รสนิยมของชนชั้นสูง
ตอน ไปเก็บสมุนไพรกับทาส (3p)
แสงแดดยามเช้าทาบทาภูผาสูงเสียดฟ้า อากาศเย็นยะเยือกจับใจ บ่งบอกว่าย่างเข้าสู่ฤดูหนาว แม้จะยังไม่ถึงเวลาหิมะตกหนัก แต่เกล็ดสีขาวบริสุทธิ์ก็โปรยปรายลงมาเบาๆ ราวกับสายหมอกที่เต้นระบำกลางอากาศทั่วบริเวณปราสาทตั้งอยู่
ปราสาทหินผาสีเทาของท่านมิวะตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาสูง ริมหน้าผาอันเวิ้งว้าง มันดูแข็งแกร่งและน่าเกรงขาม โดดเด่นอยู่ท่ามกลางผืนป่าทึบเบียดเสียดกันเป็นพรมสีเขียวทอดยาวจรดสายน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลหลั่งลงมาจากผาสูงสู่แม่น้ำที่คดเคี้ยวราวกับเส้นไหม
บ้านเรือนต่างๆเรียงรายอยู่บนเนินผาที่ลดหลั่นกันลงไป บ้างก็เป็นกระท่อมไม้เรียงรายอยู่ล่างหุบเหวติดกับทะเลสาบ เมืองแห่งนี้ถูกโอบล้อมด้วยภูผาสูงตระหง่านเสียดฟ้า สลับกับหุบเหวอันลึกล้ำ เป็นอาณาจักรแห่งความสงบงามที่ซ่อนตัวอยู่จากโลกภายนอก
หน้าที่ของท่านมิวะ สามีของท่านหญิง อุอินะ นั้นหนักอึ้ง ท่านจำต้องใช้ทาสชายหญิงจำนวนมากเพื่อก่อร่างสร้างเมืองใหม่ ขยายอาณาเขต สร้างสะพานเชื่อมโยงหุบเขา และเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ไว้ใช้สำหรับประชาชนที่เจ้านายใหญ่ในเมืองหลวงสั่งให้อพยพหนีภัยธรรมชาติมาอยู่ยังเมืองนี้
ทว่าบัดนี้การขยายเมืองกลับล่าช้าลงอย่างมาก สาเหตุสำคัญคือโรคไข้ป่าที่กำลังระบาดหนัก ทำให้ชาวบ้านและแรงงานล้มป่วยและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่เพียงงานจะไม่คืบหน้า งบประมาณจากเมืองหลวงอาจถูกตัดอีกด้วย
ดังนั้น เช้านี้ ท่านหญิง อุอินะ จึงมีกิจสำคัญ เธอต้องออกไปหาเก็บสมุนไพรหายากในป่าลึกบนยอดเขาสูง สมุนไพรชนิดนี้มีสรรพคุณวิเศษ ใช้รักษาโรคไข้ป่าที่กำลังระบาดหนักในหมู่ประชาชนและทาสที่อพยพมาใหม่ๆ นี่เป็นหน้าที่สำคัญที่ท่านมิวะมอบหมายให้ดูแลเป็นพิเศษ เพราะท่านหญิงมีความรู้เรื่องสมุนไพรเป็นอย่างดีและมีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่สามารถรักษาโรคนี้ได้
ท่านหญิง อุอินะ สวมชุดคลุมผ้าไหมหนาสีขาวนวล ตัดเย็บอย่างประณีต ด้านในบุด้วยขนสัตว์นุ่มละเอียดเพื่อกันความหนาวเย็น ผมยาวสลวยของเธอถูกรวบขึ้นมิดชิดภายใต้ผ้าคลุมศีรษะสีเดียวกัน เผยให้เห็นเพียงใบหน้าเรียวสวยที่เปล่งประกายท้าทายความหนาว
ทาสรับใช้ที่แข็งแรงกำยำสองคนยืนรออยู่ข้างม้าสีขาวปลอดเพียงตัวเดียวที่ท่านหญิงจะขี่ พวกเขาคือ ไทม์ และ คีริน สองทาสที่ท่านมิวะไว้วางใจให้ติดตามท่านหญิงไปคอยคุ้มครองอารักขาภรรยาสุดที่รัก
พวกเขาทั้งสองเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำแดดจากการทำงานกลางแจ้ง แขนขาเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อที่บ่งบอกถึงพละกำลังและประสบการณ์ในการทำงานหนัก พวกเขาสวมเสื้อผ้าหนังสัตว์หนาๆ สำหรับฤดูหนาว แต่ก็ยังดูทะมัดทะแมง
ท่านหญิง อุอินะ ขึ้นม้าสีขาวปลอดอย่างสง่างาม ไทม์ เดินนำหน้าม้าไปอย่างระมัดระวัง คอยสำรวจเส้นทาง ส่วนคีรินเดินตามอยู่ด้านหลังคอยระวังภัยจากทุกทิศทาง ทาสทั้งสองคนนี้ไม่กล้าจะแตะต้องท่านหญิงเลยแม้แต่น้อยหากไม่ได้รับคำอนุญาต แม้ในใจจะอยากเพียงใดก็ตาม
นั่นอาจเพราะเธอสูงส่งดุจเทพธิดา สามีของเธอเป็นเจ้าเมือง และมีกฎหมายของท่านเจ้าเมืองที่ศักดิ์สิทธิ์และเด็ดขาด ยังมีโทษการประหารด้วยการตัดตัวสำหรับความผิดร้ายแรง
ม้าตัวเดียวค่อยๆ ก้าวเดินไปตามทางแคบๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะบางๆ เสียงกีบม้ากระทบพื้นดินดังกระทบก้องไปทั่วบริเวณป่าที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่ยืนต้นสูงตระหง่านกิ่งก้านปกคลุมไปด้วยเกล็ดหิมะสีขาว พืชพรรณบางชนิดยังคงเขียวสดตัดกับสีขาวของหิมะ ดอกไม้ป่าบางชนิดที่เคยบานสะพรั่ง บัดนี้กลับถูกหิมะคลุมกลีบดอกบางเบา ดูงดงามแปลกตา
ลึกเข้าไปในป่า บรรยากาศยิ่งเย็นยะเยือกและเงียบสงบมากขึ้น มีเพียงเสียงลมพัดและเสียงใบไม้ที่ร่วงหล่น ไทม์และคีรินคอยมองสำรวจรอบๆ ตัวอย่างระมัดระวัง ดวงตาของพวกเขาจ้องมองไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีภยันตรายใดๆ มากล้ำกรายนายหญิงของพวกเขา
ท่านหญิง อุอินะ มองสำรวจทิวทัศน์รอบตัวอย่างเพลิดเพลิน เธอรู้สึกถึงความสงบและอิสระที่หาไม่ได้ในปราสาท แม้จะหนาวเย็น แต่เธอก็มีความสุขกับการได้ออกมาสัมผัสธรรมชาติอันกว้างใหญ่
ทว่ายิ่งห่างไกลจากปราสาทมากขึ้นเท่าไรหิมะก็ยิ่งเริ่มโปรยปรายหนักขึ้นเรื่อยๆ เกล็ดหิมะสีขาวปลิวว่อนไปทั่วผืนป่า บดบังทัศนียภาพจนมองเห็นเส้นทางข้างหน้าได้ยากขึ้น อากาศเย็นยะเยือกกัดกินผิวหนังจนแสบไปหมด ท่านหญิง อุอินะ สวมผ้าคลุมศีรษะแน่นขึ้น เพื่อกันความหนาวเย็นที่แทรกซึมเข้ามา
"ท่านหญิงครับ ทางข้างหน้าเริ่มลื่นแล้วนะครับ" ไทม์เอ่ยเตือน น้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยความกังวลเล็กน้อย เขายังคงเดินนำหน้าม้าไปอย่างระมัดระวัง พลางใช้ไม้เท้าที่ถืออยู่แหวกหิมะเพื่อหาเส้นทางที่ปลอดภัย
คีรินที่เดินตามอยู่ด้านหลัง ก็คอยมองสำรวจรอบๆ ตัวอย่างไม่ลดละ ดวงตาของเขากวาดมองไปทั่วบริเวณปิ่งไม้และพุ่มไม้ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีภยันตรายใดๆ แอบซ่อนอยู่
ม้าสีขาวปลอดที่ท่านหญิงขี่ เริ่มก้าวเดินช้าลงกว่าเดิม เสียงฝีเท้าของมันที่ย่ำไปบนหิมะดังซู่ซ่าเป็นระยะๆ ทั่วบริเวณป่าที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงลมพัดและเสียงใบไม้ที่ร่วงหล่นเท่านั้น
แต่แล้ว จู่ๆ ม้าที่ท่านหญิงขี่ก็พลัดลื่นเข้ากับก้อนหินที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ร่างของมันเซไปข้างหนึ่ง ท่านหญิง อุอินะ เสียหลักเล็กน้อย ร่างกายของเธอเอียงไปตามแรงของม้า
"ท่านหญิง" ไทม์ร้องเสียงหลง เขารีบหันกลับมามองท่านหญิงด้วยความตกใจ
คีรินเองก็รีบวิ่งเข้ามาประคองม้าไว้ทันที "ท่านหญิงครับ! เป็นอะไรไหมครับ"
ท่านหญิง อุอินะ พยายามทรงตัวอยู่บนหลังม้า เธอรู้สึกใจหายเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนัก "ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันไม่เป็นไร"
ไทม์และคีรินถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก พวกเขาช่วยกันประคองม้าให้กลับมายืนได้อย่างมั่นคง ก่อนที่ไทม์จะเดินเข้ามาใกล้ท่านหญิง
"ท่านหญิงครับ ทางข้างหน้ามันอันตรายเกินไปแล้วนะครับ หิมะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ทางก็ลื่นมากด้วย" ไทม์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความกังวล "ข้าน้อยว่าเราควรหาที่หลบหิมะก่อนดีกว่านะครับ"
ท่านหญิง อุอินะ มองไปรอบๆ ผืนป่าที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เธอรู้ดีว่าคำเตือนของไทม์มีเหตุผล
อืม! "หาที่พักชั่วคราวเถอะ" ท่านหญิง อุอินะ พยักหน้าเห็นด้วย
เธอบังคับม้าให้เลี้ยวไปตามทางแคบๆ ลึกเข้าไปในป่าที่ปกคลุมไปด้วยหิมะหนาหนักกว่าเดิมเล็กน้อย ท่านหญิงขี่ม้านำทางไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอต้นไม้ใหญ่ที่สุดต้นหนึ่ง แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมแน่นหนาพอที่จะป้องกันหิมะที่โปรยปรายลงมาได้
เมื่อมาถึงใต้ต้นไม้ใหญ่ไทม์และคีรินรีบจัดการหักกิ่งไม้แห้งๆ ที่พอจะหาได้รอบๆ ตัว มาช่วยกันก่อกองไฟเล็กๆ ขึ้นอย่างรวดเร็ว แสงไฟสีส้มวูบไหว ให้ความอบอุ่นเล็กน้อยท่ามกลางความหนาวเย็นยะเยือก
ท่านหญิง อุอินะ นั่งลงข้างกองไฟ ยื่นมือไปผิงไออุ่นจากเปลวไฟเล็กๆ นั้น แต่หิมะที่ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ และลมที่พัดโชยมาเป็นระยะๆ ก็ทำให้ความอบอุ่นนั้นอยู่ได้ไม่นาน เชื้อไฟเริ่มมอดลงอย่างรวดเร็ว
ท่านหญิงนั่งพิงหิมะในสภาพที่ตัวสั่นเทิ้ม ฟันสบกันดังกึก! ๆ ๆ เธอรู้สึกหนาวสะท้านไปถึงกระดูก ความหนาวเย็นที่แผ่ซ่านเข้ามาในทุกอณูของร่างกายทำให้เธอทนไม่ไหวอีกต่อไป
"ไทม์ คีริน พวกเจ้ามามากอดฉันที" ท่านหญิง อุอินะ สั่งเสียงสั่น เธอมองไปยังทาสทั้งสองที่นั่งอยู่ไม่ไกล ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความต้องการไออุ่นอย่างที่สุด
ไทม์และคีรินมองหน้ากันเล็กน้อย แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความปรารถนาที่ยากจะปกปิด แต่เมื่อเห็นอาการสั่นเทาของท่านหญิง พวกเขาก็รีบทำตามคำสั่ง
"ท่านหญิงครับ พวกผมจะทำให้อุ่นขึ้นนะครับ" ไทม์กล่าวด้วยน้ำเสียงหอบพร่า
พวกเขาทั้งสองรีบถอดเสื้อผ้าหนาๆ ของตนเองออกอย่างรวดเร็ว โยนลงบนกองไฟที่ใกล้จะมอดเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงให้ม้าและคน เปลวไฟลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ร่างกายกำยำล่ำสันของไทม์และคีรินเปลือยเปล่าภายใต้แสงไฟที่ริบหรี่
จากนั้น พวกเขาก็ลงมานอนหงายราบอยู่บนพื้นหิมะเย็นยะเยือก เคียงข้างกัน ทำตัวเป็นเสมือนเตียงนอนชั่วคราว ไทม์พยักหน้าให้ท่านหญิง อุอินะ