“คืนนี้สนุกมากไหมขิม?” เสียงเข้มเอ่ยพร้อมแสงไฟสว่างวาบ ปรากฏให้เห็นเจ้าของเรือนร่างกำยำซึ่งนั่งไขว่ห้างบริเวณปลายเตียง
มีคำถามบางอย่างผุดขึ้นในใจคริมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอกำลังสงสัยว่าการินมาทำอะไรที่นี่
“คุณกาย…”
“ผมถามว่าคืนนี้ขิมสนุกไหม” ชายหนุ่มย้ำขณะสำรวจใบหน้าแดงก่ำของคนตรงหน้า
“ขอโทษนะคะ ขิมไม่น่ากลับดึก”
“หึ! คิดว่าผมไม่พอใจเรื่องกลับดึก” การินลุกยืนเต็มความสูงพลางย่างก้าวเข้าหาเธอช้าๆ แม้วงหน้าหล่อเหลาดูราบเรียบติดเย็นชา แต่วูบหนึ่งหญิงสาวสัมผัสถึงความไม่พอใจผ่านสายตาคู่นั้นก่อนจะนิ่งสงบตามเดิม เวลานี้ทั้งคู่ยืนใกล้กันแค่คืบ มือหยาบกระด้างเอื้อมบีบปลายคางมนและถามย้ำคำเดิม
“สนุกไหม”
“กะ…ก็ดีค่ะ” เธอตอบไม่เต็มเสียง อาจเพราะผู้ชายตรงหน้ามีอิทธิพลต่อใจดวงน้อยละมั้งถึงกลัวเขาโกรธ
“ขิมมีความสุขผมก็ดีใจ”
“…”
“แต่จำได้หรือเปล่าครั้งสุดท้ายที่ดื่ม ระหว่างเราจบยังไง” เมื่อพูดจบการินก็ฉวยโอกาสอุ้มร่างบางและหมุนเท้าไปทางเตียงกว้าง
เขาโยนคริมาลงบนที่นอนสุดแรง ไม่ระวังสักนิดว่าคนตัวเล็กอาจเจ็บตัว แต่นับว่าเป็นโชคดีที่มันนุ่มมากเธอจึงไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่ออกจะหวั่นเกรงกับท่าทีดิบเถื่อนกับแววตาซ่อนอารมณ์ปรารถนาแบบนี้มากกว่า
เพราะการกระทำของการินทำเอาคริมาหวนคิดถึงวันนั้น…
วันที่ตัดสินใจก้าวสู่กรงขัง ยอมตกอยู่ในสถานะคนในความลับแม้ปลายทางอาจไม่สมหวังก็ตาม
เมื่อสี่ปีก่อน…
คืนนี้บรรยากาศยามราตรีของ The heaven ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน เพราะแท้จริงสถานที่แห่งนี้คือเลาจน์ลับๆ ซึ่งส่วนมากมีแต่ลูกค้ากระเป๋าหนักเท่านั้นที่รู้จัก เจ้าของ The heaven มีธุรกิจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร บาร์กึ่งผับชื่อดัง หรือแม้กระทั่งบ่อนการพนัน
แต่สำหรับคนที่ไม่เคยก้าวเข้าสู่โลกสีเทาอย่างเธอ วันนี้พาตัวเองมาที่นี่ก็เพราะ ‘เกรียงไกร’ ผู้เป็นพ่อขอร้อง ท่านติดหนี้ก้อนโตจนลูกสาวคนเดียวต้องรวบรวมเงินจำนวนหนึ่งเพื่อมาไถ่ตัว
แม้ตอนนั้นคริมาเป็นแค่นักเรียนทุนธรรมดา แต่เพราะความขยัน เธอมักหางานพาร์ตไทม์ทำหลังเลิกเรียน และบ่อยครั้งที่รับสอนพิเศษเพื่อนร่วมห้องจึงทำให้พอมีเงินเก็บ
‘รีบมานะขิม พวกมันกำลังจะทำร้ายพ่อ…พ่อกลัว’
‘ไม่ต้องห่วงนะคะพ่อ ขิมกำลังเข้าไป’
