“ว๊าว!...บ้านของเจี๊ยบเนี่ยน่าอยู่จังเลยเนอะ”
ดารากานต์อุทานด้วยความตื่นเต้นขณะถอดแว่นตากันแดดออกหลังจากเดินทางมากับเพื่อนสนิทด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากเมืองหลวงเพื่อพักร้อนผ่อนคลายช่วงปิดเทอมของมหาวิทยาลัยที่ปิดยาวเกือบสองเดือน มุ่งหน้ามายังเขตชานเมืองซึ่งเป็นชนบทและไร่สวนเรือกนา เขียวขจีและสดชื่นด้วยลำธารไหลผ่านหมู่บ้าน ขณะนั้น จีรนันท์ เพื่อนสนิทของหล่อนวึ่งเป็นคนขับรถก็ดับเครื่องยนต์หน้าบ้านทรงไทยหลังใหญ่ รอบ ๆ ครึ้มด้วยหมู่แมกไม้น่าอยู่เป็นที่สุด
“ชอบล่ะซีกานต์...เนี่ยล่ะบ้านฉัน อยู่บ้านนอกแต่บรรยากาศดีอย่างบอกใครเลยล่ะ”
เด็กสาววัยสิบแปดหน้าตาหมดจดหันบมาบอกเพื่อนสาวของหล่อนที่ทั้งสองสนิทสนมกันตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมปลาย จีรนันท์แม้บ้านอยู่ชนบทแต่ครอบครัวส่งหล่อนไปเรียนในเมืองหลวงเพื่อความก้าวหน้าและเปิดโอกาสทางการศึกษา หล่อนเป็นเด็กเรียนเก่งแต่มีเพื่อนที่สนิทกันจริง ๆ คือดารากานต์ ซึ่งเป็นคุณหนูสาวลูกคนรวย พ่อแม่ของหล่อนทำธุรกิจทำให้ต้องเดินทางไปมาต่างประเทศอยู่บ่อย ๆ แต่หล่อนก็ยังเป็นเด็กสาววัยใสที่รักการเรียน แม้ไม่มีพ่อแม่อยู่ใกล้ดารากานต์ก็ไม่ทำตัวเละเทะ ไม่เที่ยวเตร่ แต่จัดการตัวเองให้อยู่ในกรอบของเด็กดีมาตลอด
ดารากานต์เป็นสาวสวยหน้าใส แต่รูปร่างของหล่อนเหมือนนางแบบหนังโป๊ญี่ปุ่น เพราะหน้าตาของหล่อนเหมือนสาวน้อยที่ไม่ประสีประสาเรื่องผู้ชายแต่เรือนร่างอวบอิ่มได้ใจ ตัวเล็กผิวขาวเหมือนหยวก แขนขาสมส่วนไม่อ้วนไม่อิ่มมากจนเกินไป เอวกิ่ว หน้าอกใหญ่ เป็นหุ่นของสาวในฝันที่ทำเอาเพื่อนหนุ่ม ๆ ร่วมรุ่นในมหาลัยต่างฝันถึง ใช่แล้ว...ดารากานต์ และจีรนันท์เพิ่งเข้ามหาทวิทยาลัยปีหนึ่ง และนี่เป็นช่วงปิดเทอม ทั้งสองจึงวางแผนกันว่าจะหาที่พักผ่อน ดารากานต์จึงเสนอว่าหล่อนอยากเที่ยวแถวชนบท จีรนันท์ก็เลยนำเสนอบ้านของหล่อนเองเป็นที่พักผ่อนซึ่งเพื่อนสนิทของหล่อนก็เห็นด้วย ขณะนั้นดารากานต์ก้ชะเง้อมองไปยังบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ของเพื่อนสาว
“อืม...บรรยากาศที่นี่ดีจริง ๆ แบบนี้ก็ดีเนอะ ไม่ต้องไปเที่ยวไกล ๆ เที่ยวอยู่แถวนี้ก็ฟินได้เหมือนกัน ว่าแต่...พ่อกับแม่ของเจี๊ยบอยู่หรือเปล่า เนี่ย...เราไม่ได้ซื้อของมาฝากท่านเลยอ่ะ”
“อ๋อ...เจี๊ยบลืมบอกไปว่าพ่อกับแม่ไปต่างจังหวัด อีกวันสองวันคงกลับ แต่ที่บ้านก็มีคนอยู่นะ ลงมาก่อนซี”
