนจะต้องเสียตัวแล้ว ยังโดนถ้อยคำที่เป็นดั่งมีดปลายแหลมทิ่มเข้าหัวใจอีก "เธอเองต่างหากที่จะเสียใจไม่ใช่พี่" ไตรภูมิย้ำน้ำเสียงเข้ม ถึงจะจับพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้าทางบ้านของณิชา มีน้องสาวของเธอกำลังนั่งอ่านหนังสือตรงหน้าบ้านพอดี "ขอบคุณนะคะที่เตือนสติณิ แต่ไม่ว่ายังไงณิก็จะไม่รักพี่ไตรเด็ดขาด..ณิมั่นใจมาก" "ดี พูดคำไหนก็คำนั้นจำไว้ด้วย" "ค่ะพี่ไตรภูมิ" ณิชาทำหนักแน่นเลียนแบบเขา หวังก่อกวนอารมณ์ผู้ฟังคืน มันไม่มีทางหรอกที่จะไปหลงรักผู้ชายใจร้าย ตุ๊บ~ ร่างอรชรเลยรีบเปิดประตูรถลงไปหาน้องสาว สวมกอดกันแน่นตามประสาพี่น้องที่รักใคร่มาตลอด ท่ามกลางสายตาคมที่เกิดเป็นลูกคนเดียว "วันนี้พี่ณิจะไม่กลับบ้านจริงๆ เหรอ ณดาจะนอนคุยกับใครล่ะเนี้ย สงสัยต้องเหงาแน่ๆ เลย" ฝ่ายน้องสาวรีบอ้อนไม่หยุด อายุห่างกันถึงสามปีแต่ก็สนิทกันมากๆ "หรือณดาจะไปนอนที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนแม่ล่ะ พรุ่งนี้พี่จะรับไปส่งมหาลัยให้ดีไหม" "จริงๆ นะพี่ณิ..ว่าแต่มากับเจ้าบ่าวเหรอคะ" เธอเพิ่งเห็นไตรภูมิตอนเขาลงจากรถ เลยรีบพนมมือทักทายทางว่าที่พี่เขยก่อน ทั้งที่ก็ไม่มีเคยคุยกับเขามารู้อีกทีก็เจอผู้ใหญ่จับแต่งงานกับพี่สาวซะแล้ว "คือณดาจะติดรถไปโรงพยาบาลด้วย พี่ไตรสะดวกไหมคะไม่งั้น..." "ได้สิ ไหนๆ ก็จะแวะไปอยู่แล้ว" เขาบอกน้ำเสียงนิ่งเหมือนทุกครั้ง พยักหน้าให้ณดารีบไปเก็บของก่อน "งั้นณดาจะรีบลงมานะ" น้องสาวเผยยิ้มแฉ่งรีบขยับไปหอมแก้มพี่สาว ถึงจะรีบวิ่งเข้าไปในบ้านต่อท่าทางดีใจ "รอแป๊บนะคะเดี๋ยวณิจะเร่งณดาให้" "ไม่ต้องรีบ พี่จะโทรคุยงานก่อน" ว่าจบร่างสูงเลยเดินวนกลับไปที่รถยนต์ ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือมาต่อสายสนทนา ไม่ทันจะฟังเสียงของว่าคนตัวเล็กบอก "เฮ้อ..." เธอก็ไม่รู้จะเดาความคิดของเขายังไง แต่ก็ช่างเถอะดีกว่ามาทะเลาะกันให้คนในบ้านเห็นไม่งั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ได้ ชั่วโมงต่อมา_ "ตื่นเต้นจัง..วันแต่งงานพี่ณิขอณดาชวนเพื่อนมาเยอะๆ เลยนะ อยากโชว์ว่าพี่สาวตัวเองต้องสวยมากแน่ๆ " ฝ่ายน้องสาวนั่งอยู่เบาะหลังคนขับรถ พูดส่งเสียงตลอดทางชวนให้พี่สาวพลอยกังวล "ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ ไม่ชอบคนเยอะ" เสียงใสรีบบอกก่อน "วันแต่งงานทั้งทีนะพี่ณิ เขาว่าผู้หญิงต้องสวยที่สุดในวันแต่งงานอยู่แล้ว ว่าแต่ได้ไปเลือกชุดแต่งงานกันยัง" "ไว้พี่ว่างก่อนน่ะ" เกิดความลำบากใจที่จะตอบ ในเมื่อเธอและว่าที่เจ้าบ่าวไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เลย ใบหน้าสวยเลยเหลียวมองคนด้านข้าง เขาก็มีท่าทีเฉยชาราวไม่สะทกสะท้าน "เบาๆ งานลงหน่อยก็ได้ ไหนจะไปเฝ้าคุณพ่อ ไหนจะไปทำงานไว้ให้ณดาเรียนจบมาช่วยนะ พี่ณิจะได้ไม่ต้องเหนื่อย" "ตั้งใจเรียนก่อนเถอะค่อยมาช่วย พี่ไม่ได้รีบสักหน่อย" ร่างอรชรเลยชะโงกตัวไปฝั่งคนด้านหลัง เอื้อมมือบางไปวางบนศรีษะน้องสาวอย่างเอ็นดู "นั่งดีๆ หน่อยพี่มองไม่เห็นกระจกหลัง" เป็นน้ำเสียงเข้มเอ่ยเตือน "....." ณิชาเลยรีบกลับมานั่งตำแหน่งเดิม พลางถอนหายใจมองใบหน้าหล่อเหลา ที่ไม่รู้จะทนความรำคาญได้อีกนานเท่าไหร่ "งั้นพี่ณิชวนพี่ไตรขึ้นไปหาแม่กันนะคะ ต้องดีใจมากๆ แน่เลยมีทั้งลูกเขยกับลูกสาวมาหา" ฝ่ายคนบอกรีบเก็บสัมภาระใส่กระเป๋าเป้ ยามที่ถึงโรงพยาบาลที่บิดานอนพัก "ขึ้นไปก่อนเลย พี่มีคุยธุระเดี๋ยวตามไป" "ค่ะ.." ดวงตาคู่สวยดันไปเห็นภาพหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ไตรภูมิกำลังจะกดรับสาย คือผู้หญิงคนนึงหน้าตาไปในทางที่สวยมากๆ ระดับนึงเลย ................................
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม