"จอดๆๆๆ จอดก่อนค่าพี่ยอด!"
ยอดมวยไทยกำลังจะเลี้ยวรถออกจากคลับ เหยียบเบรกแทบหัวทิ่มเพราะตกใจในน้ำเสียงของเมษา มองอีกฝ่ายปลดเบลท์ออกแล้วเปิดประตูลงจากรถอย่างไว
ทีงี้เดินเร็ว?
แสบจริงๆ!
เมษาเดินไปหยุดที่ร้านขายกับข้าว ซื้อของกินแล้วเดินไปยืนรอ ไม่นานก็มีพระหนึ่งรูปเดินผ่านมา
"นิมนต์เจ้าค่ะหลวงพ่อ" เมษาถอดรองเท้าออกแล้วนั่งคุกเข่าลงบนพื้นเตรียมใส่บาตร
"ยังไม่แก่ขนาดนั้นโยม" ปากบอกพร้อมมือเปิดฝาบาตรออกเพื่อรับของบิณฑบาต
"เป็นหลวงพี่เหรอเจ้าคะ" เมษาเงยหน้าขึ้นถาม ฝ่ายนั้นจึงพยักหน้าให้
ยังไม่แก่จริงๆ ด้วย น่าจะสามสิบกว่าๆ ประมาณนี้
"ขอโทษเจ้าค่ะ" เมษาค่อยๆ ทยอยนำกับข้าวใส่ลงไปในบาตร น้ำเปล่าหนึ่งขวดและดอกไม้วางบนฝาบาตร พนมมือขึ้นรับพร
"อายุ วัณโณ สุขัง พลัง"
"หลวงพี่เจ้าขา"
เท้ายาวหยุดชะงัก หันกลับไปมอง รอฟังที่โยมผู้หญิงพูด
"หลวงพี่ให้พรเป็นอย่างอื่นเป็นไหมเจ้าคะ"
หลวงพี่ทำหน้าครุ่นคิด
"ยังไงโยม"
"หลวงพี่เห็นผู้ชายที่นั่งอยู่ในรถไหมเจ้าคะ"
หลวงพี่มองตามมือโยมผู้หญิงชี้ไปยังรถกระบะสี่ประตูคันสีดำ เห็นผู้ชายนั่งตำแหน่งคนขับในนั้นเพียงลางๆ จึงดึงสายตากลับมามองหน้าโยมผู้หญิง พยักหน้าให้ช้าๆ
"นั่นแฟนของหนูเจ้าค่ะ แต่เขายังไม่ได้รักหนูหรอกนะเจ้าคะ"
"ไม่รักกัน แล้วเป็นแฟนกันได้ไงโยม" หลวงพี่ถามกลับด้วยความแปลกใจ เป็นความสัมพันธ์แบบไหน คนสมัยนี้ค่อนข้างพิลึก
"คือ..หนูรักพี่เขาข้างเดียวเจ้าค่ะ ก็เลยมาขอคบกับพี่เขา แต่กว่าจะได้คบ หนูคะยั้นคะยอมาหลายที ตามจีบมาก็หลายหน จนตอนนี้พี่เขาตอบตกลงให้ลองคบกันสามเดือน แต่หากถึงสามเดือนแล้วพี่เขายังรักหนูไม่ได้ เราต้องต่างคนต่างไปเจ้าค่ะ"
"..."
"หลวงพี่ช่วยอวยพรให้หนูกับพี่เขารักกันนานๆ หน่อยได้ไหมเจ้าคะ หนูไม่อยากคบกับพี่เขาแค่สามเดือน หนูอยากอยู่กับพี่เขาไปตลอดชีวิต จนชั่วฟ้าดินสลายเลยเจ้าค่ะ"
"...อาตมาทำแบบนั้นไม่ได้หรอกโยม" หลวงพี่เงียบไปพักนึงจึงเอ่ยออกมา กลัวกระทบใจคนฟังไหม ก็กลัว
แต่คนเราต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง เราไปบังคับใจใครไม่ได้อยู่แล้ว
"ทำไมเจ้าคะ" เมษาน้ำตาคลอ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังอยากฟังคำอธิบายอยู่ดี
"ถ้าหากคำอวยพรมันทำให้เป็นจริงได้ อาตมาก็คงไม่ต้องหนีมาบวชแบบนี้หรอก" เอ่ยจบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองลวกๆ ทำเอาเมษาตกใจ
"อาตมาก็โดนเมียทิ้งมาเหมือนกันโยม ทั้งที่บอกว่าจะรักกันไปจนแก่เฒ่า ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร แต่พอเจอคนใหม่ เขาก็หนีไปด้วยกันเฉย ไม่คิดเลยว่าเคยพูดเคยสัญญาอะไรไว้"
"หลวงพี่.."
"อาตมาก็เลยหนีมาบวชเพราะคิดว่าจะใช้ธรรมมะเข้าช่วย สรุป เขาพาผัวใหม่มาทำบุญที่วัด มาขี้ใส่ใจอาตมาชัดๆ!"
"..."
"นี่ก็เข้าสามเดือนเต็มแล้วนะ ที่อาตมาต้องทนเห็นภาพแบบนี้เกือบทุกวัน!"
"ละ..หลวงพี่" เมษากลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ ไม่คิดว่าภูมิหลังของหลวงพี่จะมีที่มาที่ไปแบบนี้
"แต่ไม่เป็นไรหรอกนะโยม เดือนหน้าอาตมาว่าจะสึกแล้วล่ะ คงไม่ได้เจอเขาทั้งคู่แล้ว"
"สึกแล้วหลวงพี่จะไปอยู่ที่ไหนเจ้าคะ"
"อยู่ที่วัดเหมือนเดิมเนี่ยแหละ"
"อ้าว...งั้นแบบนี้หลวงพี่ก็ไม่พ้นต้องทนเห็นเหมือนเดิมเหรอเจ้าคะ" แบบนี้เรียกไม่เจอตรงไหน
อีเมษางง!
"ไม่หรอก เพราะอาตมาจะไปเป็นสัปเหร่อ ถ้าพวกมันแน่จริงก็ตายคู่กันมาเลยสิ อาตมาจะได้เผาผีพร้อมกัน!"
"ห๋าาาา"
"โยมอย่าไปบอกใครนะเรื่องที่อาตมาเล่าให้ฟัง" หลวงพี่ได้สติกลับมา มองซ้ายมองขวา เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังอยู่ในบริบทไหน
"ดะ..ได้เจ้าค่ะ" เมษาพยักหน้ารัวๆ
"หนูสัญญาว่าจะรูดซิปปากให้สนิทเลยเจ้าค่ะ"
"ขอบใจมากโยม" หลวงพี่เอ่ยจบรีบเดินจากไป
เมษาเกาหัวยิกๆ มองตามหลังหลวงพี่
อะไรกันวะเนี่ย! สรุปแล้วหลวงพี่หนักกว่าของเธออีกเหรอ
โดนเมียทิ้งไม่พอ เมียเก่ายังพาผัวใหม่ไปทำบุญที่วัดเป็นประจำอีกด้วย
ผู้หญิงคนนั้น จิตใจทำด้วยอะไรวะ! แบบนี้ฆ่าให้ตายยังดีกว่า
เมษาเดินกลับไปขึ้นรถกับท่าทางเซ็งๆ