เสียงหวานกรอกผ่านโทรศัพท์บอกให้ปลายสายใจเย็นลง มือนุ่มยื่นบัตรประชาชนให้การ์ดข้างหน้า ชายฉกรรจ์เหลือบสบตากันครู่หนึ่งราวให้สัญญาณ แล้วหนึ่งในนั้นก็ชี้ไปทางขวามือ
‘ทางนั้น’ เหมือนพวกเขารู้เป็นนัยว่าวันนี้เธอมาที่นี่เพราะเหตุใด ถึงคริมาแอบสงสัยแต่ก็ไม่เอ่ยปากถามให้มากความ เพราะเธออยากเอาเงินให้เจ้าหนี้เพื่อจบปัญหาทุกอย่าง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าหายนะกำลังมาเยือนตนเอง
เจ้าของร่างบางเดินไปตามซอกแคบ บรรยากาศรอบกายมีเพียงแสงไฟสลัวนำทางราวกับข้างบนนั้นมีความลับบางอย่างซ่อนไว้
เธอขึ้นมาบนชั้นสอง ดวงตาทั้งสองข้างเริ่มสังเกตโดยรอบก็พบห้องที่บิดาเอ่ยถึง คริมาไม่รอช้ามือบางหมุนด้ามจับประตูสีทองทันที
แกร๊ก…
หากเพียงแค่สัมผัสกลอนข้างในก็คลายล็อกคล้ายรอเธออยู่
ภายในห้องกว้างเงียบสนิท ไม่มีใครอยู่ในนั้นสักคนแตกต่างจากคำบอกเล่าของบิดาก่อนมาถึงที่นี่ ท่านเอ่ยเสียงสั่นว่าอยู่ๆ ก็ถูกชายร่างใหญ่หลายคนจับมา พวกมันดักรอหน้าอู่แท็กซี่ที่ปกติเกรียงไกรไปเช่าเพื่อขับหารายได้ในแต่ละวัน
‘พ่อคะ…’ คริมาเรียกบิดาเพราะหวังว่าท่านจะปรากฏตัว
‘…’ แต่แล้วก็ได้รับกลับมาเพียงความเงียบงัน
‘พ่อ…’ ใจคนเป็นลูกสั่นไหวรุนแรง เธอเกรงว่าอาจมาช้าจนทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายกับเกรียงไกร คริมาห่วงท่านโดยไม่เหลียวมองเลยว่า…
ใครบางคนกำลังรวบตัวเธอจากทางข้างหลัง!
‘กะ…กรี๊ด!’ หญิงสาวกำลังจะอ้าปากร้องขอความช่วยเหลือแต่กลับถูกใครบางคนรวบตัวไว้ ชายผู้นั้นใช้ผ้าผืนเล็กปิดปากและจมูกทำให้เธอสูดกลิ่นประหลาดเข้าปอดอย่างจัง กลิ่นดังกล่าวเย็นเยือกแต่ชวนเวียนหัวจนคริมามึนงง และความรู้สึกสุดท้ายก่อนสติจะวูบดับคือผิดหวัง…
เพราะพ่อ…ผู้ชายที่เธอรักที่สุดทรยศหักหลังกันอย่างเลือดเย็น!
พอลืมตาอีกทีก็พบว่าถูกแปลงโฉมให้อยู่ในชุดนอนน้อยชิ้นสุดเซ็กซี่ เนื้อผ้าบางเบาแนบร่างระหงเผยทรวดทรงชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นหน้าอกอวบอิ่มขนาดพอดิบพอดีมือ เอวคอดกิ่วรับกับสะโพกผายที่ผู้หญิงทุกคนต่างใฝ่ฝัน ไหนจะผิวขาวละเอียดซึ่งได้รับยีนเด่นจากมารดา ทุกอย่างรวมกันทำให้คริมาดูเย้ายวนกว่าเดิมหลายเท่า
‘พวกคุณเป็นใคร…’ แววตาหวาดผวาถามพลางมองรอบข้าง ภาพแรกที่เธอเห็นคือหญิงสาวแต่งกายน้อยชิ้นคล้ายๆ กันเต็มไปหมด ถัดจากนั้นก็คือชายตัวโตยืนกอดอกเฝ้าข้างประตูราวผู้คุม
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่!
‘หึ…สาวน้อยถูกขายแล้ว’ หนึ่งในพวกมันจ้องเธอตั้งแต่หัวจดเท้า สายตาโลมเลียทำให้คริมายกมือทั้งสองข้างกอดตัวเองเพื่อป้องกันตัว
‘มะ…ไม่จริง!’ คำตอบที่ได้รับทำเด็กสาวปวดใจจนแทบยืนไม่อยู่ ใครบ้างจะคาดคิดว่าพ่อแท้ๆ จะหลอกลูกตัวเองมาทำเรื่องอย่างว่าโดยไม่เต็มใจ
‘พ่อไม่มีวัน…’
‘พ่อเธอให้เธอมาทำงานที่นี่แก้ขัดแลกกับดอกเบี้ยทั้งหมด ไม่เชื่อก็ดูสัญญานี่ซะ มันเป็นคนเซ็นเองกับมือ!’
มือสั่นเทาอ่านสัญญาที่ว่าผ่านแววตาสั่นระริก ริมฝีปากอวบอิ่มกัดเข้าหากันช้าๆ จนรู้สึกถึงรสเลือดยามกวาดตาอ่านทีละบรรทัด แม้กายเจ็บเพียงใดแต่คงไม่เท่าความรู้สึกที่แตกสลาย ลายเซ็นของบิดาบนกระดาษใบนี้บีบดวงใจเธออย่างรุนแรง คริมาอยากรู้นัก ท่านเคยรักกันสักนิดหรือเปล่า เกรียงไกรเห็นผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวบ้างไหม
‘อย่ามัวแต่ร้องไห้ เธอหมดทางออกแล้ว อีกสิบนาทีการประมูลจะเริ่มขึ้น ไปรับแขกเดี๋ยวนี้!’
‘แต่ฉันมีเงิน…ฉันเอาเงินมานะ’ คริมาพยายามต่อรอง
‘มึงจะลุกดีๆ หรือให้กูลงมือ!’ พอเห็นว่าเด็กสาวเริ่มงี่เง่า ชายใจโหดก็ง้างมือขู่เตรียมใช้กำลัง
‘แต่ฉัน…’
‘มึงจะกลับก็ได้นะ แต่สัญญาฉบับนี้กูจะบอกนายว่าเป็นโมฆะแล้วพรุ่งนี้เตรียมตัวเห็นศพพ่อตัวเองลงข่าวหน้าหนึ่งได้เลย!’ เสียงเข้มว่าขณะหยิบเครื่องมือสื่อสารออกจากกระเป๋ากางเกง ปลายนิ้วจิ้มหน้าจอจนเธอตื่นกลัว ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถหนีชะตาอันขมขื่นเพราะใจยังรักพ่ออยู่ดี คริมาจำต้องทำตามสิ่งที่พวกมันสั่ง ไม่เว้นแม้กระทั่งเอาตัวเองขึ้นประมูล
ก้าวแรกที่เหยียบเวที เสียงโห่ร้องดังลั่นเพราะพิธีกรประกาศว่าเธอคือสินค้าสดใหม่ ผิวกายขาวผ่องในชุดนอนวาบหวิวเล่นแสงไฟยิ่งยั่วสายตาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ให้น้ำลายหกเป็นแถบๆ ยิ่งพวกเขาให้ความสนใจมากเท่าไร นัยน์ตาหวาดผวาไม่กล้าเหลียวมองรอบกายเลยสักนิด หญิงสาวกัดปากกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลนองกลางเวที และวินาทีก่อนการประมูลเสร็จสิ้นใครบางคนกลับปรากฏตัวขึ้น
เขาคือลูกค้า VVIP ของร้าน…เป็นคนที่เธอรู้จัก และผู้ชายคนนั้นก็คือการิน!
ไฮโซหนุ่มประมูลเธอในเสี้ยววินาทีสุดท้ายด้วยราคาสิบล้านบาท พอได้หญิงสาวมาครอบครองก็มีการไถ่ถามกับผู้จัดการ The heaven เพราะรู้ว่าคริมาไม่น่าจะทำอะไรแบบนี้ถ้าไม่จำเป็น พอรู้เบื้องหลังเรื่องเธอถูกนำมาขายต่อเพื่อล้างหนี้ การินจึงเสนอจ่ายเงินทั้งหมดให้อีกฝ่ายและขอให้สัญญาทั้งหมดยุติเพียงเท่านี้
นาทีนั้นชายหนุ่มคือเจ้าชายขี่ม้าขาวสำหรับเธอ แต่แล้วเหตุการณ์ทุกอย่างกลับตาลปัตร เมื่อสาวน้อยร้องไห้ตลอดทางทำเอาคนนิสัยแข็งกระด้างปลอบใครไม่เป็นไปต่อไม่ถูก
‘ฮึก…ฮือ…ขิมขอโทษนะคะที่ทำให้คุณกายเดือดร้อน’ เสียงสะอื้นแทบไม่เป็นภาษา คริมาพูดไปร้องไปจนใบหน้าหวานมีแต่น้ำตา
‘แต่ขิมเสียใจ...ทำไมพ่อไม่รักขิมเลย’
‘รู้ว่าเขาไม่รักแล้วเธอไปที่นั่นทำไม?’ การินถามกลับ เขาให้ความสำคัญกับครอบครัวก็จริง แต่สมัยนี้พ่อแม่บางคนก็ไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยสำหรับลูก ข่าวแม่จับลูกตัวเองไปขาย พ่อข่มขืนลูกมีออกถมไป ยายนี่ไม่เปิดตาดูโทรทัศน์บ้างหรือไง
‘ฮะ...ฮือ...ก็ขิมรักเขานี่!’
‘…’
‘เขาเป็นพ่อ ขิมไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่เป็นคนมีหัวใจนะคะ’ ได้ยินประโยคสวนกลับคนฟังนิ่งพักหนึ่ง แต่เขาก็ยังลอบสังเกตหญิงข้างกายไม่ละสายตา ยายตัวเล็กแนบหน้ากับเบาะรถร้องไห้เงียบๆ แม้คุณหญิงพราวพรรณเคยเล่าให้ฟังว่าเธอเก่งเรื่องเรียนแค่ไหน แต่พอเจอสถานการณ์ในชีวิตจริงเข้าทำเอาเสียศูนย์ไปเลย
ยายนี่ซื่อหรือโง่ก็ไม่รู้ โดนหลอกไปเลาจน์ขนาดนี้ยังมองพ่อตัวเองในแง่ดีอยู่ได้ มันน่าโมโห!
‘คุณกาย...ขิมไม่อยากกลับบ้าน’ เธอโพล่งบอก
‘แล้วไปไหน’
‘ที่ไหนก็ได้ ถ้าคุณไม่สะดวกแค่ไปส่งขิมก็พอ’
‘หึ…หาเรื่องเนอะ อุตส่าห์ช่วยขนาดนี้คิดว่าจะปล่อยไปง่ายๆ หรือไง’ ชายหนุ่มกลั้วหัวเราะในลำคอ นัยน์ตาทรงเสน่ห์เสมองเล่นเอาเธอขนลุกซู่ ดูเหมือนโชคไม่เข้าข้างคริมาแต่ดันเลือกฝ่ายการิน เพราะรถคันหรูจอดติดไฟแดงพอดิบพอดี ใบหน้าหล่อจึงถือโอกาสโน้มมาใกล้ชิด ปลายจมูกโด่งรั้นสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ข้างแก้มยายเด็กแสบ
‘ระหว่างเราเอาไงดี?’ เขาเลิกคิ้วถามแล้วรอยยิ้มยียวนก็ผุดบนใบหน้า
‘นี่คุณอย่าบอกนะว่า…’ ร่างบางเขยิบหนีแทบชิดกระจก เธอกัดริมฝีปากเพราะแอบด่าเขาได้เพียงในใจ
ไอ้ลามก เอ๊ย!