จีรนันท์เปิดประตูรถ ดารากานต์รีบตามลงไป ทั้งสองช่วยกันหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางลงจากกระโปรงท้ายและขึ้นไปบนเรือนทรงไทย ดารากานต์มองไปรอบ ๆ บ้านที่เงียบสงบและเอ่ยขึ้นว่า
“แหม...บ้านของเจี๊ยบนี่สบายดีจังเลยนะ กานต์ช๊อบชอบบ้านแบบนี้ อยู่แล้วสบายใจ เนี่ย...อยู่หลายวันไม่เป็นไรใช่ไหม คงไม่เป็นการรบกวนเจี๊ยบมากไปนะ”
“คิดอะไรอย่างนั้นล่ะกานต์ ถือว่าเจี๊ยบได้กลับบ้านด้วยไง”
“นั่นใครมาน่ะ”
เสียงที่ดังขึ้นทำให้ทั้งสองสาวรุ่นชะงัก แต่เมื่อเห็นว่าใครเดินออกมาจีรนันท์ก็เป็นคนพูดขึ้นว่า
“คุณปู่...สวัสดีค่ะ...หนูเองค่ะคุณปู่”
หล่อนเดินเข้าไปหาชายรูปร่างสูงใหญ่สวมเสื้อยืดกางเกงแพร หน้าตามีริ้วรอยตามวัยที่เดินออกมาดูว่ามีใครมาบ้านและเมื่อเห็นว่าเป็นจีรนันท์ชายผู้นั้นก็ยิ้มออกมา
“อ้าว!...เจี๊ยบเองเหรอ ปู่นึกว่าใครมาซะอีก”
“เจี๊ยบเองค่ะปู่ แหม...เห็นบ้านเงียบนี่นึกว่าไม่มีใครอยู่วะอีกนะคะเนี่ย”
“ปู่เพิ่งตื่นน่ะ แล้วนี่มาก็ไม่เห็นโทรมาบอกล่วงหน้า รู้รึยังว่าพ่อกับแม่เราเขาไปต่างจังหวัด สองสามวันถึงจะกลับ”
“เจี๊ยบรู้แล้วค่ะ เพราะโทรหาแม่เมื่อคืน แต่ไม่ทันได้โทรมาหาปู่ กะว่าจะทำให้ตกใจเล่น”
“เออ...ไอ้หลานคนนี้ ทำคนแก่ตกใจ ถ้าปู่หัวใจวายตายไปจะว่ายังไง”
“ปู่ของเจ๊ยบแข็งแรงขนาดนี้ไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอกนะคะ อ้อ...ลืมไปค่ะปู่ เจี๊ยบกลับมาคราวนี้พาเพื่อนมาด้วย นี่ค่ะ ดารากานต์ เรียก กานต์ เฉย ๆ ก็ได้ค่ะปู่ เป็นเพื่อนของเจี๊ยบที่มหาลัยค่ะ”
บทที่ 2
จีรนันท์รีบแนะนำเพื่อนสนิทให้ชายที่หล่อนเรียกว่าปู่ได้รู้จัก และในขณะนั้นดารากานต์ก็ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม แว่บแรกที่หล่อนเห็นชายคนนี้ไม่นึกว่าเพื่อนสนิทของหล่อนจะเรียกเขาว่าปู่ นึกว่าเป็นลุงซะอีก เพราะดูจากหน้าตาแม้จะมีริ้วรอยแต่ดูเผิน ๆ เหมือนยังไม่แก่สักเท่าไหร่ ฟังแล้วชวนให้นึกว่าจีรนันท์ไม่น่าเรียกให้ดูแก่ถึงขนาดนั้น เพราะท่าทางชายตรงหน้าก็ยังแข็งแรง รูปร่างใหญ่โตแม้สวมชุดลำลองแต่ก็เห็นได้ชัดว่ายังดูดีอยู่ ที่น่าประหลาดใจมากกว่านั้นคือท่าทางการเดินที่ยังแข็งแรงและสมาร์ท สักครู่จีรนันท์ก็เอ่ยขึ้น
“เจี๊ยบขอแนะนำนะกานต์ นี่คือคุณปู่ของเจี๊ยบเอง คนแถวนี้เขาเรียกปู่เหิม เรียกชื่อเล่นของปู่น่ะ”
“สวัสดีค่ะคุณปู่” ดารากานต์ยกมือไหว้อีกครั้ง “แหม...ตอนแรกที่เห็นนึกว่าเป็นคุณลุงของเจี๊ยบซะอีก ไม่อยากเชื่อเลยนะคะว่าเป็นคุณปู่ของเจี๊ยบเพราะยังดูแข็งแรงมาก ๆ เลยค่ะ”
พอได้ยินสาวรุ่นหลานพูดเช่นนั้นปู่เหิมก็ถึงกับยิ้มกว้าง