‘โอ๊ยคิดอะไรแปลกๆ ได้เนอะ ฉันหมายถึงเราน่าจะไปหาอะไรดื่มก่อนกลับ’ การินโยกศีรษะบางไปมาอย่างเอ็นดู
‘ก็คุณกายเล่นโผล่ไปในที่แบบนั้นจะให้มองในแง่ดีได้ไงล่ะ’ คริมาเถียง
‘จ้าแม่คนระวังตัวเวลาอยู่ใกล้ฉัน...อย่างเดียวที่เธอต้องระวังคือใจตัวเอง’ พูดจบการินก็ขยิบตาให้ เขาพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่พวงมาลัยไม่ต่อบทสนทนาอีก
ชายหนุ่มแวะซื้อเบียร์กระป๋องที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ สวนสาธารณะ เวลาใกล้เที่ยงคืนไม่มีผู้คนพลุกพล่านเหมือนช่วงหัวค่ำ ทั้งคู่จึงนั่งดื่มเบียร์ริมแม่น้ำเงียบๆ ไม่คุยกันสักประโยคเดียว การินฟังคริมาระบายความในใจ เธอปล่อยโฮสุดเสียงพร้อมกระดกเบียร์กระป๋องแล้วกระป๋องเล่า
เขาไม่ปลอบเพราะไม่รู้ว่าควรพูดประโยคไหนให้คนตัวเล็กรู้สึกดี การโดนคนที่รักมากหักหลังนั้นเจ็บปวด ความเสียใจย่อมจุกอก คงไม่มีวันหายง่ายๆ หรอก การินรู้รสชาติของมันดี...
เขาเคยพลาด...เคยผิดหวังเพราะรักมากเช่นกัน!
สองหนุ่มสาวอยู่ตรงนั้นเกือบๆ สองชั่วโมง การินก็หิ้วปีกคริมาขึ้นรถ หญิงสาวใบหน้าแดงก่ำหมดสภาพ แบบนี้คงเพิ่งเคยดื่มครั้งแรก
‘ขิม...’ มือหนาสะกิดไหล่บางให้เธอรู้สึกตัว ขืนพาคริมากลับคฤหาสน์ตอนนี้คงโดนสอบสวนยาว
‘ขิม...ดื่มน้ำก่อนจะได้หายเมา’
‘มะ...ม่าย...ขิมไม่เอา…อย่ามาบังคับขิมนะ!’ เธอปัดขวดน้ำหกหมด ทั้งยังมิวายตอบกลับเสียงดัง
‘ขิมตั้งสติเดี๋ยวนี้นะ!’ การินอยากทึ้งหัวตนเองซ้ำๆ ไม่รู้คิดผิดหรือถูกกันแน่ที่พาเธอมาดื่ม คริมาเมามากจนควบคุมตนเองไม่ได้
‘ขิม!’ เธอปีนขึ้นนั่งบนตักแกร่งก่อนโน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆ ร่างบางเบียดชิดแทบจะสิงเขาอยู่รอมร่อ
‘นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่รู้ตัวไหม’ การินกดเสียงต่ำเพราะความอดทนเขาลดลงเรื่อยๆ เช่นกัน ภาพร่างบางในชุดนอนเซ็กซี่ ผิวกายขาวผ่องสะท้อนแสงไฟ เนินอกอวบอิ่มรับกับเอวคอดกิ่วยังตรึงตาเขาไม่จางหาย และตนไม่ใช่คนดีที่ไหนที่จะทนกับเรื่องแบบนี้ได้นาน
‘ขิมแค่อยากขอบคุณ…’
‘ขิม…’ เสียงแหบพร่าเรียกชื่อเธอ
‘ขอบคุณนะคะ’ ริมฝีปากสีหวานทาบทับเรียวปากหยักหลังพูดจบ ปลายลิ้นนุ่มนิ่มราวเค้กวานิลลาแทรกเข้ามาเพื่อให้เขาชิมรสหวาน การินเผยอปากรับสัมผัสของคนตัวเล็ก ความใกล้ชิดทำเอาใจแกร่งเต้นไม่เป็นส่ำราวกลองชุด รู้แหละว่าคริมากำลังเมา เธอคงไม่รู้สึกตัวหรอก...
แต่เขา...เขาหยุดไม่ได้แล้ว
สุดท้ายความสัมพันธ์ต้องห้ามเกิดขึ้นในค่ำคืนนั้น...กว่าจะรู้ตัวอีกทีคริมาก็ตกอยู่ในสถานะผู้หญิงลับๆ ของการินเกือบสี่ปี เธอกลายเป็นคนในความลับของเขา ใช้ความสาวทดแทนเงินมูลค่ามหาศาลที่การินเสียไปในการประมูลครั้งนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มักเกิดขึ้นเมื่อตอนฝ่ายชายเรียกร้อง ซ้ำยังมีข้อตกลงที่ชัดเจนว่าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีคนรักเมื่อไหร่ พันธนาการครั้งนี้ก็จะจบลง